ชิรายูริ (Shirayuri) ร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมียม ใจกลางเมือง

By น้าอ้วน 11 years ago

ชิรายูริ แปลกว่า ดอกลิลลี่สีขาว ชื่อนี้ถูกนำมาตั้งชื่อเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในย่านนิมมานเหมินทร์ครับ ร้านนี้จุดเด่นของเขาน่าจะอยู่ที่อาหารที่มีลักษณะของการนำเสนอที่แปลกตา วัตถุดิบแต่ละอย่างที่ใช้ค่อนข้างที่จะเป็นพรีเมียมเทียบเท่าระดับของ Fuji Restaurant นะครับ และที่สำคัญใครจะมาที่นี่ รับประกันว่าไม่มีทางหลงแน่นอน เพราะร้านนี้เขามีจุดเด่น มีสัญลักษณ์ที่เป็นแลนด์มาร์กที่ใครเห็นแล้วจะต้องร้องอ๋๊อ …. แต่ตอนนี้น้าอ้วนยังไม่บอกว่าคืออะไร ให้มาติดตามรีวิวของน้าอ้วนเอาเองนะจ๊ะ 🙂

ชื่อร้าน : ชิรายูริ (Shirayuri) ร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมียม ใจกลางเมือง นิมมาน 5 เชียงใหม่
ที่อยู่ : ร้านชิรายูริ ถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 5 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.79854,98.968415 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 053-222443 , http://www.shirayurirestaurant.com/
เวลาเปิด-ปิด : 11:30 – 14:30 และ 17:30 – 23:30 น. ทุกวัน

ชิรายูริ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ใจกลางเมือง แหล่งท่องเที่ยวของเชียงใหม่ อย่างนิมมานเหมินทร์ ร้านนี้เขาตั้งอยู่ซอย 5 เมื่อเข้าซอยไปแล้วจะเจอสี่แยกชื่อแปลกๆ ชื่อสี่แยกก๊อดซิลล่า ซึ่งตรงสี่แยกนั่นจะมีตุ๊กตาก๊อดซิลล่าตัวใหญ่ เห็นเด่นชัด และนั่นแหละคือที่ตั้งของร้าน Shirayuri นั่นเอง

ร้านนี้เขาตกแต่งออกแนว Modern บรรยากาศในร้านโล่ง โปร่งสบายดีครับ ห้องแอร์เย็นสบาย สำหรับโต๊ะเก้าอี้เขาจะมีอยู่ 2 แบบนะครับ คือแบบโต๊ะและเก้าอี้ธรรมดา ที่เห็นได้ตามร้านอาหารทั่วไป และอีกรูปแบบหนึ่งคือจะเป็นโต๊ะแบบเทปันยากิ Tepan Yaki ซึ่งจะมีลักษณะเป็นโต๊ะที่ล้องวงในลักษณะตัว U โดยที่จะใกล้ชิดกับเชฟ ที่จะแสดงฝีมือในการทำเทปันยากิ ให้ลูกค้าที่จองได้ได้ทานกัน (ที่นี่ถือเป็นแห่งเดียวที่มีการโชว์เทปันยากิ โดยเชฟที่มีฝีมือ น้าอ้วนแอบไปดูลีลามาแล้ว เจ๋งอ่ะ)

รายการอาหารของที่นี่ค่อนข้างที่จะมีมากพอสมควร อาจจะไม่มีเยอะเป็นหลายร้อยรายการ แต่ก็ครอบคลุมอาหารญี่ปุ่นได้ทุกประเภท อีกทั้งหากใครที่อยากทานอะไร แต่ดูในเมนูแล้วไม่มี ถามได้เลยครับว่าถ้าอยากทานแบบนี้ จะทำให้ได้ไหม? ถ้าวัตถุดิบที่ร้านมี ทางร้านก็ยินดี made to order ให้ลูกค้าอยู่แล้ว

ที่สำคัญร้านนี้เขามีราเมนแบบญี่ปุ่นแท้บริการกันด้วยนะครับ ซึ่งในส่วนของราเมนนั้นเขาจะแยกร้านออกไป แต่ก็บริการในเครือเดียวกัน ราเมนที่ร้านนี้มีจะเป็นรูปแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ปรุงโดยเชฟชาวญีปุ่นแท้ๆ และอีกรูปแบบหนึ่งคือจะเป็นราเมนที่ประยุกต์ให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น

ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง มาถึงปุ๊บพนักงานก็เอาผ้าเช็ดมือมาให้ ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ทางญี่ปุ่นเขามักจะจัดให้ลูกค้าทุกครั้งเมื่อเข้ามานั่งที่โต๊ะ ผ้าเย็นดีครับ

หลังจากจัดการเช็ดไม้ เช็ดมือกันแล้วก็มาเริ่มกับเมนูแรก (แต่ก็ไม่ได้ใช้มือหยิบนะ ๕๕๕) Vocano Roll จะเป็นมากิซูชิ ไส้ด้านในจะมี Avocado, ปูอัด, ไข่หวาน แล้วเคลือบด้วยไข่กุ้งเต็มชิ้น ที่สำคัญด้านบนก็โปะมาด้วยหอยเชลล์ย่างซอสมายองเนส บอกเลยว่าหอยเชลล์เนื้อแน่น และเปรี้ยวๆ หวานๆ ด้วยซอสมายองเนส ทานคู่กับซูชิ น้าอ้วนว่าเป็นเมนูที่เขาคิดดัดแปลงออกมาได้รสชาติอร่อยลงตัวดีนะครับ

เมนูที่สองสลัดปลาดิบ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำสลัดงา เป็นอาหารเพื่อสุขภาพครับ ผักสดและกรอบดีนะครับ น้ำสลัดก็เปรี้ยวๆ หวานๆ เค็มๆ รสชาติโอเค ราดลงไปบนผักให้ชุ่มๆ ทานคู่กับปลาดิบที่ถือว่าสดเอาเรื่องเลย รสชาติโอเคเลยจานนี้ เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพ

จานนี้หลายๆ คนต้องรู้จักแน่นอน เซ็ทปลาดิบรวมครับ อลังการมากเป็นเซ็ทปลาดิบแบบกลางๆ จะประกอบด้วยแซลมอน, ทูน่า, หอยปีกนก, ฮามาจิ และปลาซาบะ ที่นี่เขาจะเสิร์ฟมาในชามน้ำแข็งเลยครับ สร้างเป็นชามแล้วมีแอ่งตรงกลาง ประดับประดาให้ดูดี ดูแล้วตื่นเต้น ทำให้รู้ว่าที่ร้านนี้เขารู้จักสร้างสรรการตกแต่งจานให้ออกมาดูดีมากครับ และที่สำคัญปลาต่างๆ สดมาก จิ้มกับโชยุและวาซาบิ บอกเลยว่า OISHIIIIIIIIIIIIII

หลังจากไปด้อมๆ มองๆ บริเวณโต๊ะเทปันยากิมา ก็ถึงเวลาที่น้าอ้วนจะได้ชิมเมนูเทปัน (สเต็ก) กับเขาซะที วันนี้เชฟจะเอาเนื้อสันในมาให้ทานกัน แว๊บแรกที่เห็นชิ้นเนื้ออันนี้ในใจคิดว่าลายไขมัน (marble) สวยมาก แต่พอรู้ว่าเป็นเนื้ออะไรแทบจะสตั๊กไป 3 วินาที เนื้อที่ทางร้านจะให้ลองชิมวันนี้เป็นเนื้อ Wagyu เกรด A5 ซึ่งถือว่าเป็นเนื้อวัวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น (A5 คือเกรดการวัดคุณภาพของเนื้อวัว ซึ่งเป็นเกรดสูงสุด) ดังนั้นน้าอ้วนต้องถามราคาทันที เพราะสเต็กจานนี้ขายกันที่ 3,400 บาท หึหึ ….. ต้องยอมรับเลยว่ารสชาติมันสมกับเป็นเนื้อ A5 เพราะจากลักษณะของสีของเนื้อ ลายไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อ ความนุ่ม บอกเลยว่าฟินโพดๆ หากใครที่มีกำลังทรัพย์ที่จะสั่ง น้าอ้วนขอแนะนำเลยว่าถ้าได้ทานแล้วจะไม่ผิดหวัง

อย่างที่น้าอ้วนได้เกริ่นไปตอนกลางๆ รีวิวว่าที่นี่เขามีราเมนด้วย ซึ่งราเมนนั้นจะปรุงด้วยเชฟชาวญี่ปุ่นแท้ๆ วันนี้เราก็เลยได้ชิมราเมนกัน 1 อย่าง (ที่จริงก็อยากหลายๆ อย่างนะ แต่ตอนนี้ท้องจะรับไม่ไหวละ อิอิ) วันนี้เราเลยได้ชิมราเมนที่ชื่อว่า Champon Ramen เป็นราเมนที่มีคนสั่งมากที่สุด เพราะว่าจากที่น้าอ้วนดูแล้วมันคุ้มค่าดีนะ เครื่องก็มีทั้งกุ้ง หมึก หมู ลูกชิ้นต่างๆ ส่วนน้ำซุปก็มีความกลมกล่อม มันๆ เส้นก็เหนียวนุ่มดี ดังนั้นน้าอ้วนว่าราเมนสูตรนี้ต้องถูกปากลูกค้าหลายๆ คนอย่างที่สุด

ปิดท้ายด้วยข้าวหน้ายากินิกุ เป็นข้าวที่มีเนื้อย่างโปะมาบนข้าว เนื้อจะถูกย่างพร้อมกับซอสเทอริยากิสูตรเด็ดของทางร้าน ถ้าเราลองทานแต่เนื้อจะรู้สึกว่ามีรสชาติหวานนำ แต่ถ้าได้ตักข้าวตามเข้าไปก็จะรู้สึกถึงความมันของข้าวไปกลบความหวาน ทำให้รสหวานอ่อนลง และกลายเป็นความกลมกล่อมแทน เสิร์ฟพร้อมกิมจิและผักผัดน้ำมันงาด้วยนะครับ

Shirayuri อ่านว่า ชิรายูริ ไม่ใช่ซายูริ อิอิ … (มีแฟนเพจหลายคนแอบแซว) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่ถือได้ว่าเป็นร้านที่น่าแนะนำอีกร้านหนึ่งครับ บรรยากาศ การตกแต่ง วัตถุดิบอาหาร และรสชาติถือว่าโอเค ผ่านเกณฑ์การพิจารณา 5555 สำหรับลูกค้าที่จองโต๊ะเป็นแบบเทปันยากิ ก็จะได้ชมลีลาการทำอาหารของเชฟเทปัน ซึ่งได้ข่าวว่าอิมพอร์ตจากจากภูเก็ตเลยทีเดียว และเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งเดียวที่มีการโชว์เทปันแบบนี้ น้าอ้วนไปแอบดูมาละ เชฟเขาลีลาดีจริงๆ ๕๕๕ ดูไป เพลินไป และสำหรับราเมน เขาจะแยกเป็นอีกร้านหนึ่งย่อยๆ ไปเลยนะครับ ใครที่อยากไปทานที่ราเมนบาร์ ก็เชิญได้ แต่ถ้าขี้เกียจก็สั่งจากในร้านให้พนักงานเอามาเสิร์ฟก็ได้ครับ