Posted On
Eat On Earth พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติล้อมรอบตัวคุณ
ภายใต้สวนสวยตามสไตล์ป่าฝน ธรรมชาติร่มรื่นต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาครอบคลุมบริเวณของร้านแห่งนี้ Eat On Earth จึงถือเป็นอีกร้านอาหารหนึ่งที่น้าอ้วนอยากจะแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จัก แว๊บแรกที่มาถึงที่นี่่ น้าอ้วนเชื่อเลยว่าหลายๆ คนจะต้องชอบสถานที่แห่งนี้ ด้วยความร่มเรื่นของต้นไม้นานาพรรณ สวนสวยที่ประดับประดาด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สนามหญ้ากว้างๆ หรือแม้กระทั่งโซนที่เป็น Terrance ก็อาจจะทำให้หลายๆ คนที่มาที่นี่แล้วเลือกที่นั่งไม่ถูกก็เป็นได้
ชื่อร้าน : Eat On Earth พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติล้อมรอบตัวคุณ
ที่อยู่ : 199/371 หมู่ที่ 2 ตำบลหนองจ๊อม อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.827783,99.019673 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 093 1327222 , www.eatonearth.net
เวลาเปิด-ปิด : 10:30 – 21:30 น. ปิดทุกวันจันทร์
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/149781Sf-eat-on-earth
การมาสถานที่สวยๆ แห่งนี้อาจจะต้องมารอบนอกกันนิดหนึ่ง เพราะร้านแห่งนี้เขาอยู่ใกล้ๆ สี่แยกกาดมีโชคนั่นเอง โดยหากเรามาจากทางสามแยกแม่โจ้ (โรงพยาบาลเทพปัญญา) พอมาถึงสี่แยกรวมโชคมีชัย ก็ให้เลี้ยวขวาครับ ขับไปสักพักก็จะเจอหมู่บ้าน The Emperor 2 ซึ่งจะซอยอยู่ติดกับหมู่บ้าน ให้เลี้ยวเข้าไปเลยครับ ประมาณ 1 กิโลเมตร ร้านจะอยู่ซ้ายมือ
หรือหากใครมาจากทางถนนวงแหวนจากศาลากลางมา ก็ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ แต่แนะนำว่าห้ามลอดอุโมงนะครับ เพราะถ้าลอดแล้วจะชิดซ้ายยาก เพราะซอยจะอยู่ค่อนข้างกระชั้นชิดมาก เกรงว่าจะชิดซ้ายไม่ได้ หลังจากเลี้ยวเข้าซอยได้แล้ว ก็ขับไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรครับ ร้านอยู่ซ้ายมือนั่นเอง
ด้วยลักษณะของร้านที่น้าอ้วนเกริ่นไปตั้งแต่ตอนต้นแล้ว หลายๆ คนก็คงอยากจะเห็นแล้วสิว่า ที่น้าอ้วนเกริ่นมานั้นจะสักแค่ไหน ตอนที่น้าอ้วนเดินไปดูรอบๆ ร้านทำให้รู้สึกสดชื่น ร่มรื่น โดยในขณะที่ไปนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็น บรรยากาศนี่ได้เลยครับ เพราะแดดไม่ได้ร้อนจัดอะไรมากมาย ด้วยความสวยงามของสวนที่ทางร้านตกแต่งมาเป็นอย่างดีตามสไตล์ของป่าฝน และสนามหญ้าที่มีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมทั่วบริเวณ เก้าอี้ในสวนก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะมาเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มใหญ่ หรือเป็นคู่ ก็สามารถเลือกนั่งได้ตามชอบใจ
หรือใครไม่ชอบอากาศร้อน อยากเข้ามานั่งชิล ตากแอร์เย็นๆ เขาก็มีโซนห้องแอร์ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นมานั่งเบาๆ จิบกาแฟ ทานขนม หรือจะเป็นมาทานข้าวแบบ full option ทางร้านก็มีโต๊ะเก้าอี้บริการให้อย่างพร้อมสรรพ
และแล้วก็ถึงเวลาเปิดดูเมนูอาหาร ที่นี่ก็จะมีทั้งอาหารไทยและอาหารต่างชาติให้บริการ ในส่วนของราคาอาหาร ถือว่าเป็นร้านที่อยู่ในระดับ Premium ราคาไม่ได้ถูกเกินไปและแพงจนเกิน แต่ถ้าได้ลองชิมอาหารแล้ว และได้สัมผัสบริการแล้วหละก็ต้องบอกเลยว่าราคานี้คุ้มจริงๆ
สำหรับ Potato Chip จานนี้ถือว่าเป็นสมนาคุณจากทางร้าน หากลูกค้าท่านใดที่สั่งอาหารฝรั่งทางร้านก็จะเอามาเสิร์ฟให้ฟรีเลยนะครับ เพื่อให้รองท้อง ทานเล่นๆ ก่อนที่ Main Dish จะมาเสิร์ฟ
โรตีมัสมั่นไก่ จากทั้งหมด 4 เมนูที่น้าอ้วนจะมารีวิวในวันนี้ น้าอ้วนขอยกให้เป็นเมนูที่น้าอ้วนชอบมากที่สุด ด้วยรสชาติของแกงมัสมั่นที่เข้าถึงรสของเครื่องเทศ มีความหวานและมันที่ผสมผสานกับมันฝรั่งและเนื้อไก่ที่นุ่มและละมุนลิ้นมาก เมื่อทานกับโรตีที่ไม่ได้ทอดจนกรอบจนเกินไป ยังมีความเหนียวของแผ่นแป้งโรตี พอเราตักน้ำแกงมันสมั่นราดไปบนโรตีแล้วจับเข้าปาก บอกเลยว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ
ข้าวผัดเนื้อเค็ม จานนี้ถ้าดูเผินๆ อาจจะเห็นว่าเป็นเมนูธรรมดามาก ในความไม่ธรรมดาสอดแทรกอยู่ในเนื้อข้าว ที่เห็นเป็นข้าวผัดนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นข้าวที่ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงเช่นพวกซอสเพียงอย่างเดียว ในตัวข้าวเขาจะมีเนื้อเค็มที่ทำให้ละเอียดเอาลงไปผัดกับข้าวทำให้รสชาติและกลิ่นของเนื้อเค็มซึมอยู่ในเม็ดข้าวทุกเม็ดยังไม่พอ ตอกย้ำความอร่อยด้วยเนื้อเค็มทอดเค็มๆ เหนียวๆ กรอบๆ โรยหน้ามาบนข้าวผัดอีก เสิร์ฟพร้อมกับน้ำซุปที่หอมและได้ความหวานของฟัก (และที่เห็นเป็นพริกขี้หนูหั่นละเอียดนั่น คือเครื่องเคียงอย่างหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มรสชาติจัดจ้านให้อาหารจานนี้ได้ดีเลยครับ)
สำหรับเมนูนี้เสิร์ฟมาด้วยความอลังการ (วางมาบนเขียง เหมือนที่บ้านน้าอ้วนเปี๊ยบเลย ๕๕๕) ซี่โครงหมูบาร์บีคิว เป็นเนื้อส่วนซี่โครงชิ้นใหญ่และยาวมาก เอาไปอบพร้อมกับทาซอสบาร์บีคิวจนได้ที่ ทำให้เนื้อร่อนและนุ่มมาก เสิร์ฟพร้อมกับซอสบาร์บีคิว และน้ำสลัดที่แอบมีกลิ่นของวาซาบิเล็กน้อย และเฟร้นช์ฟราย หากใครได้สั่งน้าอ้วนบอกเลยว่าให้เอามีดลองหั่นลงไปดู จะพบว่าเนื้อเยอะมาก และอร่อยมากด้วย แอดมินไปกัน 2 คนสรุปจานนี้กินไม่หมดจ้าาาา
สำหรับจานสุดท้ายที่เห็นหน้าตาดี หล่อเหลาเอาการแบบนี้ มีชื่อเสียงเรียงนามว่า ฟิเลมิยอง เป็นสเต็กเนื้อสันใน จุดเด่นของเนื้อสันในคือความนุ่มครับ ดังนั้นสเต็กชิ้นนี้ถึงแม้เขาจะเสิร์ฟมาแบบชิ้นเป้งๆ ก้อนใหญ่มาก พันด้วยเบคอนซะสวยงาม แต่พอเอามีดเฉือนลงไปแล้วรู้สึกถึงความนุ่มจริงๆ อีกทั้งยังเป็นแบบ Medium Rare ที่น้าอ้วนชอบด้วย สุดยอดไปเลย ก่อนเอาเข้าปากก็จิ้มกับน้ำเกรวี่ที่ราดมาด้วย บอกเลยว่าเคี้ยวในปากนี่นุ่มและอร่อย พร้อมกับความหวานของเนื้อที่ละลายในปากได้เลย
กินข้าวอิ่มก็หาเครื่องดื่มเย็นๆ วันนี้น้าอ้วนขอนำเสนอเครื่องดื่มสุดอร่อยมาสัก 3 รายการนะครับ เริ่มจากเครื่องดื่ม Signature ของทางร้านเลย Eat On Earth จะเป็นกาแฟคล้ายๆ คาปูชิโน่ รสชาติหวานๆ มันๆ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นมากครับ / ตามมาด้วยเครื่องดื่มสมูทตี้ สำหรับฤดูนี้ต้องไม่พลาดแน่ๆ อย่าง Mango & Passion Fruit Smoothie มะม่วงผสานกับเสาวรสออกมาเป็นเครื่องดื่มที่เปรี้ยวๆ หวานๆ ได้กลิ่นหอมของมะม่วงอย่างลงตัว และสุดท้าย Raspberry Green Tea ความขมและกลิ่นหอมของชาเขียวผสานกับรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ของราสเบอรี่ จนทำให้เป็นเครื่องดื่มแก้วนี้ขึ้นมา
นอกจากอาหารอร่อย เครื่องดื่มชื่นใจแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่นี่เขาขึ้นชื่อก็คือเบอเกอรี่ครับ เพราะที่นี่ทำสดทุกวัน บริเวณหน้าร้านก็จะมีตู้เบเกอรี่เรียงรายให้ลูกค้าได้เลือกชมกัน วันนี้น้าอ้วนเอามาซัก 4 อย่าง เอามายั่วทุกท่านให้ได้ดูกัน ๕๕๕
อย่างแรกเริ่มต้นจาก Mango Panacotta เสิร์ฟพร้อมกับข้าวเหนียว อารมณ์คล้ายกับข้าวเหนียวมะม่วงแต่เป็นพานาคอตต้ากลิ่นมะม่วงครับ ซึ่งกลิ่นของมะม่วงนี่บอกเลยว่าหอมหวนมาก ด้านในของพานาคอตต้าก็จะมีซอสมะม่วงซ่อนอยู่ด้วยนะครับ เมื่อตักพานาคอตต้าทานแล้วพร้อมกับมะม่วงและข้าวเหนียวด้วยกัน บอกเลยว่าเพอเฟ็คมาก
อย่างที่สองถือเป็นขนมที่เป็น Signature ของ Eat On Earth นั่นก็คือ Berries On Earth เป็นเค้กที่รวมเบอรี่ตระกูลต่างๆ หน้าตาสวยงามมากมีสตรอเบอรี่อยู่ด้านบน และรสชาติจะออกเปรี้ยวๆ หวานๆ หน้าตาสวยงามแล้วรสชาติยังดีอีกด้วย
สำหรับขนมหวานชนิดนี้ชื่ออาจจะแปลกสักเล็กน้อย Casino คือชื่อของตัวมันเอง เนื้อครีมจะรสชาติละมุนลิ้นมาก หวานนิดๆ มันๆ กลมกล่อมและด้านล่างจะเป็นแยมโรลครับ ถ้าทานเนื้อครีมกับแยมโรลด้วยกันแล้วจะรู้สึกถึงความลงตัวในแบบฉบับของ Casino เลย
ปิดท้ายของหวานอันแสนอร่อยของ Eat On Earth ด้วย Almond Carrot Cake เค้กแครอทที่ผสมด้วยถั่วแอลมอนชิ้นโต ราดด้วยซอสคาราเมลเพื่อเพิ่มความหวานฉ่ำให้กับตัวเค้ก รสชาติกลมกล่อม เนื้อแน่นมาก ใครที่ชอบทานเค้กแครอท รับรองว่าเค้กที่นี่จะต้องเป็นที่ถูกใจแน่นอน
อัพเดทเพิ่มเติมสำหรับเมนูใหม่ๆ ที่เชฟบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อลูกค้าคนพิเศษโดยเฉพาะ ในแต่ละฤดูกาลอาหารก็จะเปลี่ยนไป เพราะวัตถุดิบแต่ละอย่างนั้นที่นี่จะอาศัยใช้แต่ของที่สดใหม่ และมีคุณค่าที่สุดในฤดูกาลนั้นๆ เพื่อให้ได้รสชาติที่แท้จริง
เริ่มจากจานที่อลังการที่สุดในรอบนี้นะครับ คนที่รักการทานเนื้อจะต้องอดใจที่สั่งจานนี้ไม่ได้ สเต็กเนื้อวากิวนำเข้าจากออสเตรเลียเกรดสุดยอด ด้วยเกรดที่เกือบที่สุด เพราะสเต็กจานนี้ Wagyu Beef Marble Score 7 ซึ่งถือว่าเกือบเป็นเนื้อวากิวที่ดีที่สุดในโลก (มาร์เบิล สกอร์สูงสุดอยู่ที่ 9 หรือ MS9) เป็นเนื้อที่ได้คะแนนสูงอย่างนี้บอกเลยว่าเรื่องของความนุ่มนี่รับประกัน ชนิดที่เรียกว่ายอมเอาหัวเป็นประกันเลยจ้า อิอิ
หรือจะเป็นสเต็กหมูพ็อคช้อป ชิ้นโต ถึงแม้จะไม่ได้มี score เหมือนเนื้อวากิวจานข้างบน แต่รับประกันความนุ่มของเนื้อจานนี้ด้วยการเอาหัวเป็นประกันด้วยเช่นกัน เสิร์ฟกันมาแบบจานโตๆ น้ำซอสก็รสชาตินุ่ม หอม ละมุน รวมไปถึง Onion Ring ที่ทอดสุกกำลังดี กรอบนอก และหัวหอมยังมีความฉ่ำอยู่ข้างใน สำหรับใครที่อาจจะเอื้อมไม่ถึงระดับ Wagyu Beef สเต็กพ็อคช็อปจานนี้ก็ถือว่าทดแทนกันได้เป็นอย่างดี
มาฝั่งอาหารไทยกันบ้างครับ ฤดูนี้เชื่อเลยว่าปูกำลังออกไข่ ดังนั้นที่ Eat On Earth แห่งนี้จึงมีเมนูน้ำพริกไข่ปู ไข่ปูสีแดงๆ ส้มๆ รสชาติมันกำลังดี คลุกเคล้าด้วยเครื่องน้ำพริกรสชาติจัดจ้าน แซ่บถึงใจ เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ (แต่รู้สึกว่าข้าวสวยน้อยไปหน่อย น้าอ้วนเลยต้องขอสั่งเพิ่มอีก 1) เพราะบอกเลยว่ารสชาตินี่สุดยอด ใครเป็นคออาหารไทย และชอบน้ำพริกเป็นชีวิตจิตใจ อาหารไทยอรอ่ยๆ อย่างน้ำพริกไข่ปูเมนูนี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด
หรือสำหรับคุณสาๆ ที่เป็นห่วงเรื่องน้ำหนัก หรือต้องการทานอะไรเบาๆ หรืออาจจะเลือกเมนูนี้เป็นเมนูเรียกน้ำย่อย ประเภทสลัด เขาก็มีสลัดผลไม้กุ้งทอด บริการ กุ้งตัวใหญ่ๆ สด กรอบ ชุบแป้งทอดเสิร์ฟพร้อมกับผลไม้นานาชนิดราดด้วยซอสครีมสลัด รสชาติได้ความฉ่ำของผลไม้ และรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ มันๆ ของน้ำสลัด ถือว่ารสชาติอร่อยกำลังดี มีประโยชน์ด้วย
เสร็จด้วยของคาวไปแล้ว ก็คงต้องล้างปากด้วยของหวานกันบ้าง น้าอ้วนลองเลือกดูเมนูที่คิดว่าน่าจะอร่อย (แต่ที่นี่เขาการันตีว่าอร่อยทุกชิ้นแหละ) แต่น้าอ้วนอยากหาอะไรแปลกๆ ไว้มาลองรีวิวบ้าง ก็เลยเลือกมาสัก 3 อย่างละกัน เริ่มจาก ช็อคโกแลตลาวา เป็นเมนูที่ร้านอาหารไหนๆ ก็มี แต่เจ้าสิ่งนี้ทำยากนะ เพราะบางครั้งอบเค้กมาแป้งสุกเกินไป เลยทำให้ลาวาไม่ไหล แต่ที่นี่พอน้าอ้วนเอามีดหั่นปุ๊บ ช็อคโกแลตลาวาไหลทะลักออกมาอย่างสายน้ำข้นๆ รสชาติช็อคโกแลตเข้มข้นดีครับ แป้งไม่สุกเกินไป ช็อคโกแลตลาวาที่อุ่นๆ พอเข้าปากไปแล้วรู้สึกกรุ่นๆ อยู่ในปากเลยทีเดียว
ทีรามิสุ อันนี้ก็เป็นเมนูที่เห็นได้ค่อนข้างหลากหลาย (เอ๊ะ ไหนน้าอ้วนบอกว่าจะเลือกที่แปลกๆ ไหงมีแต่เมนูที่คุ้นตา) อิอิ … จะบอกว่าถึงแม้มันจะเป็นเมนูที่คุ้นตากันบ่อยๆ ตามร้านกาแฟ แต่บอกเลยนะว่าทีรามิสุ เป็นขนมที่ทำยากนะ จุดเด่นของทีรามิสุที่ดีคือครีมต้องรสชาติกลมกล่อม ส่วนแป้งจะต้องชุ่มและฉ่ำไปด้วยกาแฟ ดังนั้นถ้าร้านไหนทำได้เพอเฟ็คอย่าง Eat On Earth บอกเลยว่าเอาคะแนนไปเต็ม 10 เลย
สุดท้าย ในเมนูของหวาน อันนี้แปลกตาแน่นอน เพราะคิดว่าร้านไหนคงไม่มีกับ Royal Chocolate ชื่อนี่บอกเลยว่าเป็นช็อคโกแลตระดับ Royal ซึ่งรับประกันความเหนือชั้น หน้าตาที่บ่งบอกถึงความเข้มข้นของช็อคโกแลตมาก พอเอาส้อมจิ้มลงไป ผ่านเลเยอร์ของช็อคโกแลต ก็ต้องมาสะดุดกับชั้นของครัสต์ ออกแรงสักนิดเพื่อให้จิ้มลงไปสุด แล้วตักเข้าปาก รสชาติความเข้มข้นของช็อคโกแลต และได้ความกรุบกรอบของครัสต์ ผสานกันอยู่ในปากทำให้อบอวนไปด้วยกลิ่นของความหวาน และละมุน ถ้าหลับตาไปด้วยจะอินมากๆ (ลืมผ่าให้ดูข้างใน เพราะต้องใช้ความเร็วในการชิม เพราะทีมงานคนอื่นจ้องกำจัดอยู่ ๕๕๕)
เครื่องดื่มต่างๆ ก็มีบริการทั้งร้อนและเย็น หลากหลายเมนูให้สั่งมาดับกระหายคลายร้อนกันได้เป็นอย่างดีครับ
Eat On Earth หลังจากที่น้าอ้วนได้แวะไปเยี่ยมชม และเยี่ยมชิมมาแล้ว ขอการันตีและฟันธงเลยว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ใครเป็นนักชิมตัวยงแล้ว ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานที่สวยงาม ใครชอบบรรยากาศแบบธรรมชาติจะต้องหลงรักที่นี่แน่นอน ซึ่งคำว่า Eat On Earth ไม่ได้แปลตรงๆ ว่า “กินบนโลก” แต่คำว่า Earth ที่นี่เขาให้คำนิยามว่า ธรรมชาติ ดังนั้นคำว่า Eat On Earth จึงแปลว่า กินกับธรรมชาติ ซึ่งก็สอดคล้องกับสภาพที่ร้านนี้เป็นอยู่ รวมไปถึงในส่วนของอาหารการกิน ก็ถือว่าสอบผ่านได้คะแนนสูงด้วยนะ ทั้งอาหารไทยและอาหารเทศ ที่นี่ทำได้อย่างลงตัวมาก และสุดท้ายบริการ น้าอ้วนสัมผัสได้ถึงความเป็นมืออาชีพในการให้บริการของพนักงานที่นี่ ถามอะไรรู้หมด ความนอบน้อมถ่อมตน มารยาทและการบริการเรียกได้ว่าเทียบเท่ากับโรงแรม 5 ดาวเลยทีเดียวครับ
RELATED POSTS
-
กับข้าว ก้าวอย่าง แนะนำ 9 เมนูที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเสวย
-
บุฟเฟ่ต์หม้อไฟสไตล์เวียตนาม อิ่มได้ไม่อั้นในราคาสุดคุ้ม ที่ร้าน เฝออันอัน นิมมานซอย 5
-
เฮง เฮง ชาบูกระทะร้อน ร้านอร่อยของชาวหางดง
-
Casa Diverso ร้านอาหารฟิวชั่น สไตล์ใหม่ รสชาติดี หน้าตาเก๋
-
เริ่มด้วยความฟิน แต่ยากที่จะหยุดกิน ไอศครีม เนื้อเนียนละเอียด ละเมียดทุกสัมผัส – Sofuto Cream
-
สุขสันต์กับเมื้อเที่ยงวันอาทิตย์ บุฟเฟต์อิ่มไม่อั้น Lobster และอาหารทะเลแบบเต็มอิ่ม ในราคาไม่ถึงพันที่ FAVOLA, Le Meridien
-
ข้าวซอยสูตรเด็ด เคล้ากลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น เน้นคุณภาพ รสชาติออริจินอลแต่หน้าตาทันสมัยขึ้นที่ ข้าวสุดซอย เชียงใหม่
น่าทานจังเลยค่ะ
ไปมาแล้ว
ไปมา ไม่เห็นได้ potato chips พนักงานบริการไม่ดีด้วย