Sunday Brunch ความอลังการทุกวันอาทิตย์ ดาราเทวี เชียงใหม่

พูดได้เลยว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่น้าอ้วนได้แวะเวียนมารีวิวที่โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่แห่งนี้ ครั้งแรกน้าอ้วนได้รีวิว Friday Seafood Buffet ไปแล้วได้รับการตอบรับจากแฟนเพจมากมายจนเพจวิวทุ่งทะลุสามพันครั้งในวันเดียว และครั้งที่สองเป็น Lunch Buffet ที่ห้องอาหาร Le Grand Lanna รีวิวนี้ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน และในวันนี้น้าอ้วนได้มีโอกาสแวะมาอีกครั้ง เพื่อมารีวิว Sunday Brunch ที่ขึ้นชื่อของโรงแรมดาราเทวี น้อยคนจะไม่รู้จัก Sunday Brunch ที่โรงแรมนี้ บางท่านอาจจะยังไม่กล้ามา เพราะไม่รู้ว่าที่นี่เขามีอะไรให้ทานบ้าง แต่ที่รู้แน่ๆ คือความหรูหรา และอลังการของไลน์อาหารที่นี่เป็นอันดับต้นๆ ของเชียงใหม่แน่นอน วันนี้น้าอ้วนขอถือเป็นตัวแทนจะมาบอกเล่าเรื่องราวของ Sunday Brunch ทีนี่ว่าเขาจะอลังการแค่ไหน ถ้าพร้อมแล้ว … หยิบช้อนกับส้อม ตามน้าอ้วนมาได้เลย

ชื่อร้าน : Sunday Brunch ความอลังการทุกวันอาทิตย์ ดาราเทวี เชียงใหม่
ที่อยู่ : ห้องอาหารอกาลิโก โรงแรมดาราเทวี ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.778348,99.03711 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ :  053 888888, https://www.facebook.com/DharaDheviCNX
เวลาเปิด-ปิด :  12:00 – 15:00 น. เฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น

สำหรับสถานที่ตั้งคงไม่ต้องบอกว่าอยู่ตรงไหน คิดว่าหลายๆ ท่านน่าจะรู้จักดีกับโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่แห่งนี้ แต่ถ้าใครที่ยังไม่รู้จักจริงๆ ง่ายๆ เลยครับ ถ้ามาจากทางสถานีรถไฟ ให้มุ่งหน้าตรงไปยังอำเภอสันกำแพง โดยใช้ถนนสันกำแพงสายเก่า ตรงมาเรื่อยๆ ก่อนถึงแยกบวกครกศรีวิลัย ให้ชิดขวาเลยครับจะมีป้ายบอกเข้าโรงแรมดาราเทวี (ซอยวัดบวกครกหลวก) เข้าไปนิดเดียวครับโรงแรมจะอยู่ด้านขวามือ ใหญ่โต อลังการมากๆ

ห้องอาหารอกาลิโก Akaligo เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมครับ ถ้าเป็นวันธรรมดาที่นี่จะบริการอาหารประเภท A La Carte (อาหารจานเดี่ยว) เป็นหลักแต่ถ้าเป็นวันอาทิตย์ มื้อเที่ยงก็จะมี Sunday Brunch ไว้บริการ สำหรับบรรยากาศ บอกเลยว่าหรูหรามาก จะให้เสียชื่อโรงแรมหกดาวได้อย่างไรหละ ถ้าใครมาครั้งแรกก็อาจจะเกร็งๆ ได้ ๕๕๕ (ตอนแรกน้าอ้วนก็เกร็งเหมือนกันแหละ แต่ถ้าเขาเชิญมาบ่อยๆ ก็คงไม่เกร็งละ ๕๕๕ นี่พูดเลย) ก็จะมีทั้งโซนด้านในซึ่งเป็นห้องแอร์ และโซนด้านนอกที่เป็น outdoor นะครับ หากใครที่จะมา กรุณาโทรจองล่วงหน้าก่อน แล้วแจ้งความจำนงไปว่าจะนั่งโซนไหน แล้วพนักงานก็จะจัดโต๊ะให้ครับ ขอบอกเลยว่าถ้าไม่จองระวังอดทานนะ เพราะวันอาทิตย์เมื่อไร เต็มตลอดครับ เบอร์ก็แสนจะจำง่าย 053 888888

เมนูอาหาร คงไม่ต้องเปิดเมนูดูแล้วถ่ายมาเป็นหน้าๆ ให้ดูกันนะครับ เพราะที่นี่เขาเป็น Buffet ซึ่งก็จะมีทั้งอาหารไทย (นิดหน่อย) ซีฟู๊ด อันนี้ตัวเด่นเลย รวมไปถึงอาหารญี่ปุ่นพวกปลาดิบ ข้าวปั้น หรือแม้แต่อาหารยุโรปพวกสเต็ก กริลด์ ฯลฯ เยอะแยะมากมาย ทั้งหมดนี้อิ่มได้ไม่อั้นในราคา 1,500++ บาท (เบ็ดเสร็จแล้วก็ประมาณเกือบๆ 1,800 บาทต่อท่าน) แต่รวมน้ำดื่ม น้ำผลไม้ น้ำชา กาแฟ เรียบร้อยแล้ว เอาเป็นว่าน้าอ้วนพาไปชมไลน์อาหารแต่ละสัญชาติกันดีกว่า

เริ่มจากไลน์อาหารทะเลก่อน ซึ่งถือว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยครับ พระเอกก็คือขาปูอลาสก้าาาาาาาาาาา บอกเลยว่าที่นี่เติมไม่อั้น ขนาดตอนใกล้จะหมดเวลาบุฟเฟ่ต์ อาหารทะเลเขาก็ยังไม่พร่อง ในไลน์นี้ก็ประกอบด้วยขาปูอลาสก้า กั้งกระดาน กุ้งลายเสือตัวใหญ่ๆ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปูม้า หอย ฯลฯ

เป็นพวกชีส ขนมปัง และถัว่ก็มีนะครับสำหรับใครที่ชอบก็จัด แต่น้าอ้วนไม่ได้แตะไลน์นี้เลย ๕๕๕ เพราะมีที่น่าสนใจกว่านี้เยอะ

พาสต้าก็มีนะจ๊ะ เส้นเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นฟูซิลี่, เฟ็ตตูชินี่, สปากเก็ตตี้ ฯลฯ จะใส่เป็นแซลมอน หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยเชลล์ หรืออาหารทะเลต่างๆ เชฟก็จะทำกันสดๆ เลือกสั่งกันได้ตามสบายเลย

ไลน์อาหารทะเลอีกอันหนึ่งนี่คือหอยนางรมสดๆ อิมพอร์ตตรงจากฝรั่งเศสกันเลยทีเดียว เชฟก็จะแงะ แคะ แกะ เกา กันสดๆ เรียกได้ว่าดิ้นแด่วๆ กันเลยทีเดียว ๕๕๕ นอกจากนั้นก็ยังมีหอยเชลล์ และหอยหลอดด้วยนะจ๊ะ และที่ขาดไม่ได้คือเครื่องเคียงทานหอยนางรมก็มีให้บริการ เพื่ออรรถรสที่เต็มที่ของการทานหอย

มุมนี้ก็จะเป็นพวกแฮมต่างๆ เลือกหยิบกันตามสบาย เอ๊ะ แต่ทำไมน้าอ้วนไม่ได้กิน …. อ่อ นึกออกละมัวแต่ไปโฟกัสที่ไลน์อาหารถัดไปนี่เอง หึหึ

อุ๊ย …….. มุมนี้น้าอ้วนจะพาแฟนเพจไปกินตับ ตับ ตับ แต่ไม่ใช่ตับเป็ด ตับไก่ แต่เขาคือตับห่าน หรือฟรัวกราส์นั่นเอง ชิ้นใหญ่ๆ ปรุงสุกกันเห็นๆ และสั่งกันได้ไม่อั้น หึหึ

มาถึงพระเอกที่ไม่น้อยหน้าไลน์อาหารทะเล นั่นก็คืออาหารญี่ปุ่น โดยเซ็ทแรกของนำเสนอปลาดิบก่อนนะจ๊ะ ก็จะมี Salmon (เพิ่งรู้ว่าฝรั่งอ่าน แช้เมิ่น ๕๕๕ เพิ่งรู้นะเนี่ย) , ปลาทูน่า , ปลาฮามาจิ , หอยปีกนก , ปูอัด และหมึกยักษ์ แต่ขาปูอลาสก้าด้านหลังนี่เป็นพร๊อบนะ อย่าเอาของเขาไปทานหละ

ข้างๆ ปลาดิบก็จะมีเป็นซูชิครับ มากมายหลายหน้า Nigiri Sushi ทั้งแซ้เมิ่น (คิคิ), ทูน่า, ฮามาจิ, เอบิ (กุ้ง), ปูอัด, ทาโก (หมึกยักษ์), ปลาไหล แล้วก็จำพวก Maki Sushi ต่างๆ

แล้วก็จะมีไลน์อาหารพวกที่เสิร์ฟเป็นถ้วยเล็กๆ รวมไปถึงพวกสลัดเอย นี่ โน่น นั่น เยอะแยะให้เลือกหยิบกันตามอัธยาศัย

เราไปทัวร์ด้านในกันจนทั่วแล้วก็แวะออกมาด้านนอกกันบ้างครับ ด้านนอกจะเป็นไลน์อาหารย่าง Grill ซึ่งก็จะมีพวกขาแกะ กุ้ง เนื้อ ฯลฯ ให้เลือกนะครับ ส่วนน้ำซอสก็มีหลายชนิดเลยแต่น้าอ้วนขอหยิ่งในความเป็นไทย น้ำจิ้มสามรสนั่นหละแซ่บที่สุดละ หึหึ

ปิดท้ายจริงๆ พามาทัวร์ไลน์ขนมหวาน ซึ่งบอกเลยว่าขนมหวานของโรงแรมดาราเทวี เป็นขนมหวานที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้นๆ ของเชียงใหม่ ใครที่เคยไปแวะไปทานขนมที่ Dhara Dhevi Cake Shop แล้วติดใจ ถ้าได้มาทาน Sunday Brunch ทีนี่ด้วยก็จะติดใจเช่นเดียวกัน เพราะเขาเอาขนมจาก Dhara Dhevi Cake Shop นั่นแหละมาบริการที่นี่ ลองดูด้วยสายตานะครับว่ามันเยอะ และอลังการขนาดไหน (อยากทานให้หมดทุกชิ้น แต่ก็มิสามารถ)

เดินทัวร์จนเมื่อย ถึงเวลามานั่งเคลียร์ในสิ่งที่ติดไม้ติดมือตอนที่ไปสำรวจไลน์อาหารมา น้าอ้วนขอเปิดงานด้วยอาหารทะเลนะครับ ก้ามปูอลาสก้าาาา คิคิ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กั้งกระดาน กุ้ง และพร้อมกับน้ำจิ้มสามรส บอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่ จุด จุด จุด มันอธิบายออกมาไม่ได้ ต้องไปลองเอง

ระหว่างที่กำลังฟินกับการแทะก้ามปูอลาสก้าอยู่นั่น พนักงานก็ได้เข้ามาถามว่าจะรับเป็นกุ้งมังกร Lobster ด้วยไหมครับ? ตอนแรกน้าอ้วนก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขาจะมีกุ้งมังกรเสิร์ฟด้วย เมื่อมาถามเช่นนั้นจะกล้าปฎิเสธได้อย่างไร (แลดูว่าเป็นคนที่ปฎิเสธคนไม่เป็น หึหึ) ก็เลยให้จัดมาเลยครับ แต่น่าเสียดายที่เขาจะเสิร์ฟท่านละจานเท่านั้น ปริมาณที่ได้ก็ครึ่งตัวครับ (ผ่ากุ้งตามแนวยาว เสิร์ฟพร้อมก้ามกุ้งในรูปแบบของการอบชีส) และแต่งด้วยคาร์เวียมาด้วย รสชาติบอกเลยว่าฟินมาก ทานกุ้งมังกรเคล้าคาร์เวียมันเป็นอะไรที่ไม่รู้จะสรรหาคำไหนบรรยายออกมา (ตอนนี้สงสัยแฟนเพจคงเริ่มหมั่นไส้อีตาน้าอ้วนละ อย่าเพิ่งหมั่นไส้ กรุณาดูรีวิวให้จบก่อนแล้วค่อยจัด)

อาหารทะเลเสร็จ กุ้งมังกรเสร็จ ก็ขอเดินไปเที่ยวด้านนอกบ้าง ก็ได้เป็นเซ็ท Grill มาเขามีอะไรน้าอ้วนก็จัดมาทั้งหมด รสชาติฟินมาก อ๊าก อ๊ากๆๆๆ

เซ็ทอาหารญี่ปุ่นบ้าง เริ่มแรกขอสตาร์ทด้วยปลาดิบก่อนนะครับ ทุกอย่างที่มีบนไลน์น้าอ้วนจัดมาด้วย พูดถึงความสด ขอยกนิ้วให้ พูดถึงความคุ้มค่าขอยกให้สิบนิ้วเช่นเดียวกัน ตามติดมาด้วยเซ็ทซูชิ ก็อร่อยไม่แพ้กันนะจ๊ะ

ใกล้อิ่มละ ขอโด๊บซะหน่อย โด๊บเยอะไม่ได้เดี๋ยวคึก เลยเอามาแค่ 2 ตัวพอกับหอยนางรมสดสั่งตรงจากฝรั่งเศส พ่วงมาด้วยหอยหลอดและหอยเชลล์ ที่ขาดไม่ได้ก็คือหอมเจียว น้ำพริกเผา และน้ำจิ้มสามรส ๕๕๕ ฟินอ่ะ

จากเมื่อกี้ที่พาไปทัวร์กินตับ ตอนนี้เราก็จะได้กินกันจริงๆ แล้วตับห่าน หรือฟัวกราส์ น้อยรายมากที่จะเอาตับห่านมาอยู่ในไลน์บุฟเฟ่ต์แบบนี้ เพราะมันเป็นอะไรที่ราคาค่อนข้างสูง และที่นี่เขาเสิร์ฟกันไม่อั้น แต่กินเยอะไม่ได้มันค่อนข้างเลี่ยน (เสียดายที่ไม่มีผักตกแต่ง เพราะผักหมด ๕๕๕) น้าอ้วนสั่งมา 2 ชิ้นกำลังดี ฟัวกราส์กรอบเล็กๆ ด้านนอกและด้านในนุ่มละมุนมาก ราดด้วยน้ำซอสรู้สึกถึงความเป็นผู้ดีฝรั่งเศสยังไงยังงั้นเลย

ขอขาปูอลาสก้าาาาาา รอบสองเถอะ รอบแรกฟินเกิน ๕๕๕๕

อิ่มละขอปิดท้ายด้วยขนมจาก Dhara Dhevi Cake Shop อย่างที่เห็นบนไลน์ขนมมีกองกันพะเนินเทินทึก แต่น้าอ้วนขอหยิบมาแค่ 4 อย่างก็พอนะครับ เพราะได้แค่นี้จริงๆ

ปิดท้ายด้วยชาสักแก้ว วิธีรินชาของที่นี่ก็ไม่เหมือนใครนะครับ เขามีอะไรไม่รู้ด้วยเอากรองกากชาไว้ แต่ถึงจะเอามากรองยังไง กากชาก็ยังนอนอยู่ก้นแก้วอยู่ดี ๕๕๕๕ แต่ชาที่นี่หอมดีครับ เป็นเครื่องดื่มปิดมื้ออาหารได้อย่างดีเลยทีเดียว

จะสรุปยังไงดี? ชื่อเสียงระดับโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ โรงแรมที่ได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมระดับ 6 ดาวของเชียงใหม่ ถ้าทำอะไรสักอย่างก็คงต้องทำให้อลังการเหมือนเกรดของโรงแรม ดังที่ได้เห็นใน Sunday Brunch ในวันนี้แล้วว่าเขาอลังการกันแค่ไหน ด้วยไลน์อาหารที่หลากหลาย แต่ละอย่างที่ทางโรงแรมเลือกสรรให้มาอยู่บนไลน์อาหาร ล้วนแต่อลังการทั้งสิ้น เกรดพรีเมี่ยมทั้งนั้น พูดได้ว่าไม่ดี ไม่เลิศ อย่าคิดได้มาอยู่บนไลน์อาหารของที่นี่ ดังนั้นบุฟเฟ่ต์ราคาเกือบ 1800 บาทในวันนี้ ถือว่าคุ้มมาก (แค่ไปกินปูอลาสก้าสักกิโลหนึ่ง ก็เกินคุ้มแล้ว, ปูอลาสก้าราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 3,000 บาท) แล้วยังมีอาหารอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกรับประทาน

ใครที่มีโอกาส และอยากไปลอง Sunday Brunch ดูสักครั้ง ต้องบอกเลยว่าให้ไว ต้องรีบเพราะเต็มทุกอาทิตย์ ใครคิดจะ Walk In เข้าไปโดยที่ไม่ได้จองแต่เนิ่นๆ บอกเลยว่าอดแน่นอน แล้วจะรู้ว่าสวรรค์ของนักกินมีอยู่จริง

Share on Facebook

Tweet

Follow us