The Rain Tree Chiang Mai ร้านอาหารดี บรรยากาศร่มรื่น

ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ ร่มรื่นและแปลกตามีมากมายหลายร้านในเชียงใหม่ วันนี้น้าอ้วนมีร้านอาหารอีกร้านหนึ่งที่สำหรับคนที่ชอบบรรยากาศร่มรื่นหรือชิลๆ จะต้องประทับใจร้านนี้แน่นอน แต่เราจะออกจากตัวเมืองไปสักหน่อยเพื่อที่จะให้ได้สัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติอย่างแท้จริง วันนี้น้าอ้วนจะชวนมาเที่ยวแถมแม่ริมครับ เจอกับร้านอาหารสไตล์สวย ร่มรื่น และอากาศดี ชื่อเก๋ๆ อย่าง The Rain Tree

ชื่อร้าน : The Rain Tree Chiang Mai ร้านอาหารดี บรรยากาศร่มรื่น
ที่อยู่ : โครงการปาล์มสปา วิลเลจ ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.91227,98.953873 (แผนที่จาก Google Maphttp://goo.gl/maps/uunN9)
ติดต่อ : 091 071 9403 , www.facebook.com/theraintreemaerim
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 21:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/135195ZL-the-rain-tree-mae-rim-chiang-mai

ช้างเผือกมักจะอยู่ในป่าใหญ่ ถ้าอยากมาหาร้านอาหารดีๆ อร่อยๆ สวยๆ สักร้านหนึ่งก็คงต้องมาหากันไกลหน่อย เพราะน้าอ้วนเชื่อว่าในเมืองธรรมชาติที่แท้จริงคงจะไม่ค่อยมีแล้ว แต่บริเวณรอบนอกยังมีให้เห็นกันอยู่มากมาย อย่างร้าน The Rain Tree นี้หากใครอยากมาสัมผัสความสวยงามก็ให้มุ่งหน้ามาทางแม่ริมนะครับ ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงสามแยกที่จะเลี้ยวไปทางแม่โจ้ (สามแยกนี้ไม่มีชื่อ) แต่ถ้าจะให้มีจุดสังเกต ก็คือจะเจอสถานีบริการแก๊ส World Gas อยู่ด้านซ้ายมือ พอถึงสามแยกแล้วให้เลี้ยวขวาครับ ขับไปประมาณ 800 เมตร จะเจอโครงการปาล์มสปา วิลเลจอยู่ซ้ายมือ ให้เลี้ยวรถเข้าไปเลยครับ จะเจอร้าน The Rain Tree ตั้งอยู่หน้าโครงการ

หรือใครที่มาจากทางเส้นแม่โจ้ ก็ให้ผ่านมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มาจนถึงสามแยกโรงพยาบาลสันทราย ก็ให้เลี้ยวไปทางโรงพยาบาลสันทรายนะครับ จากจุดนี้ตั้งเข็มไมล์ไว้เลยว่า 4.4 กิโลเมตร ระหว่างทางก็จะผ่านสะพานข้ามแม่น้ำปิงด้วย แล้วก็มาถึงจุดหมายโครงการปาล์มสปา วิลเลจ จะอยู่ขวามือเลี้ยวรถเข้าไปเลยครับ

พอมาถึงที่ร้าน จอดรถกันเรียบร้อยทางเข้าร้านจะมีอยู่ 2 ทางคือจะเป็นโซนในร้าน (ห้องแอร์) และเป็นโซนการ์เด้น คือจะเป็นสวนสวย ชื่อร้าน The Rain Tree นี่ก็มาจากต้นฉำฉา (จามจุรี) ต้นใหญ่ 3 ต้นที่อยู่บริเวณร้านนี่แหละครับ เป็นต้นไม้ที่ใหญ่มาก อายุก็น่าจะมากอยู่แผ่กิ่งก้าน สาขาให้ร่มเงาครอบคลุมบริเวณร้านได้เป็นอย่างดี บริเวณโซนนี้ก็จะมีต้นไม้นานาพรรณ ดอกไม้พุ่มเตี้ยๆ รวมไปถึงศาลากลางสวนที่เอาไว้รองรับลูกค้าเป็นกลุ่ม ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว

หรือจะย้ายมานั่งอยู่บนชานบ้าน Terrace ซึ่งก็จะสามารถมองเห็นบริเวณสวนได้เช่นกัน แต่บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่กลางแจ้ง สามารถมองเห็นบริเวณของสนามหญ้าหน้าโครงการได้ ดึกๆ มาโซนนี้จะมีลมพัดโกรกครับทำให้รู้สึกเย็นสบายดีเลยทีเดียว

หรือใครชอบความเย็นสุดขั้ว ทางร้านก็มีโซน Indoor ให้บริการ ในโซนนี้ก็จะเป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ และถ้าสังเกตดูบริเวณของฝาผนังร้านนี้เขาจะมีรองเท้าคู่เล็กๆ ประดับประดาทั่วร้านเลยทีเดียวครับ เจ้าของร้านบอกว่าถ้านับดูแล้ว รองเท้าเหล่านี้จะมีจำนวนถึง 3,500 คู่เลยทีเดียว เป็นของสะสมที่สะสมกันมานานมากกกก และจากทั่วโลก รวมไปถึงสินค้าโบราณ ของเก่า Antique ที่ตั้งแสดงในร้านถ้าถูกใจก็สามารถซื้อกลับบ้านได้นะจ๊ะ ราคาตกลงกันเองกับเจ้าของร้านเลย

ที่ร้านอาหาร The Rain Tree นี้เรียกได้ว่ามาที่เดียวนี่ครบเลย ทั้งอาหารไทยและอาหารเทศที่นี่มีบริการครบรวมไปถึงพิซซ่ากว่า 20 หน้าให้เลือกกันได้แบบจุใจ หรือจะเป็นขนมหวานที่เขาทำกันแบบ Homemade ด้วยประสบการณ์ชอบเชฟที่ได้รวมงานหรือผ่านงานมาจากร้านอาหารใหญ่ๆ รับรองรสชาติของอาหารที่นี่อิ่มอร่อยสะใจลูกค้าทุกคนแน่นอน

วันนี้น้าอ้วนก็ขอนำเสนออาหารคละกันเลยแล้วกันนะครับ คงไม่ได้แยกว่าเป็นไทยหรือเทศแบบไหน เพราะว่าอาหารวันนี้ทางร้านเลือกแบบจานเด็ดของทางร้านมาให้ชิมกันแบบเชฟเอาหัวเป็นประกัน ๕๕๕ เริ่มแรกขอแบบไทยๆ ที่เจ้าของร้านบอกว่าถึงแม้เป็นอาหารไทยแต่ฝรั่งชอบสั่งกันมาก นั่นก็คือ ยำมะเขือยาวกุ้งสด ลักษณะของอาหารจานนี้คือจะเป็นมะเขือยาวที่จะเอาไปเผา (Grill) ให้ด้านนอกไหม้แต่ด้านในสุกพอประมาณ แต่เวลาทานนี่จะได้กลิ่นควัน หรือฝรั่งจะเรียกว่า Smoke ของการเผาในครั้งนี้ราดด้วยน้ำยำสูตรลับเฉพาะของทางร้านและมีกุ้งสดและไข่ต้มเสิร์ฟมาเป็นเครื่องเคียง รสชาติจะออกจัดจ้าน แซ่บมาก น้าอ้วนก็ยังสงสัยว่าฝรั่งจะกินได้หรือเปล่า แต่หารู้ไม่ว่าแซ่บๆ แบบนี้หละฝรั่งเขาชอบ

พิซซ่าเป็นเมนูที่หลายๆ คนคงชอบอยู่แหละ วันนี้นำเสนอ Pizza Four Seasons เป็นพิซซ่าแป้งบางกรอบจัดเต็มด้วยท๊อปปิ้ง 4 อย่างได้แก่ แฮม เห็ด อติโชก และมะกอกดำ ชีสนุ่มและเหนียวมากครับ พิซซ่านี่ต้องทานร้อนๆ อร่อยมากขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง

อาหารฟิวชั่นอีกจานหนึ่งที่ได้รับความนิมไม่แพ้กัน มีประโยชน์ช่วยเพิ่ม Omega 3 ได้เป็นอย่างดี Salmon มันบดวาซาบิ เป็นอาหารฟิวชั่นระหว่างฝรั่งและญี่ปุ่น จะเป็นเนื้อปลาแซลมอนที่เอาไปย่างให้สุกพอดี วางบนมันบดก้อนใหญ่ แล้วก็ด่านล่างจะเป็นซอสมิโสะวาซาบิ ด้านบนก็จะมีสาหร่ายและไข่กุ้งท๊อปปิ้งอยู่ด้านบนเสิร์ฟมาจานใหญ่ๆ แบบนี้ 1 คนนี่อิ่มได้สบายๆ เลยแหละ

มาขอกล่าวในส่วนของขนมนมเนยกันบ้าง ขนมที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้ใคร เป็นแบบ Homemade ครับทำสดๆ กันทุกวัน เริ่มจาก Opera Cake เนื้อเค้กเนียนนุ่มมาก รสชาติของกาแฟอร่อย เสิร์ฟพร้อมกับผลไม้สดเอาไว้ทานคู่กันทำให้รู้สึกสดชื่นดีมากๆ

หรือจะมาในส่วนของ Choux Cream ที่มาแบบเก๋ไก๋ แท่งยาวๆ บางคนก็อาจจะชินตากับชูครีมที่เป็นก้อนกลมๆ รสชาติเข้มข้น แป้งชูครีมก็เหนียวนิดๆ ทำให้ได้ทั้งความนุ่มเนียน และความเหนียวผสมผสานกันได้เป็นอย่างดี

Chocolate Lava เมนูโปรดปราณของใครหลายๆ คน ลักษณะจะเป็นก้อนเค้กขนาดพอดี และท่าสุดฮิตที่หลายๆ คนชอบก็คือเวลาเอามีดหั่นลงไปแล้วจะเห็นช็อคโกแลตเหลวๆ ไหลออกมาเหมือนลาวากำลังไหลออกมาจากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งรสชาติของ Chocolate Lava ก้อนนี้อร่อยครับ ช็อคโกแลตเข้มข้นมาก ทานคู่กับไอศครีมและผลไม้สดที่เสิร์ฟมาข้างๆ จะรู้สึกฟินมากกก

ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มที่แสนสดชื่นของทางร้าน ไม่ว่าจะเป็น ไหมไทย ค็อกเทลชื่อดังของเมืองไทย รสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ สดชื่นและมีรสชาติของแอลกอฮอลนิดๆ ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และมิโดริ Midori ค็อกเทลสัญชาติญี่ปุ่น จะเป็นเหล้ากลิ่นเมลอนรสชาติอร่อย สดชื่นสาวๆ ต้องชอบแน่ๆ แก้วนี้ // และยังมีน้ำเปล่าด้วยนะ อันนี้คงไม่ต้องรีวิวใช่ไหม? อิอิ

เห็นแล้วใช่ไหม? ว่าร้านี้เขามีดี ไม่ใช่แค่บรรยากาศเท่านั้นอาหารก็อร่อย ขับรถออกมาสักนิด แล้วจะพบกับธรรมชาติที่สวยงาม วันหยุดก็ปลีกตัวออกมาจากในเมืองสักวันถือว่าเป็นวันพักผ่อนของตัวเอง ไม่ว่าใครจะชอบบรรยากาศแบบในสวนที่มีต้นไม้ใบหญ้าปกคลุมเกือบทุกตารางนิ้ว หรือเป็นมุม Terrace นั่งดูสนามหญ้าหน้าร้านและบรรยากาศลมพัดเย็นสบาย ก็เลือกได้กันตามอัธยาศัย รวมไปถึงบรรยากาศตอนกลางคืนของร้านนี้ก็สวยดีไม่แพ้กันครับ แสงสีของโคมไฟที่ประดับประดาทำให้รู้สึกว่าถ้าพาแฟนมานี่ ต้องโรแมนติกแน่ๆ อิอิ 🙂

Share on Facebook

Tweet

Follow us