Posted On
Little Cook Cafe’ ร้านอาหารสไตล์อินดี้ แห่งใหม่แหล่มกว่าเดิม
กระแสในอินเทอร์เน็ต ทำให้หลายๆ คนรู้จักร้าน Little Cook อย่างแพร่หลาย หลายคนก็รู้จักร้านนี้ในด้านร้าย พ่อครัวแม่ครัวที่นี่ปากจัดบ้าง วีนแตกใส่ลูกค้าบ้าง บลาๆๆๆ แต่หลายคนก็เรียกว่าเป็นลูกค้าประจำของ Little Cook ที่เรียกได้ว่าเป็นลูกค้ากิตติมาศักดิ์เลยก็ว่าได้ วันนี้น้าอ้วนจะขอรีวิวร้าน Little Cook แห่งนี้อีกครั้ง หลังจากที่เคยรีวิวมาแล้วครั้งแรกเมื่อครั้นที่เขาเปิดร้านอยู่ศิริมังคลาจารย์ และปิดร้านไปเกือบปี กลับมาอีกครั้งในสถานที่ใหม่ใหญ่กว่าเดิม แต่ชื่อเดิม ความอร่อยแบบดั้งเดิม แต่!!! เทคนิคแปลกใหม่ขึ้น
ชื่อร้าน : Little Cook at Home ร้านอาหารสไตล์อินดี้ แห่งใหม่แหล่มกว่าเดิม
ที่อยู่ : โครงการสหศรีภูมิเพลส ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.797095,98.983900 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 085 7141189 , https://www.facebook.com/littlecook2014
เวลาเปิด-ปิด : 18:00 – 21:00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์
เงื่อนไขเล็กๆ น้อยๆ ที่จะมาร้านนี้ได้มีเพียงไม่กี่ข้อ คือ ถ้าเต็มก็ให้รอ … ที่นี่ไม่มีลูกค้า VIP หรือคนพิเศษ ลูกค้าทุกคนเท่าเทียมกันทางร้านยินดีต้อนรับทุกคนอยู่แล้ว (ช่วง 18.00-19.00 น. จะเป็นช่วง peak time คนจะค่อนข้างเยอะ (ไม่ใช่ว่าพอเห็นรีวิวน้าอ้วนแบบนี้แล้ว ช่วงเวลานี้ลูกค้าหายหมด แห่กันไป 20.00 น. เป็นต้นไปไม่ใช่นะ ๕๕๕๕)) และสองอาหารทำช้า เพราะทุกจานทำสดใหม่ พิถีพิถัน ทุกจานพ่อครัวและแม่ครัวทำกัน 2 คน Homemade ทั้งสิ้น ดังนั้นถ้าอยากกินของอร่อยต้องรอกันนิดหนึ่ง ถ้ายอมรับเงื่อนไขได้ลุยเลยครับ ร้าน Little Cook แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ในโครงการสหศรีภูมิเพลส (ด้านหน้าโครงการจะเป็นศูนย์บริการ Samsung) ให้ขับรถเข้ามาเลยครับ ประมาณ 200 เมตร ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ จุดสังเกตง่ายๆ คือจะอยู่ข้างโรงพิมพ์ดารารัตน์นั่นเอง เปิดตั้งแต่ 18:00 – 21:00 น. เท่านั้น
หากเทียบกับร้านเก่าที่อยู่แถวศิริมังคลาจารย์ น้าอ้วนว่าที่นี่บรรยากาศโล่ง โปร่งสบายกว่า โต๊ะและเก้าอี้กว้างและนั่งสบายกว่าเยอะเลย ถึงแม้ที่นี่จะไม่มีห้องแอร์ แต่น้าอ้วนก็ไปมาแล้วหลายรอบ ก็ไม่รู้สึกร้อนมากมายแต่อย่างใด สบายๆ ชิลๆ
หากใครที่มาร้านแล้วโต๊ะเต็ม ก็เชิญนั่งรอก่อนนะจ๊ะ ที่นี่ก็มีเก้าอี้สำหรับให้นั่งรอ ระหว่างที่รอก็สั่งอาหารไว้ก่อนจะเป็นการดี เพราะเมื่อโต๊ะว่างอาหารก็พร้อมเสิร์ฟ จะได้ไม่ต้องรอรอบสอง (น้าอ้วนได้นั่งเก้าอี้ตรงนี้เป็นประจำ ๕๕๕)
วันนี้ได้โอกาสพิเศษ ต้องบอกให้ทราบก่อนว่าน้าอ้วนและร้าน Little Cook ทั้งพี่กบ และน้องเอ้อร์ ที่เป็นเจ้าของร้านเรารู้จักกันเป็นการส่วนตัว ดังนั้นเรื่องราวหลายๆ อย่างของ Little Cook แห่งนี้น้าอ้วนจะรู้ค่อนข้างดี ถึงกล้าพูดได้ว่าร้านนี้เขาเป็นมิตรมาก หลายคนอาจจะได้ยินเรื่องราวของร้านนี้ว่าชอบด่าลูกค้า ชอบวีนลูกค้า แต่ก็เนื่องด้วยคนที่ถูกด่าก็สมควรแล้ว เพราะลูกค้าบางคนก็บอกได้เลยว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเพื่ออยากหาของอร่อยๆ ทานมาเพราะที่นี่เป็นกระแส และมาเกรียน เจ้าของร้านหลายๆ ร้านเลือกที่จะเงียบ เลือกที่จะยอม แต่ที่นี่ถือว่าทุกคนมีเกียรติเท่าเทียมกัน ดังนั้นเกรียนมา ก็เกรียนตอบ แต่ถ้าลูกค้าคนไหนน่ารัก เจ้าของร้านพร้อมที่จะหยิบยื่นมิตรภาพให้อยู่แล้ว สังเกตจากลูกค้าหลายๆ คนที่แวะเวียนมาประจำจนกลายเป็นเพื่อนกันก็มี
รายการอาหารของที่นี่มีไม่เยอะครับ ส่วนมากจะเน้นสลัด สเต็ก สปาเก็ตตี้ เป็นหลัก ราคาก็ไม่ได้ถือว่าแพงอะไรมากมาย แต่ถ้าเทียบกับปริมาณที่ได้แล้วหละก็จะเรียกว่าโคตรคุ้มด้วยซ้ำ เพราะอาหารที่นี่เขาจะเสิร์ฟมาอย่างอลังการ โดยเฉพาะเมนูที่เป็นผัก ดังนั้นใครเป็นคนที่รักการกินผักบอกเลยร้านนี้คุ้มมากๆ (ตั้งแต่วันที่ 15 พค. เป็นต้นไป ร้านจะมีการเปลี่ยนแปลงรายการอาหาร)
อาหารทุกจานของที่นี่ทำสดใหม่ ทำในแบบ Homemade พี่กบจะเป็นพ่อครัวของเย็น เช่นพวกสลัด หรือในส่วนของการตกแต่งจาน เพราะพี่กบแกทำงานเกี่ยวกับพวกศิลปะ ดังนั้นเรื่องการสร้างสรรค์ เติมแต่งสีสันของจานงานนี้พี่แกถนัด และน้องเอ้อร์จะเป็นแม่ครัวร้อน สปาเก็ตตี้, สเต็ก, เบอร์เกอร์ ทุกอย่างจะผ่านมือเธอทั้งนั้น และบอกเลยว่ารสชาติที่ออกมานั้นรับประกันได้ เพราะเธอได้เรียนรู้เทคนิค และใช้วัตถุดิบที่ดี จาก Pinn Food Society by เชฟเอียน แห่งเชฟกะทะเหล็กคอยสนับสนุน
เมนูแรกที่ขอพรีเซนต์ในวันนี้คือ สปาเก็ตตี้เบคอนพริกแห้ง เป็นเมนูหนึ่งที่ขายดีของที่นี่ และน้าอ้วนก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบด้วยเช่นกัน หน้าตาก็เหมือนกับสปาเก็ตตี้ร้านอื่นๆ แต่สิ่งที่สังเกตได้ชัดก็คือเบคอน เขาจะใส่่กันมาชิ้นใหญ่มาก และพริกแห้งเพียบ ประดุจดังหลังบ้านมีสวนพริกเป็นของตัวเอง และใครที่ชอบกระเทียมเหมือนน้าอ้วนจะต้องชอบแน่
ขนมปังกระเทียมชีส ชีสตู้มๆ พร้อมทั้งขนมปังหมึกดำ เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้านที่ใช้ขนมปังแบบนี้ เพราะจะมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์กว่าขนมปังแบบธรรมดา คนที่ชอบชีสที่เคล้าเนยกระเทียมจะต้องอดใจไม่ไหวแน่นอน
เบอร์เกอร์ยักษ์ หลายๆ ร้านก็มีเบอร์เกอร์ขาย แต่เอกลักษณ์ของที่นี่น้าอ้วนขอให้คำว่าเบอร์เกอร์ยักษ์ละกัน อยากจะบอกว่าเมื่อก่อนตอนที่อยู่ร้านเดิม เบอร์เกอร์ร้านนี้จะมีให้เลือกคือ 1 ชั้น, 2 ชั้น และ 3 ชั้น บอกเลยว่าแค่ชั้นเดียวก็อิ่มกันทั่วหน้า ใครที่กินเบอร์เกอร์ 3 ชั้นได้ถือว่าเป็นยอดมนุษย์ ๕๕๕ หลักๆ ของเมนูจานนี้จะเป็นแป้งเบอร์เกอร์ ซึ่งจะมีให้เลือกสองอย่างคือ ธรรมดา และหมึกดำ , มีผัก , ชีส และเนื้อบด ซึ่งเลือกได้ว่าจะเป็นหมู หรือเนื้อ และใหม่ล่าสุดคือเนื้อบดวากิว (อ่าาาาา เริสอ่ะ) และสำหรับการตกแต่งด้านขอบจาน ก็จะไม่เหมือนกันเพราะวันไหนพี่กบคิดอะไรได้ก็จะตกแต่งแบบนั้น วันนี้มีมะม่วงก็ใส่มะม่วง วันนี้มีองุ่นก็ใส่องุ่น แต่บอกเลยว่าคุ้มอ่ะ
สเต็กเนื้อ เสิร์ฟกันมาแบบชิ้นใหญ่ๆ (ดังที่เห็นภาพตอนที่น้องเอ้อร์ย่างเนื้ออยู่ในครัว) สเต็กนี้ก็สามารถเลือกได้ครับว่าจะเอาแบบไหน แต่ส่วนใหญ่แบบที่สั่งกันบ่อยๆ ก็คือ Medium rare เวลาหั่นก็จะเห็นเนื้อสีชมพูด้านใน ด้านนอกก็จะสุกพอประมาณ สเต็กที่นี่จะไม่มีน้ำเกรวี่เสิร์ฟหรือราดมา เขาจะปรุงสุกตั้งแต่ขั้นตอนแรกแล้ว และจะมีเนยกระเทียมสูตรของทางร้านท๊อปปิ้งมาด้านบนด้วย ซึ่งเป็นเนยที่บอกเลยว่าหอมและรสชาติละมุนมาก ใครที่ได้สั่งสเต็กอย่าลืมชิมด้วยนะ
และถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นโคนไอศครีมเสิร์ฟมาบนจานสเต็กด้วย หลายคนคงงงว่าไอศครีมเกี่ยวอะไรด้วย อย่างที่บอกให้ทราบตอนกลางรีวิวว่าพี่กบ ทำงานเกี่ยวกับศิลปะ ดังนั้นอะไรที่แกคิดได้ แกก็จะเอามา apply กับจานอาหาร ซึ่งจะเปลี่ยนไปทุกวัน แล้วแต่ว่าจะนึกคิดอะไรออก คอนเซ็ปในวันนี้ก็คือไอศครีมหก (ย้อนหลังไปเมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา ทางร้านใช้เผือกบดเสิร์ฟคู่กับสเต็ก ถ้าทำแค่เผือกบดตักเป็นก้อนกลมๆ ก็คงรู้สึกธรรมดา ไอเดียไอศครีมหกก็เลยเกิดขึ้นบนจานนั่นเอง) อ่ะลืมบอกนอกจากสเต็กจานนี้จะเสิร์ฟเนื้อชิ้นใหญ่ๆ แล้วเขายังมีสลัดผักสดๆ แถมด้วยอีก 1 ชาม
สลัดผักชามโต อีกเมนูที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือสลัดผัก ผักที่เขาใช้จะเป็นออแกนิกส์ ผสมกับไฮโดรโปนิกส์ เสิร์ฟกันมากันในจานใหญ่ๆ พร้อมกับผลไม้ตามฤดูกาลต่างๆ พูดได้ว่างานนี้ไม่กลัวขาดทุน เพราะผักแต่ละอย่างที่ใช้ไม่ใช่ถูกๆ กิโลหนึ่งหลายร้อยบาท ความสด ความอร่อยและความกรอบของผักแบบนี้ต้องไปลองเอง มันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นตัวอักษรได้หมดครับ
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็นชื่นใจ แก้วโตๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ ดังกระหายได้เป็นอย่างดี
หลายคนที่ได้อ่านรีวิวนี้ของน้าอ้วนไปแล้ว รู้สึกว่าน้าอ้วนอวยร้านนี้ไปหรือเปล่า… ก็ไม่แปลกว่าหลายคนอาจจะคิดแบบนั้น เพราะทุกอย่างออกไปแง่บวกทั้งหมด อย่างที่บอกให้ทราบตั้งแต่ต้นว่าร้านนี้น้าอ้วนรู้จักเป็นการส่วนตัว ซึ่งอาจจะทำให้คิดว่าเมื่อรู้จักกันก็ต้องชมกันเป็นธรรมดา ๕๕๕ คิดแบบนั้นก็ไม่ผิด แต่บางครั้งการที่เรารู้จักใครเป็นอย่างดี เราย่อมรู้ถึงนิสัยใจคอเขาเป็นอย่างไร ซึ่งร้านนี้ถึงเขาจะปากร้าย หรือแสดงอะไรออกมาตรงๆ แต่ทุกอย่างย่อมมีเหตุ มีผลเป็นหลัก ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ จะไปด่า ไปวีนลูกค้าโดยไม่มีเหตุผล ในทางกลับกันร้านนี้ใครที่ไปแล้วรู้สึกว่าเป็นมิตร แสดงว่าคุณนั่นแหละที่เป็นมิตรกับเขา เพราะพี่กบ และน้องเอ้อร์พร้อมที่จะให้ความเป็นมิตรกับทุกคน เสียอย่างเดียวมาร้านนี้ทีไรต้องได้รอทุกทีสิน่า … อาหารก็ช้า ก็เพราะทุกอย่างที่นี่เขาทำกันแบบสดใหม่ Homemade จานต่อจานกันเลยทีเดียว
COMMENT