Posted On
Chez Marco ร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ถนนลอยเคราะห์
ถนนลอยเคราะห์ ชื่อนี้คนเชียงใหม่รู้จักดี เป็นย่านท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ ถ้าเปรียบเทียบแล้วถนนลอยเคราะห์บ้านเราก็คงเหมือนถนนข้าวสารที่กรุงเทพ ที่จะมีแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปเที่ยวกันอย่างมากมาย บอกตามตรงว่าน้าอ้วนไม่รู้หรอกนะว่าแถวนี้จะมีร้านอาหารที่อร่อยๆ ที่น้าอ้วนจะมารีวิววันนี้ ในความคิดส่วนตัวของน้าอ้วนเองนึกว่าซอยนี้จะมีแต่พวกร้านผับ บาร์ เท่านั้นแต่วันนี้มีโอกาสได้มารู้จักร้านอาหารฝรั่งสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ที่ถือว่าขึ้นชื่ออีกร้านหนึ่งในเชียงหม่ (แต่ทำไมน้าอ้วนยังไม่เคยมา?) อิอิ บอกเลยว่าร้านนี้ถ้าถามคนที่ชอบทานอาหารฝรั่งนะ 8/10 คนจะต้องรู้จักเป็นอย่างดี กับร้าน Chez Marco
ชื่อร้าน : Chez Marco ร้านอาหารฝรั่งสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ถนนลอยเคราะห์
ที่อยู่ : 15/7 ถนนลอยเคราะห์ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.784988,98.994171 (แผนที่ Google Map)
ติดต่อ : 053-207 032, 084-364 7294, https://www.facebook.com/pages/Chez-Marco-Restaurant-and-Bar/131537150244227
เวลาเปิด-ปิด : มื้อเที่ยง 11:30 – 14:30 น. และมื้อเย็น 17:30 – 24:00 น.
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/14067Ze-chez-marco
หลายสถาบัน หลายองค์กร ต่างการันตีความเด็ดสาระตี่ของร้าน Chez Marco กันอย่างเนืองแน่น ไม่ว่าจะเป็น TripAdvicer ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของนักท่องเที่ยวก็มอบรางวัล Certified of Excellence Winner 2013 ให้ หรือแม้แต่ Thailand Best Restaurant ก็มอบรางวัล The Winner ประจำปี 2013 ให้ Chez Marco หรือการันตีด้วยร้านอาหารระดับ 4 ดาว (ดีเยี่ยม) จากเว็บไซต์ Wongnai.com แค่นี้ก็ทำให้ร้าน Chez Marco เป็นร้านที่น่าสนใจ ที่จะต้องแวะเวียนมาชิมสักครั้งหนึ่ง
ร้าน Chez Marco ตั้งอยู่บนถนนลอยเคราะห์ เมื่อเราเลี้ยวเข้าซอยมาจากทางถนนคชสาร ให้เราเข้ามาประมาณ 200 เมตรครับ ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ (ก่อนถึงโรงแรมระมิงลอดจ์) หากใครเอารถมอเตอร์ไซต์มาก็สามารถจอดที่หน้าร้านได้เลยนะครับ แต่ถ้าเป็นรถยนต์ให้ขับเลยไปนิดหนึ่่ง จะมีซอยเล็กๆ สังเกตป้ายลานจอดรถ คุณสามารถเอารถไปจอดในนั้นได้ จะเสียค่าจอดรถ 40 บาท แต่สามารถนำบัตรจอดรถนั้นมาเป็นส่วนลดที่ร้านได้นะครับ (ไม่ได้เสียฟรีๆ นะ)
ลักษณะการตกแต่งร้านจะใช้โทนสีสดใส ร้อนแรง ตามสไตล์ร้านอาหารริมชายฝั่งทะเลแถวๆ เมดิเตอร์เรเนียน (ทำเหมือนเคยไป ๕๕๕) ด้านในจะเป็นโซนห้องแอร์นะครับ อากาศเย็นสบาย ไฟสลัวๆ โรแมนติก (น้าอ้วนไม่เข้าไปเพราะมันสลัวเนี่ยแหละ กลัวถ่ายรูปออกมาแล้วไม่สวย) เลยเลือกมานั่งข้างนอกครับ แสงสี สว่าง แต่ร้อนนิดหนึ่ง ทำไงได้ช่วงนี้ฤดูร้อน มันเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้วนี่เนอะ
รายการอาหารที่นี่หลากหลายมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่น้าอ้วนอยากจะบอกกล่าวคือราคาของอาหารแต่ละชนิด ถ้าเทียบกับร้านอาหารในระดับเดียวกัน ชื่อเสียงเดียวกัน บอกเลยว่าที่ Chez Marco ราคาไม่ได้แพงเลย ถือว่าเป็นราคามาตรฐานสมเหตุสมผล ตอนแรกน้าอ้วนนึกว่าร้านนี้จะมีแต่ชาวต่างชาติเท่านั้น แต่คิดผิดครับ คนไทยก็มีเหมือนกันนะ ทั้งที่มาแบบแฟนเป็นต่างชาติ หรือจะมาเป็นครอบครัว ลูกค้าแวะเวียนเข้าออกกันตลอด
มาถึงเรื่องของอาหารกันบ้างครับ มาร้านอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน เป็นร้านอาหารอารมณ์ชายฝั่งทะเล ก็คงต้องขอเริ่มจากเมนูอาหารทะเลก่อนนะครับ เมนูแรกชื่อยาวซะเล็กน้อย Shrimp & Squid flamed with cognac ใครที่จะสั่งเมนูนี้ขอให้เตรียมตัว เตรียมใจกันสักหน่อย ไม่เช่นนั้นอาจจะหัวใจวายได้ เพราะการเสิร์ฟของเมนูนี้เขาจะมาพร้อมกับความตื่นเต้นและหวาดเสียว อาหารจะคล้ายๆ กุ้งและหมึกกระทะร้อน เวลาเสิร์ฟเขาจะมีเหล้ามาด้วยช็อคหนึ่ง เขาจะเทลงบนกระทะร้อนแล้วจุดไฟ มันจะทำให้มีเปลวไฟพุ่งขึ้นบนกระทะ ตรงนี้และไฮไลท์ของจานนี้เลย ๕๕๕๕ แต่รสชาติก็โอเคเลยนะครับ อาหารทะเลมีความสดใหม่ และรสชาติก็กลมกล่อมดี
ขึ้นฝั่งมาทางฝรั่งเศสกันบ้าง อาหารสุดหรู ตามสไตล์เมืองน้ำหอมเขาหละ Pan Fried Foie Gras with Honey Apple and Onion ฟัวกราส์ หรือตับห่าน เชฟเขาเสิร์ฟมาแบบ Medium Rare นะครับ ด้านนอกจะเกรียมนิดๆ แต่ด้านในยังนุ่มและละมุนอยู่ รสชาติของตับห่านจะออกแนวเลี่ยนๆ เล็กน้อย แต่เวลาทานเขาจะมี Apple Sauce พร้อมเนื้อ Apple เสิร์ฟมาด้วยเพื่อลดความเลี่ยนของตับห่าน และผักร็อคเก็ตก็ช่วยดับความเลี่ยนได้อีกทางหนึ่ง
ส่วนจานนี้เป็นเมนูพิเศษที่เชฟเพิ่งคิดค้นมา เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานมมังวิรัติ (ก็ว่าได้) Eggplant Parmigianna ชื่ออ่านยากเล็กน้อย ง่ายๆ คือจะเป็นมะเขือม่วงที่หั่นเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นก็จะมีมะเขือเทศ มีชีส คล้ายๆ ลาซานญ่า เสิร์ฟพร้อมกับผักร็อคเก็ตต่างๆ รสชาติก็ถือว่าโอเคนะครับ แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก อาจจะเป็นเพราะน้าอ้วนชอบอะไรที่เป็นเนื้อๆ มากกว่า ๕๕๕๕๕ แต่ถ้าใครที่ชอบทางมะเขือม่วงก็น่าจะฟินได้เลยนะครับ
หลังจากบ่นไม่ชอบมะเขือม่วงไม่ขาดคำ เหมือนเจ้าของร้านจะรู้ใจประทานเนื้อมาให้น้าอ้วน ๕๕๕๕ จานต่อมาสุดอลังการมากครับ Mixed Grilled Plate w/ Rib Eye & Rack of Lamb พูดง่ายๆ ภาษาชาวบ้านคือย่างรวม แต่เป็นอย่างรวมไฮโซ เนื้อที่อยู่บนจานนี้จะมีเนื้อวัวแบบริบอาย และขาแกะย่างครับ จานนี้เชฟจะเสิร์ฟแบบ Medium Rare เท่านั้น ถ้าใครจะกินแบบ Well Done ก็ขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะ Medium Rare Only!!!! ถึงแม้เนื้อริบอายบนจานนี้จะไม่ใช่เนื้อนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ก็เป็นเนื้อเกรดตามสั่งจากริมปิง ซึ่งทางร้านสามารถระบุเกรดของเนื้อว่าต้องการเนื้อประเภทไหน ซึ่งบอกเลยว่าเนื้อที่ทาง Chez Marco สั่งมานี่ไม่ใช่ถูกๆ นะครับ รวมไปถึงขาแกะด้วย รสชาติของเนื้อทั้งสองถือว่านุ่มมาก ยิ่งย่างแบบ Medium Rare มาด้วยหละก็ทำให้ด้านนอกสุก ด้านในยังสีชมพู แดงๆ มันทำให้ความนุ่มของเนื้อแสดงออกมาในปากอย่างชัดเจน รวมไปถึงขาแกะที่บอกเลยว่าไม่มีกลิ่นสาบ มีแต่ความนุ่มละมุนแทน และเมนูจานนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับสลัดชามใหญ่ เรียกว่าไม่อิ่มก็ให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลย
อิ่มหมีพลีมันกับอาหารคาวไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะปิดท้ายด้วยของหวานกันบ้างนะจ๊ะ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว จึงเสิร์ฟกันมาแบบง่ายๆ ถ่ายรูปกันง่ายๆ แบบนี้เลย เริ่มจาก Panacotta with Mango Sorbet เป็นขนมพานาคอตต้าที่เสิร์ฟมาในแก้ว พร้อมทั้งกับไอศครีมมะม่วง และเนื้อมะม่วง รสชาติฟินดี เหมาะสมกับฤดูกาลเลยครับ
และอีกสามถ้วยเล็กๆ เครมบูเล่ , ไอศครีมวนิลาโฮมเมด และช็อคโกแลตมูส รสชาติเด็ดขาดไม่แพ้พานาคอตต้าเลยครับ ขนมแต่ละตัวทางร้านก็ดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาได้อย่างชัดเจน รสชาติย้ำๆ แน่นๆ สุดติ่งกระดิ่งแมว
COMMENT