Posted On
China On Tour : รีวิวเมนูเด็ดเมืองหังโจว

รีวิวนี้ขอถือเป็นรีวิวเฉพาะกิจแล้วกันนะครับ เพราะปกติแล้วน้าอ้วนจะรีวิวเฉพาะอาหารในเขตจังหวัดเชียงใหม่ แต่เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา น้าอ้วนได้มีโอกาสแวะไปเที่ยวที่ประเทศจีนมาครับ ไปตั้งหลายวัน 9 วัน 7 คืน เล่นไปเที่ยวกันซะฉ่ำอุรากันเลยทีเดียว ทริปนี้น้าอ้วนไปกับบริษัทเงือกทองทัวร์ ทริปบ้าอะไร 9 วัน 7 คืน ราคา 15,900 บาท เอาให้เพื่อนคนไหนๆ ดูมีแต่คนบอกเวอร์กันทั้งนั้น ทัวร์อะไรไปตั้งหลายวัน ทำไมมันถูก ทัวร์ผีหรือเปล่า จะกินอยู่ยังไง มันคือคำถามที่ทุกคนสงสัยกัน…..
แน่นอนครับว่าประเทศจีน เป็นประเทศหนึ่งที่ศาสตร์ของอาหารเขาเป็นศาสตร์ที่มีความเป็นมายาวนาน และในทริปนี้น้าอ้วนมีโอกาสได้แวะเวียนไปเที่ยวหลายเมืองเลยทีเดียว ดังนั้นจึงอยากมารีวิวอาหารของแต่ละเมือง ว่าเมืองไหนเขามีเมนูเด่นอะไร วันนี้น้าอ้วนขอ Go Inter รีวิวอาหารพื้นเมืองของประเทศจีนนะครับ
เมืองแรกที่น้าอ้วนได้แวะไปเที่ยวนั่นคือเมืองหังโจว (Hangzhou) เป็นเมืองหลักของมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเซี่ยงไฮ้ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 200 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีภูเขาล้อมรอบหังโจวเป็นเมืองทีเก่าแก่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 2,200 ปี เป็นเมืองโบราณ 1 ใน 7 ของจีนที่รัฐบาลห้ามสร้างอาคารสูง เป็นเมืองที่สวยงามมากครับ จนได้รับสมญานามว่า “สวรรค์บนดิน”
ก่อนที่เราจะไปดูอาหารการกินของเมืองนี้ว่ามีอะไรเด่น น้าอ้วนขอเอาภาพสถานที่ท่องเที่ยวมาฝากให้ดูกันซะหน่อย ว่าเมืองที่ได้สมญานามว่า “สวรรค์บนดิน” เขาสวยขนาดไหน

ต่อมาเรามาพูดถึงเรื่องอาหารกันดีกว่าครับ ทัวร์ที่ไปด้วยปกติแล้วมื้ออาหารเขา เขาจะบริการเป็นโต๊ะจีนครับ นั่งด้วยกันประมาณ 10-12 คนโดยประมาณ (ต้องกราบขออภัยลูกทัวร์ร่วมโต๊ะทุกท่าน ที่น้าอ้วนไปนั่งด้วยนะครับ ๕๕๕ น้าอ้วนจะเป็นคนที่กวนใจคนอื่นที่สุดเพราะเวลาอาหารลงปุ๊บ ต้องขอถ่ายรูปก่อน อาจจะทำให้ลูกทัวร์ท่านอื่นไม่ค่อยสบายอารมณ์ ก็ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ) ก็จะมีอาหารมากมาย รวมๆ แล้วประมาณ 9-10 อย่างต่อมื้อได้ครับ


อาหารบนโต๊ะหลายๆ อย่างอาจจะเหมือนกันในบางเมนู แต่ที่น้าอ้วนไปทานนั้นมื้อเที่ยงก็ร้านหนึ่ง มื้อกลางวันอีกร้านหนึ่งนะครับ แต่ลักษณะภายนอกหรืออาหารทั่วไปจะคล้ายๆ กัน เช่นผัดผัก หรือปลานึ่งเป็นต้น
ตอนนี้เรามาถึงช่วงที่จะแนะนำพระเอกเด็ดของแต่ละเมืองให้รู้จักกันแล้วครับ ที่เมืองหังโจวแห่งนี้จะมีเมนูเด็ดอยู่ 2 อย่างคือ อย่างแรกชื่อว่า หมูตงโพ หรือ หมูตงพอ หรืออะไรก็ตามแล้วแต่จะเรียก ๕๕๕ (ในกรณีออกเสียงไม่เหมือนกัน) หมูตงโพจะเป็นหมูสามชั้นชิ้นใหญ่ๆ เอาไปต้มซีอิ๊ว ดังนั้นจะมีรสชาติมันๆ เลี่ยนๆ บ้าง และหอมเครื่องซีอิ๊ว รสชาติออกหวาน ๆ ซึ่งแต่ละร้านลักษณะการทำ หรือสูตรจะไม่เหมือนกัน แต่หลักๆ แล้วมันคือหมูต้มซีอิ๊วบ้านเรานี่แหละครับ
และอีกเมนูหนึ่งชื่อว่า ไก่ขอทาน ภาษาจีนกวางตุ้งเรียกว่า “ฮั๊กยี้ไก้” เคยมีเรื่องเล่าว่า มีขอทานคนหนึ่งได้ไปขโมยไก่ที่บ้านเศรษฐีแล้วกลัวว่าจะโดนจับได้ เลยเอาดินเหนียวมาพอกไก่ไว้ แล้วเอาไปเผาแล้วเอาซ่อนไว้ พอแกะดินเหนียวออกมา ขนไก่จะหลุดติดดินเหนียวออกมาหมด แล้วทำให้เหลือเพียงเนื้อไก่ล้วนๆ รสชาติของเนื้อไก่จะอร่อยมาก จึงเป็นที่มาของชื่อว่าไก่ขอทาน จากรสชาติแล้วเนื้อไก่นุ่มจริงๆ ครับ
ลักษณะทั่วไปของอาหารจีน จะมีรสชาติค่อนข้างจืดๆ หรือมีลักษณะมันๆ ก็เพราะว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่ภูมิอากาศค่อนข้างหนาว (อุณหภูมิสูงสุดที่เมืองหังโจวในฤดูร้อนก็ประมาณ 20-25 องศาเอง) ถ้าเป็นประเทศไทยบ้านเรา 25 องศานี่ถือว่ากำลังดีสุดๆ ดังนั้นคนจีนเขาจึงต้องทานอาหารที่มีความมันเพื่อให้ร่างกายเก็บเป็นพลังงานไว้ใช้ในยามที่หนาว และอาหารที่รสชาติจืดๆ เพราะว่าการทานจืดทำให้ร่างกายไม่จำเป็นต้องขับเหงื่อ หรือขับความร้อนออกมา จึงทำให้ร่างกายเก็บความอบอุ่นไว้ได้ตลอดครับ 🙂
RELATED POSTS
-
ทานอาหารในบรรยากาศและวิวแบบ 360 องศา รสชาติและราคาสมน้ำสมเนื้อ ที่ร้านระเบียง ณ แม่ริม เชียงใหม่
-
สัมผัสความเย็นในฤดูหนาว กับวิวที่มองเห็นแม่ริมได้กว่า 360องศา ร้านบรรยากาศดี ๆ อาหารครบครันที่ Maroochi Mountain Club โป่งแยง
-
หลีกหนีความวุ่นวายของในเมือง สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกับวิวทุ่งนาที่ Chiangmai Rice Life
-
อิ่มอร่อยกับอาหารเกาหลีสูตรเด็ด Tudari Express เมญ่าเชียงใหม่
-
ไม่ว่าจะเป็นเครปที่อัดแน่นด้วยเบอรี่เน้นๆ หรือฮันนี่โทสต์ที่กรอบนอกนุ่มใน ล้วนฟินเว่อร์ที่ Cafe Kantary นิมมาน
-
ร้านไก่ทอดเกาหลียุคบุกเบิก ร้านแรก ๆ ของเชียงใหม่จัดเต็มด้วยรสชาติในแบบต้นตำรับที่ RAWtruckr
-
ไม้เดียวคงไม่สะใจเท่าไร มาแล้วต้องจัดเต็มกับหม่าล่าแบบใหม่น้ำซุปดี หรือจะทอดก็ฟินที่ หม่าล่าไม้เดียวสะใจ
COMMENT