รักษ์ท่าน้ำ ร้านอาหารพื้นเมือง บรรยากาศดี ริมฝั่งปิง

ชื่อร้าน : รักษ์ท่าน้ำ ร้านอาหารพื้นเมือง บรรยากาศดี ริมฝั่งปิง เชียงใหม่
ที่อยู่ : 168 หมู่ที่ 3 ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.755633,98.994647 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ :  052 001111 , http://www.thanuhm.com
เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 23:00 น. ทุกวัน

ท่านใดที่ได้แวะเวียน ขับรถผ่านเส้นเลียบน้ำปิง แถวป่าแดด ก็อาจจะสะดุดตากับสิ่งก่อสร้างที่สวยงามหลังหนิ่ง ที่ติดอยู่ริมน้ำปิง (ก่อนถึงโรงแรมชีค อิซทานา เชียงใหม่) บ้านหลังใหญ่ๆ ที่ตกแต่งด้วยสไตล์โคโลเนียนลานนา ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านอาหารพื้นเมืองร้านหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงอยู่คู่คนเชียงใหม่มานาน อย่างร้าน ท่าน้ำ และได้เปลี่ยนเป็น “รักษ์ท่าน้ำ” ในปัจจุบัน วันนี้น้าอ้วนจะพาแฟนเพจลองไปชมถึงความสวยงามของร้านอาหารร้านนี้ และเราลองมาชิมอาหารว่าที่นี่รสชาติเขาจะเป็นอย่างไร

ร้านรักษ์ท่าน้ำ ตั้งอยู่ริมน้ำปิงเลยครับ อยู่แถวๆ ป่าแดด สำหรับการมาที่ร้านนะครับก็จะได้อยู่ 2 ทางคือเส้นเลียบน้ำปิงจากหางดงมา และเลียบน้ำปิงจากช้างคลาน/ถนนมหิดล น้าอ้วนขอแนะนำเส้นทางการมาจากฝั่งถนนมหิดลให้ดีกว่า ซึ่งเป็นเส้นทางที่น้าอ้วนคุ้นเคยจากทางถนนมหิดลเราจะสามารถมาได้อยู่ 2 เส้นทางคือฝั่งขาเข้าเมือง และฝั่งออกนอกเมือง คำว่าขาเข้าเมืองน้าอ้วนขอใช้เส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังสี่แยกสนามบินนะครับ และคำว่าฝั่งออกนอกเมืองก็คือเส้นทางที่จะมุ่งหน้าออกไปยังถนนซุปเปอร์ไฮเวย์นั่นเอง

1. ฝั่งขาเข้าเมือง พอเราขับมาเรื่อยๆ เราก็จะเจอสำนักงานตำรวจภูธร ภาค 5 ตั้งอยู่ขวามือเรา และเราก็จะเจอสะพานข้ามน้ำปิง พอจึงจุดที่จะขึ้นสะพานแล้วให้ชะลอรถและชิดซ้ายนะครับ พอลงสะพานได้แล้วก็จะมีซอยอยู่ซ้ายมือ ให้เราเลี้ยวเข้าไป ก็จะเจอสามแยกเล็กๆ จะมีโรงเรียนพิมานเด็กตั้งอยู่ขวามือ ให้เราเลี้ยวขวาครับ จากจุดนี้ขับรถไปอีกประมาณ 450 เมตร ร้านจะอยู่ซ้ายมือ และลานจอดรถอยู่ตรงข้ามร้านเลย

2. ฝรั่งออกนอกเมือง พอเราขับมาจากสี่แยกสนามบินแล้ว ผ่านหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ เราก็จะถึงสะพานข้ามแม่น้ำปิง ที่อยู่ก่อนถึงสำนักงานตำรวยภูธรภาค 5 ให้เราชะลอรถครับ ห้ามขึ้นสะพานเด็ดขาด ไม่งั้นได้กลับรถกันไกลแน่ ก่อนจะถึงทางขึ้นสะพานคุณจะเห็นทางเบี่ยงอยู่ซ้ายมือ ก็ให้เลี้ยวไปทางเบี่ยงนั้น หลังจากนั้นก็จะเจอสามแยกเล็กๆ ครับให้เราเลี้ยวขวาไป ซึ่งจะเป็นถนนทางลอดใต้สะพานข้ามน้ำปิงนั่นเอง พอลอดสะพานเสร็จเราก็จะเจอสามแยกที่มีโรงเรียนพิมานเด็กตั้งอยู่ ให้เราตรงไปอีกประมาณ 450 เมตร ร้านก็จะอยู่ซ้ายมือ

สไตล์การตกแต่งของร้านนี้ เขาจะใช้สถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียนล้านนา ซึ่งก็จะมีทั้งบรรยากาศในตัวอาคารและบรรยากาศในสวน (บรรยากาศแบบในสวนจะได้อารมณ์มากตอนเย็นครับ ถ้าเป็นกลางวันร้อนแน่ๆ) ซึ่งร้านนี้เป็นร้านใหญ่ครับ ต้อนรับลูกค้าได้หลายร้อยคนเลยทีเดียว ร้านนี้น้าอ้วนขอยกให้เรื่องบรรยากาศการตกแต่งของเขาเป็นจุดเด่นเลยนะครับ เพราะตอนที่น้าอ้วนเดินไปรอบร้านเพื่อไปถ่ายรูป มุมไหนน้าอ้วนก็อยากถ่ายเพราะมันสวยไปเกือบทุกมุมเลยทีเดียว

แค่ทางเข้าร้านก็แลดูอลังการดีครับ อิอิ

บรรยากาศในสวนรอบๆ ร้านตกแต่งได้อย่างงดงามครับ

สำหรับด้านในตัวอาคารก็จะมีในส่วนของจัดเลี้ยงด้วยนะครับ จะมาเป็น 10 คนหรือ 20 คนทางร้านก็รับมือไหว พร้อมมีเป็นแบบห้องส่วนตัวให้ด้วยนะ งานนี้ใครต้องการความเป็นส่วนตัวมีปลื้มกันเลยทีเดียว

แล้วก็ยังมีบริเวณชั้น 2 ของท่านที่ทำให้เรามองลงมาเพื่อดูบรรยากาศสวนในมุมสูงด้วยครับ

เมนูอาหารของที่นี่เขาทำมาดูดีเลยทีเดียว และเปิดเข้าไปดูแล้วรายการอาหารเยอะมาก จนน้าอ้วนถ่ายรูปไปด้วย เหงื่อตกไปด้วย เพราะมันค่อนข้างเยอะ ที่น้าอ้วนเอามาพรีเซนต์ในวันนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพื่อเป็นแนวทางให้แฟนเพจท่านไหนที่ต้องการจะไปรับประทาอาหารที่นี่จะได้ลองดูไว้ว่าอาหารที่ท่านชื่นชอบ ราคาเท่าไร และจะได้ตั้งงประมาณในการไปทานอาหารในครั้งนี้ได้

ราคาเครื่องดื่มของทางร้าน

สำหรับรสชาติอาหารของที่นี่ วันนี้น้าอ้วนขอรีวิวอาหารคาว 4 อย่างและอาหารหวาน 1 อย่างนะครับ เรามาเริ่มต้นเมนูแรกด้วยลาบปลาทับทิม เมนูนี้เสิร์ฟมาใหญ่มากเพราะมันคือปลาทับทิมทั้งตัว ที่เอาเนื้อไปสับละเอียดคลุกกับเครื่องลาบอีสาน ทำให้รสชาติออกมาเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ รสชาติออกไปทางจัดจ้านแต่ไม่รสจัดจนเกินไป เมนูนี้ถ้าจะทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะทานเป็นกับแกล้มน้าอ้วนว่าลงตัวทั้ง 2 อย่างเลยนะครับ

ตามมาด้วยเมนูแบบชาวเหนือของเรา ผักเซียงดาผัดไข่ รสชาติถือว่ากลมกล่อมครับ เด็กทานได้ใหญ่ทานดี ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเลยครับ เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ถือว่าเป็นเมนูแนะนำของทางร้าน

เมนูที่สามเสิร์ฟมาพร้อมกับมะพร้าว 1 ลูก ข้างในลูกมะพร้าวยัดมาด้วยห่อหมกทะเลครับ รสชาติออกหวาน และได้รสมันของกะทิ ข้างในก็จะมีกุ้ง หอย ปู ปลา พาเหรดกันมาอัดแน่นเต็มลูกมะพร้าว สำหรับเมนูนี้เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดีอีกแล้ว รสชาติไม่จัดครับ ทานกับข้าวสวยอร่อยเลย

อีกหนึ่งวัตถุดิบยอดฮิตของคนเชียงใหม่ ที่ค่อนข้างมีราคาแพงทั้งในช่วงเทศกาลและนอกเทศกาลที่มันออกผลผลิต นั่นก็คือเห็ดเผาะ หรือเห็ดถอบบ้านเรานี่เอง เมนูนี้เป็นแกงคั่วเห็ดถอบ ซึ่งรสชาติจะออกแนวหวานนิดๆ มีหอมและข้นมันของกะทิ และเขาก็จะให้เห็ดเผาะรุ่นหนุ่มเลยเคี้ยวได้กรุบกรอบ ไม่เหนียว

ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยของหวานล้างปาก เมนูหนึ่งสำหรับฤดูร้อนแบบนี้ถ้าได้แล้วคงสดชื่นไม่น้อย นั่นก็คือไอศครีมกะทิมะพร้าวอ่อน รสชาติไม่หวานมากครับ เย็นสดชื่น ด้วยรสชาติของมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งเสิร์ฟมาในมะพร้าวผ่าครึ่งและข้างในมะพร้าวยังมีเนื้อมะพร้าวอ่อน ถ้าเรากินไอศครีมหมดแล้วเรายังเอาช้อนขูดเนื้อมะพร้าวมาทานได้ด้วยครับ

ร้านรักษ์ท่าน้ำ ถือเป็นอีกร้านหนึ่งที่น้าอ้วนว่าเป็นร้านที่สวยงาม อลังการดี สำหรับการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ถ้าพามาร้านนี้แล้วน้าอ้วนว่าไม่อายเลยนะนั่น หรือจะเป็นการทานข้าวมื้อพิเศษระหว่างคู่รัก หรือครอบครัว น้าอ้วนว่าถ้าใครได้มาแล้วก็จะประทับใจกลับไปแน่นอน ในส่วนของราคาน้าอ้วนเห็นในหลายๆ เว็บไซต์ที่เขากล่าวถึงว่าร้านนี้ราคาค่อนข้างสูงไปหน่อย (ซึ่งราคาอาหารน้าอ้วนก็ได้นำเสนอไปในส่วนของเมนูไปแล้ว) น้าอ้วนเชื่อได้ว่าบรรยากาศริมน้ำปิง กับการตกแต่งที่สวยงามแบบนี้ และรสชาติอาหารที่อร่อย ถ้าเรามอบภาพรวมสำหรับเงินที่เราจ่ายไป ถ้าเราท้องกับอาหาร อิ่มตากับบรรยากาศ อิ่มใจกับการบริการ น้าอ้วนว่าราคาเหล่านี้สมเหตุ สมผลเลย (ถ้าให้เทียบกับร้านอาหารริมน้ำปิงอย่าง The Good View หรือ Riverside น้าอ้วนว่าราคาเขาอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ทางนู้นเขาจะเน้นความคึกครื้น คึกคัก แต่ที่นี่จะเป็นบรรยากาศสบายๆ ชิลๆ ทานข้าวพูดคุยกัน) อยากให้ลองมาดู แล้วให้คุณเป็นผู้ตัดสินใจเองครับ

Share on Facebook

Tweet

Follow us