Posted On
Wo Wo Tou (โวโวโถว) อาหารจีนฟิวชั่น รสชาติถูกปากคนไทย
ร้านอาหารจีนสไตล์ฟิวชั่น ถูกก่อตั้งขึ้นโดย “คุณเฉิน” เจ้าของร้านอาหารชาวจีน ผู้ซึ่งรักและหลงไหลการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ และชื่นชอบการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสรรพคุณของส่วนผสมต่างๆ ของอาหารทุกชนิด เพื่อให้อาหารที่ทำออกมานั้นมีประโยชน์ มีคุณค่าทางอาหารสูงสุด และสามารถเป็นยาสมุนไพรในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ ของร่างกายได้ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคำกล่าวจากร้าน Wo Wo Tou (โว โว โถว) เป็นร้านอาหารจีนแนวฟิวชั่่นร้านใหม่ที่น้าอ้วนได้มีโอกาสแวะมารีวิว จะบอกให้ว่าร้านนี้เป็นร้านจีนที่น้าอ้วนจอยกให้เป็นร้านอาหารจีนในดวงใจเลย ร้านนี้จะมีลูกไม้เด็ดอะไร ถ้าอยากรู้ต้องติดตามรีวิวของน้าอ้วนแล้วหละ
ชื่อร้าน : Wo Wo Tou (โว โว โถว) อาหารจีนฟิวชั่น รสชาติถูกปากคนไทย
ที่อยู่ : 203 หมู่ที่ 6 ตำบลฟ้าอ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.826275,99.012377 (แผนที่ Google Map)
ติดต่อ : 053 246 777 , https://www.facebook.com/wowotou7dayshotelchiangmai
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 22:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/157318io-wo-wo-tou
ชื่อร้าน Wo Wo Tou อ่านว่า โว โว โถว เป็นชื่อของอาหารชนิดหนึ่งที่คล้ายๆ หมั่นโถวและเป็นเมนูเด็ดของที่นี่ครับ ซึ่งน้าอ้วนก็มีรีวิวให้ได้ชมกัน สำหรับเส้นทางการมาร้านก็ไม่ยากครับ ร้านนี้เขาอยู่ใกล้กับตลาดรวมโชค ซึ่งถ้าเรามาจากทางในเมือง (มาจากโรงพยาบาลเทพปัญญา) ก็ให้มุ่งหน้ามาทางตลาดรวมโชค พอเจอสี่แยกรวมโชคมีชัยแล้วก็ให้ตรงมาก่อนครับ ผ่านตลาดรวมโชค เมื่อเราเห็นปั๊มน้ำมัน ปตท. แล้วก็ให้พยายามชิดขวานะครับ (ยูเทิร์นแรก) เพื่อให้เรากลับรถ จากจุดกลับรถมาประมาณ 200 เมตร จะข้ามสะพาน ร้าน Wo Wo Tou จะอยู่ด้านซ้ายมือครับ สถานที่เดียวกับโรงแรม 7Days Vintage นั่นเอง
บรรยากาศร้านจะเป็นร้านเล็กๆ แต่ไม่ได้ตกแต่งร้านสไตล์จีน แต่เขาจะเน้นรูปแบบของสไตล์วินเทจ เพราะให้เข้ากับคอนเซ็ปของโรงแรม 7Days Vintage (ซึ่งที่นี่ก็ให้บริการห้องพักเช่นกัน) น้าอ้วนชอบโต๊ะและเก้าอี้ที่นี่ครับ เพราะนั่งแล้วรู้สึกสบาย และม้านั่งบางตัวก็กว้างสบายด้วยซะอีก รวมทั้งบรรยากาศยังติดแม่น้ำด้วย หากใครได้นั่งโต๊ะติดริมน้ำ ถ้าสังเกตดีๆ ร้านนี้เขาจะมีพัดลมเล็กๆ อยู่ข้างใต้เก้าอี้ เพื่อเป่าลมจากด้านนอกเข้ามาในโต๊ะของเรา ทำให้อากาศมันหมุนเวียนและรู้สึกเย็นที่ขาดีครับ ไอเดียดี ไม่เคยเห็นที่ไหนทำเลย 🙂
สำหรับรายการอาหารที่นี่ บอกเลยว่ามีไม่เยอะครับ ประมาณ 40 รายการเห็นจะได้ แต่รายการอาหารทั้งหมดเป็นอาหารที่คัดสรรมาแล้วว่าไม่มีที่ไหนเหมือน และไม่เหมือนใคร (อาหารจีนเป็นอาหารที่มีตำนานและมีประวัติมายาวนาน ถ้าจะให้นับรายการอาหารจีนทั้งหมดแล้วบอกได้เลยว่านับพันรายการ ดังนั้นถ้าเอามาหมดรับรองว่ากระดาษ 1 รีมปริ้นไม่หมด ๕๕๕) ร้านนี้เขาจะเลือกอาหารจีนที่เป็นเมนูเด่นของแต่ละภาค แต่ละมณฑลมาให้ลูกค้าได้ลองชิม ซึ่งวันนี้น้าอ้วนก็จะมีอาหารให้รีวิวประมาณ 4-5 อย่างนะครับ (เมนูอาจจะดูยากสักหน่อย เพราะว่าเล่มเมนูของที่นี่ใหญ่มาก น้าอ้วนถ่ายรูปมาลำบากจริงๆ อิอิ)
เมนูแรกที่อยากแนะนำให้รู้จัก และเป็น Signature ของร้านก็คือ Wo Wo Tou อ่านว่า โว โว โถว ซึ่งออกเสียงคล้ายๆ หมั่นโถว อย่างที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี อาหารจานนี้เป็นอาหารที่มาจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน จะเป็นลักษณะของขนมปังที่ทำจากแป้งข้าวโพดและแป้งถั่วเหลืองผสมกัน และปั้นออกมาคล้ายๆ ซาลาเปา (แต่ไม่มีไส้ข้างในนะ) แต่ที่แตกต่างก็คือเขาจะมีรูอยู่ด้านล่าง เพื่อให้เอาไส้ผักกาดดองที่ผัด และปรุงรสใส่เข้าไปข้างในแล้วทาน ซึ่งไส้ของโวโวโถวนั้นหลักๆ จะเป็นผักกาดดองครับ ซึ่งเราเลือกได้ว่าจะเอาผัดกับหมู ไก่ หรือปลาดุก
ตอนที่น้าอ้วนไปเมืองจีนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา น้าอ้วนก็เจอกับเจ้าโวโวโถวที่เมืองจีนเช่นกัน แต่บอกเลยว่าไส้ที่เขาทำมาคู่กับโวโวโถวนั้นรสชาติต่างกันลิบลับกับที่นี่ เพราะที่นู่นจะเน้นเค็มเป็นหลัก ไม่มีรสชาติอื่นเลย แต่สำหรับที่นี่แล้วจะมีรสเค็มๆ หวานๆ (รสชาติคล้ายผักกาดดองหวานของบ้านเรา) ซึ่งน้าอ้วนรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่น่าจะถูกปากคนไทยแน่นอน
เมนูนี้เสิร์ฟกันมาแบบอลังการ แปลกหูแปลกตาไม่เคยพบ เคยเห็นที่ไหน กุ้งอบเกลือ วิธีการทำอาหารเมนูนี้ทางเชฟได้แอบกระซิบบอกน้าอ้วนมาว่า เขาจะนำกุ้งไปหมักกับเครื่องเทศสูตรต้นตำรับของทางร้าน ในเวลาเดียวกันเขาก็จะคั่วเกลือให้มีความร้อน พอเกลือร้อนได้ที่ก็จะเอากุ้งเสียบไม้แล้ว เสียบลงไปในเกลือ ซึ่งเมื่อเกลือมันมีความร้อนอยู่ในตัว เราเอากุ้งเสียบลงไปก็เท่ากับว่าเรากำลังอบกุ้งอยู่นั่นเอง จึงทำให้กุ้งสุกด้วยความร้อนของเกลือ จึงทำให้คุณค่าและรสชาติของกุ้งยังคงอยู่ 100% ไม่เจือหายไปกับน้ำมัน หรือเตาย่างเหมือนวิธีการอื่นๆ เวลาทานก็หยิบกุ้งออกมา แล้วแกะเปลือก ซึ่งเราจะได้รสชาติของกุ้งที่สด และสุกกำลังดี พร้อมทั้งความเค็มของเกลือ (ไม่เค็มมาก) ของดีจากมณฑลฝูเจี้ยน
หม่าล่ากบ ชามนี้ถ้าดูหน้าตาของมันแล้วก็อาจจะดูโหดร้ายเป็นได้ ตอนที่น้าอ้วนเปิดเมนูเลือกดูอาหาร น้าอ้วนสะดุดตากับเมนูนี้มากครับ เพราะคิดในใจว่ามันเป็นอะไรที่เราต้องชอบแน่ๆ เพราะส่วนตัวน้าอ้วนแล้ว น้าอ้วนชอบอาหารรสจัด แต่อย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่คืออาหารจีนจะมีรสชาติจืด มัน และเค็มเป็นหลัก ดังนั้นจึงไม่รอช้าที่จะสั่งเมนูหม่าล่ากบ ชามนี้มา (แต่ถ้าใครไม่กินกบ ก็สามารถเลือกเป็นเต้าหู้ก็ได้ครับ)
หม่าล่าเป็นชื่อของเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเผ็ดร้อน เมนูเด็ดจากมณฑลเสฉวน เวลาทานไปแล้วจะรู้สึกซ่าๆ ชาๆ ในปาก (รสชาติคล้ายๆ มะแขว่นของทางเหนือ) เป็นสมุนไพรที่ช่วยแก้ร้อนใน ลดน้ำหนัก ลดความดันและช่วยเรื่องของระบบการย่อยอาหาร รสชาติของเมนูนี้จะค่อนข้างจัด (แต่เชฟเฉินบอกว่า ถ้าเป็นหม่าล่ากบสูตรต้นตำรับจริงๆ ที่เมืองจีนรสชาติจะจัดกว่านี้หลายเท่าตัว ซึ่งเขาลดดีกรีความเผ็ดร้อนลง เพื่อให้คนไทยทานได้) ส่วนเนื้อกบก็แน่นและสดมาก กัดเขาปากนี่เต็มปากเต็มคำเลยครับ ใครที่ชอบทานต้มยำกบแบบเมืองเหนือ ลองมาชิมหม่าล่ากบชามนี้บ้างครับแล้วจะไม่ผิดหวัง
ก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพาน เป็นอีกเมนูหนึ่งที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอ ก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพานซึ่งเป็นเมนูเด็ดจากยูนนาน ซึ่งมีตำนานเกี่ยวกับก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพานว่า
อำเภอเหมิ่งเจ้อมีทะเลสาบหนาน และกลางทะเลสาบ มีเกาะที่สงบเงียบ เล่าขานในอดีตว่าคนที่ไปสอบจอหงวนมักไปท่องตำราที่นั่น ภรรยาของปัญญาชนแซ่จัง จะส่งอาหารให้เขาที่เกาะทุกวัน แต่วันนึงเกิดติดธุระจึงรีบไม่ทันต้มก๋วยเตี๋ยวให้สุกดีแต่ก็ไปส่งเมื่อถึงเกาะปรากฏว่าน้ำซุปยังอุ่นและทำให้ก๋วยเตี๋ยวอร่อยมาก และสาเหตุที่เรียกว่า ก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพาน เนื่องจากว่าภรรยาคนดังกล่าวต้องข้ามสะพานเพื่อนำไปส่ง
และเป็นอะไรที่บังเอิญมากว่าร้านนี้เขาอยู่ติดกับสะพานข้ามคลองพอดีครับ ดังนั้นถ้าใครสั่งเมนูก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพานมาทาน ก็เหมือนว่าตรงตามตำนานเลย (ก๋วยเตี๋ยวชามจริงๆ อาจจะเสิร์ฟไม่เหมือนกับที่น้าอ้วนรีวิวให้ดูในวันนี้นะครับ ซึ่งเราอยากให้รู้ว่าก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพานมีส่วนผสมของอะไรบ้าง เราจึงแยกมาให้ดูชัดเจน) ชาวจีนเป็นชนชาติที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการทำน้ำซุป ซึ่งเขาจะเก่งมากครับเรื่องการต้ม การเคี่ยวน้ำซุปต่างๆ และแน่นอนว่าก๋วยเตี๋ยวข้ามสะพานนี้ตอนที่ยกมาเสิร์ฟกลิ่นของน้ำซุปนี่หอมฉุยมาก เรียกได้ว่าแค่ถ้าให้ยกซดแค่น้ำซุป น้าอ้วนว่าก็ยังอร่อยนะ
ปิดท้ายด้วยการดื่มชา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชาวมังกรมาช้านาน ชาที่นี่ก็มีให้บริการในราคากาละ 180 บาท ซึ่งสามารถเติมน้ำร้อนได้เรื่อยๆ (ประมาณ 4-5 ครั้ง) ชาที่นี่จะมีหลายรสชาติ หลายกลิ่นให้เลือกตามแบบที่ต้องการ ซึ่งชาแต่ละตัวก็มีสรรพคุณไม่เหมือนกันครับ ถ้าอยากดื่มชาแบบไหนก็ให้ปรึกษากับเชฟเฉินได้เลยครับ
Wo Wo Tou ร้านอาหารจีนแนวฟิวชั่น ซึ่งรวบรวมอาหารจีนจานเด็ดของแต่ละมณฑลมาไว้ให้ชาวเชียงใหม่ได้ลองชิม ถ้าหากเบื่อกับอาหารจีนรสจืดๆ เค็มๆ มันๆ แล้วหละก็ โวโวโถว แห่งนี้ก็ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่จะได้เปิดโลกของอาหารจีนในอีกรูปแบบหนึ่ง (ใช่ว่าอาหารจีนทั้งหมดจะจืด เค็ม มันทั้งประเทศนะครับ ที่จริงแล้วอาหารจีนก็เหมือนอาหารไทยในแต่ละภาค เขาก็จะมีรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยกตัวอย่างถ้าหากภาคเหนือก็จะเป็นอาหารรสกลางๆ ไม่จัดมาก แต่ถ้าได้ลองชิมอาหารปักษ์ใต้หละก็เผ็ดร้อนกันเลยทีเดียว หร่อยจั้งฮู้) จากประสบการณ์และความชอบของเชฟเฉิน เชฟที่เดินทางจากเมืองจีน มาอยู่เมืองไทยกว่า 8 ปี จึงได้ตั้งหลักปักฐานสร้างร้านอาหารจีนแนวใหม่ เพื่อให้ชาวไทยได้มาลองชิมอาหารจีนแนวฟิวชั่นได้ที่นี่
RELATED POSTS
-
ยกวัตถุดิบสดใหม่จากทุกมุมโลก มาเสิร์ฟในแบบญี่ปุ่นพรีเมียมให้คนเชียงใหม่ได้สัมผัสที่ Tenyuu Chiangmai
-
อยากให้มาลองหม่าล่าในแบบใหม่ “หม่าล่าทัง” เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมน้ำซุปเข้มข้นหรือละมุนตามใจเลือกที่ หลงฮัว Longhua
-
จากความรักในกาแฟ และความไม่ยอมท้อถอย ร่วม 10 ปีของการพัฒนาจนมาเป็น Trailer Coffee ในวันนี้
-
ลิ้มรสอาหารฟิวชั่นรสชาติแปลกใหม่ จากเชฟใหญ่มากประสบการณ์ ที่ 49 Garden Cafe & Bistro
-
Coco Salad งานนี้จัดหนักเพื่อสุขภาพ สลัดอร่อย มีคุณภาพ เพื่อสุขภาพที่ดี
-
Brunch ‘n Lunch Kitchen by Black นิมมาน ซอย 5
-
จับมาปิ้ง มาย่างกันให้อิ่มพุงกาง ย่างให้กลิ่นหอมฉุยฟุ้งกระจาย กับบุฟเฟต์สุดคุ้มแทบจะยกทะเลมาไว้ที่นี่ หอมฉุย หมูกระทะ
ไม่อร่อย ราคาแพงเวอร์เมื่อเทียบกับปริมาณที่ได้รับ ส่วนขนมจีนข้ามสะพาน ทำคนละเรื่องกับของแท้มากกก ไม่น่ามีเมนูนี้เลยถ้าทำไม่เปน