Posted On
บ้านหอมหวาน ร้านกาแฟ สวนสวย อารมณ์ Vintage
น้าอ้วนเคยเกริ่นในหน้าแฟนเพจน้าอ้วนชวนหิวว่า “ความบังเอิญในโลกนี้มีจริงๆ ด้วย” เพราะว่าวันหนึ่งน้าอ้วนออกมาทำงานตามปกติ ก็ผ่านเส้นทางเดิมที่ทุกวันเดินทาง วันนั้นพอดีได้ไปเหลือบเห็นป้ายร้านกาแฟร้านหนึ่ง ซึ่งชี้เข้าไปในซอย และมีบ้านหลังสีเหลืองๆ ใหญ่ๆ ตั้งเด่นเป็นสง่า และป้ายหน้าร้านเขียนว่า “บ้านหอมหวาน” น้าอ้วนคิดในใจ เฮ้ย มีร้านกาแฟเปิดใหม่ อยู่ใกล้บ้านด้วย เดี๋ยวมีโอกาสต้องมาจัดซะหน่อย … พอตกบ่าย ได้รับอีเมล์เข้ามา เจ้าของร้านส่งเทียบเชิญให้ไปรีวิว ตอนแรกคุ้นๆ ชื่อร้านมาก พอดูรายละเอียด คิดในใจ เฮ้ยร้านที่เห็นเมื่อตอนเช้านี่หว่า มันช่างเป็นความบังเอิญอะไรเช่นนั้น
ชื่อร้าน : บ้านหอมหวาน ร้านกาแฟเล็กๆ สวนสวย อารมณ์ English Vintage
ที่อยู่ : 134/1 ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ตำบลสันพระเนตร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.807838,99.025271 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 089 635 5126 , https://www.facebook.com/Bannhomwann
เวลาเปิด-ปิด : 09:00 – 21:00 น. หยุดทุกวันพุธ
ถ้าอธิบายทางมาร้านนี้ สงสัยแฟนเพจต้องรู้แน่เลยว่าบ้านน้าอ้วนอยู่แถวไหน พูดถึงว่าร้านนี้หายากไหม น้าอ้วนว่าไม่ยากนะ เพียงแค่เขาไม่ได้อยู่ติดถนนเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าต้องเข้าซอยไปเป็นกิโลซะที่ไหน เริ่มจากหากเรามาจากในเมืองนะครับ ผ่านสี่แยกศาลเด็ก (สี่แยกที่เขากำลังสร้าง Central Festival แหล่งช้อปปิ้งแห่งใหม่ของน้าอ้วนนั่นแหละ) มุ่งหน้าไปทางอำเภอสันทรายนะครับ พอถึงสี่แยกแม่คาวสะอาดใส ก็ให้เรากลับรถ U-TURN มา จากจุด U-TURN ประมาณ 500 เมตร เราจะเจอร้านหมูกระทะชื่อ AIS หมูกระทะ ซึ่งถัดจากร้านหมูกระทะ เราก็จะเจอป้ายชี้เข้าไปที่ร้านบ้านหอมหวานแล้ว เข้าไปนิดเดียว ก็เจอร้านแล้วครับ
เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาเราก็จะเริ่มมองเห็นตัวบ้านและสวนแล้วครับ บรรยากาศ และการตกแต่งสวยงามใช่ย่อยนะครับเนี่ย ชักจะหลงรักแล้วหละสิ
เมื่อจอดรถจอดลากันแล้ว เดินเข้ามาในบริเวณร้าน สิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะต้องเห็นก็คือต้นมะขามเทศต้นหนึ่ง ซึ่งรูปร่างของมันช่างดูแปลกตายิ่งนัก มันจะเอนมาด้านใดด้านหนึ่ง แล้วก็แตกกิ่งก้านสาขาเป็นพุ่ม และด้านล่างต้นมะขามเทศนี้ก็จะมีเก้าอี้นั่ง ภาพนี้มันทำให้น้าอ้วนนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง The Letter
พอผ่านต้นมะขามเทศมาแล้ว ก็มาเจอกับตัวร้าน แว๊บแรกคุยกับทีมงาน วันนี้เรามาเที่ยววังจุฑาเทพ (ช่วงนี้ละครเรื่องนี้กำลังดัง) เพราะตัวบ้านจะเป็นบ้านเก่า เท่าที่เจ้าของร้านเล่าให้ฟังบ้านหลังนี้อายุ 70-80 ปี ลักษณะการสร้างจึงเป็นลักษณะของสมัยก่อน แต่ว่าได้รับการปรับปรุง ซ่อมแซม และทาสีใหม่ แต่ว่ารูปแบบและโครงสร้างเดิมยังคงรักษาไว้เป็นอย่างดี
ภายในจะตกแต่งเป็นสไตล์ English Vintage จะมีตู้ โต๊ะ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในสไตล์ของเก่า รวมไปถึงสิ่งของที่ประดับประดารอบร้านก็เป็นของเก่าเกือบทั้งสิ้น ภายในร้านเขาจัดแบ่งเป็นสัดสวนดีครับ และด้วยการเล่นระดับของบ้านหลังนี้ เลยทำให้ร้านนี้เป็นร้านที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว
ร้านนี้เป็นร้านเปิดใหม่ครับ เพิ่งเปิดได้เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง ดังนั้นเรื่องของเมนูต่างๆ ก็เลยอาจจะยังไม่พร้อมสักเท่าไร แต่น้าอ้วนเชื่อว่าอีกไม่กี่อึดใจ เมนูอาหารที่พร้อมเสิร์ฟก็คงจะมาสู่สายตาของลูกค้าทุกท่าน วันนี้น้าอ้วนเลยมีแต่ป้ายราคาของเครื่องดื่มให้ก่อน ลองดูกันพลางๆ ไปก่อนนะครับ ส่วนราคาของขนม ก็ลองสอบถามกับทางร้านโดยตรงเลย
ถึงไม่มีเมนู ก็มิใช่อุปสรรค์ในการกินของน้าอ้วน ทางร้านมีอะไรก็จัดมา เสิร์ฟมา ทะยอยมาอย่าให้พร่อง ด้วยร้านนี้เป็นร้านกาแฟ ดังนั้นจึงขออนุญาตรีวิวเครื่องดื่มก่อนแล้วกันนะครับ แก้วแรกเป็นกาแฟลายเซ็นต์ (Signature) ก็คือกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้าน ชื่อ “กาแฟหอมหวาน” เป็นกาแฟรสเข้ม จะได้กลิ่นของเมล็ดกาแฟที่คั่วไหม้ สำหรับคนชอบความเข้นข้น ต้องจัดแก้วนี้เท่านั้น
แก้วที่สองเป็นโกโก้เย็น รสชาติเข้มข้น และรสชาติไม่หวานมากครับ และแก้วสุดท้ายคือ Blueberry Smoothie รสชาติของ Blueberry เข้มข้นเอาเรื่อง มีความมันของโยเกิร์ตและรสชาติไม่หวานมาก ถือว่าโอเคเลยแก้วนี้
แก้วสุดท้ายเป็นเมนูร้อนครับ เป็นกาแฟ Latte ร้อนทำลาย latte art มาเป็นน้องหมีซะด้วย รสชาติกลมกล่อม อร่อยดีครับ
มาถึงคิวของขนมบ้าง วันนี้บอกเลยว่าทางร้านจัดเต็ม มีอะไรก็ขนมากันหมด เห็นทีมงานน้าอ้วนไปกัน 3 คนก็แหมขนมากันไม่ยั้งเชียว อิอิ จานแรกเครปเค้กสีเขียว แต่เป็นเครปเค้กช็อคโกแลต Hahaha ตัวเครปชิ้นใหญ่เอาเรื่องครับ ขายกันในราคา 60 หรือ 65 บาทนี่แหละ น้าอ้วนจำตัวเลขแน่นอนไม่ได้ แถมซอสช็อคโกแลตมาให้ บอกเลยว่าความเข้มของช็อคโกแลตถ้วยนี้ไม่แพ้ที่ไหนเลย
ตามมาติดๆ ดับเครปสตรอเบอรี่ ชิ้นนี้เป็นสีชมพู โอเคเข้ากับสีของสตรอเบอรี่หน่อย น้ำซอสสตรอเบอรี่ที่ให้มา รสชาติออกเปรี้ยวนำ หวานตาม ราดไปแล้วมันก็ตัดกับความเลี่ยนของตัวเครปได้เป็้นอย่างดี และเหตุที่ร้านนี้ขายเครปได้ไม่แพง และชิ้นโต ก็เพราะว่าเขาทำกันเองครับ ดังนั้นต้นทุนในการผลิตจึงต่ำ เลยตั้งราคาขายได้ไม่ต้องสูง
เมนูต่อมาจัดแต่งมาได้แบบอลังการ และสวยงามมากครับ นั่นก็คือ Strawberry Waffle จะเป็นวาฟเฟิลรสสตรอเบอรี่ (แล้วจะแปลทำไม แค่นี้คนอ่านก็แปลได้) เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศครีม วิปปิ้งครีม สตรอเบอรี่สด และผลไม้สดอีก 2-3 ชนิดครับ แล้วก็ยังมีน้ำผึ้งด้วย แป้งของวาฟเฟิลนุ่มดีครับ ราดด้วยน้ำผึ้งจะหวานนิดๆ ไม่หวานจัด และทานคู่กับไอศครีมและผลไม้สด อร่อยเลย
ปิดท้ายด้วยอีกจานหนึ่งจัดมาอลังการไม่แพ้กัน รูปแบบเดียวกัน แต่เป็น Choco Banana Waffle จานนี้ไส้ในวาฟเฟิลเขาจะมีกล้วยหอมหั่นด้วยครับ เสิร์ฟพร้อมกล้วยหอมสดอีกทีหนึ่ง วิปปิ้งครีม รอบนี้ไม่มีน้ำผึ้ง รสชาติแป้งนุ่มเหมือนเดิม มีความขมของช็อคโกแลต ทานคู่กับไอศครีมและกล้วยหอม ก็อร่อยดี
ด้วยความที่น้าอ้วนเป็นคนแถวนี้ แถวนี้มีร้านกาแฟที่ถือว่าเป็นชิ้น เป็นอันไม่กี่ร้าน ซึ่งบ้านหอมหวาน ก็เป็นร้านกาแฟน้องใหม่ที่มาช่วยเพิ่มสีสันให้กับย่านแห่งนี้ ให้มีความสุข มีความสนุกสนาน ที่จะได้มาแวะดื่มกาแฟ ทานขนม ด้วยบรรยากาศของบ้านเก่า ที่ดีไซน์ที่แตกต่างกันมาก ด้วยตัวบ้านเป็นแบบสไตล์ไทยๆ ย้อนยุค แต่ด้านในตกแต่งด้วยสไตล์ English Vintage ซึ่งมันคนละเรื่องเลย Hahaha แถมด้วยสวนสวยที่ทางร้านจัดแต่ง จัดเรียงต้นไม้ สนามหญ้า จึงทำให้ร้านนี้เป็นอีกร้านหนึ่งที่ใครอยากมาถ่ายรูป น้าอ้วนว่ามีมุมสวยๆ ให้ถ่ายเยอะแน่นอน โดยเฉพาะต้นมะขามเทศ ยิ่งเมื่อไรที่เจ้าต้นนี้ออกฝักสีชมพู น้าอ้วนว่ามันต้องสวยแน่ๆ
ว่างๆ ผ่านมาแถวนี้ก็อย่าลืมแวะเวียนมาเที่ยวร้าน “บ้านหอมหวาน” ได้นะครับ เปิดตั้งแต่ 07:00 – 17:00 น. ทุกวันครับ
แถวบ้านพอดีเลยคับ เดี๋ยวต้องลองไปซักรอบ
ไปเลยครับคุณหมอเจ้าของร้านเป็นกันเองมากๆ
ใกล้บ้านแบบนี้ ไม่ลองไม่ได้แล้ว
โอ้ยยย หิวเลย
อยากไปม่กมายน่ากินมากครับ
ช่วงอาทิตย์ก่อนว่าจะไปลองทานกันค่ะ ปรากฎว่าไปแล้ัวเจอเค้าด่ากันหน้าร้านเลย ไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าของร้านด่าพนักงาน หรือแขกด่า แล้วก็ไม่สนใจว่าจะมีลุกค้าเข้ามาหรือเปล่า ทำเอาพวกเราหน้าชาไปตาม ๆ กัน อยากให้ระวังเรื่องพวกนี้ไว้บ้างก็ดีค่ะ