ฟินกับสุกี้ชาบูน้ำซุปเด็ด พร้อมเนื้อแสนนุ่มเกรดนำเข้า ที่ร้าน Shazube
ตั้งแต่น้าอ้วนรีวิวร้านอาหารมาเกือบจะ 3 ปีละ น้าอ้วนก็ได้ลองลิ้มชิมรสอาหารต่างๆ มามากมายหลายร้าน สุกี้ชาบูชาบู ก็เป็นหนึ่งประเภทอาหารที่น้าอ้วนได้ไปลองมาหลายร้าน สำหรับร้านที่น้าอ้วนจะมาแนะนำให้รู้จักในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งร้านสุกี้ชาบูชาบูที่น้าอ้วนขอยกนิ้วให้เลยว่าเป็นร้านที่ติดอันดับ Top 3 ในใจของน้าอ้วนเลยแหละ เพราะเอกลักษเฉพาะตัวที่เขาใช้เนื้ออย่างดีในการนำมาเสิร์ฟให้ลูกค้าทาน มันทำให้สุกี้ชาบูชาบูแห่งนี้ได้คะแนนเรื่องของวัตถุดิบเต็ม 10/10 ในใจน้าอ้วนไปเลยครับ ร้านสุกี้ชาบูชาบูสุดคุ้มและสุดฟินที่น้าอ้วนจะมาแนะนำในวันนี้คือร้าน Shazube นั่นเอง
ชื่อร้าน : ฟินกับสุกี้ชาบูน้ำซุปเด็ด พร้อมเนื้อแสนนุ่มเกรดนำเข้า ที่ร้าน Shazube
ที่อยู่ : ซอยตรงข้ามโรงแรมเพรสซิเดนท์ เชียงใหม่ ถนนวิชยานนท์ ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.794437,98.994911 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 085 868 2141 , https://www.facebook.com/shazube
เวลาเปิด–ปิด : 11:00 – 14:00 น. และ 17:30 – 22:30 น. เปิดทุกวัน
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/164191CQ-shazube
สำหรับใครที่อยากมาลองฟินกับสุกี้ชาบูชาบูที่ร้าน Shazube แห่งนี้หละก็เชิญได้เลยครับ เส้นทางมาง่ายมากร้านเขาตั้งอยู่ในซอยตรงข้ามโรงแรมเพรสซิเดนซ์ เชียงใหม่ ชื่อโรงแรมนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหู แต่ถ้าพูดว่าตรงข้ามผับแฟรบบริค Fabrique หละก็นักเที่ยวหลายๆ คนคงรู้จักดีนะครับ ๕๕๕๕ แต่ใครที่ไม่ใช่นักเที่ยวก็คงยังงงอยู่ใช่ป่าว ก็ง่ายๆ เลยครับให้ขับมาทางถนนคูเมืองด้านนอก มุ่งหน้ามาทางแจ่งศรีภูมิ พอถึงไฟแดงที่แจ่งศรีภูมิแล้วให้เราตรงมาครับ (ตรงไปทางตลาดเมืองใหม่) ขับไปตามทางนิดหนึ่งก็จะเจอสะพานข้ามคลองแม่ข่า พอลงจากสะพานมาแล้วก็ชะลอรถ และชิดขวาได้เลยครับ เพราะซอยทางเข้าร้านจะอยู่ถัดจากทางลงสะพานนิดเดียวเอง เลี้ยวเข้าซอยเข้าไปได้เลย ที่จอดรถกว้างขวางสะดวกสบายมาก
ร้าน Shazube จะเป็นส่วนที่ตั้งอยู่ใน DD Residence บริเวณชั้นล่างครับ พอเราเดินเข้าไปในร้านปุ๊บจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของร้านอาหารจีนผสมญี่ปุ่นๆ ด้านในจะมีโต๊ะที่เน้นโทนสีแดง ม่วง บรรยากาศอบอุ่นดีครับ แอร์เย็นสบาย
วันนี้น้าอ้วนจะมาแนะนำในส่วนของ Shabu Buffet นะครับ ที่จริงแล้วร้านนี้เขาก็ยังมีอาหารญี่ปุ่แบบ a la carte ไว้บริการด้วย แต่อย่างน้าอ้วนแล้วเราเน้นอะไรเน้นอะไรที่แบบว่าเอาอิ่มแปร้เข้าว่ากัน ๕๕๕๕ในราคาสุดคุ้ม 590 บาท ทานได้ 1 ชั่วโมง 30 นาที รวมเครื่องดื่มแล้ว (ถามว่าทำไมแพงจัง เดี๋ยวน้าอ้วนสาธยายให้ฟัง) รวมไปถึงบุฟเฟ่ต์ซูชิหน้าต่างๆ ไว้บริการให้กันแบบไม่อั้นด้วยนะครับ
เรามาเริ่มกันเลยนะครับว่าที่นี่มีอะไรให้ทานกันบ้าง ขั้นตอนแรกน้องพนักงานก็จะถามว่าลูกค้าต้องการจะรับน้ำซุปอะไร โดยที่นี่จะมีน้ำซุปให้เลือกอยู่ 3 แบบนะครับ ได้แก่ Shabu Shabu (น้ำต้มปลา เป็นน้ำซุปใสทานคู่กับน้ำจิ้มงา ที่รสหอม มัน และน้ำปอนซึ ที่เปรี้ยว หวานครบรส), Miso Nabe (เป็นน้ำซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นที่มีรสเบาๆ หอมอร่อยเพื่อสุขภาพ ถ้ารสอ่อนก็สามารถเหยาะโชยุลงไปได้) และ Sukiyaki (จะมีลักษณะสีดำ ที่มีรสออกหวาน หอมปลาแห้งสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เนื้อนุ่มๆ แกว่งจนเนื้อออกสีชมพูจิ้มคู่กับไข่ดิบที่เติมความหวานหอมให้แก่เนื้อ) โดยที่นี่ก็จะมีทั้งหม้อที่เป็นช่องเดียว และแบ่งเป็น 2 ช่อง สำหรับใครที่รักพี่เสียดายน้อง อยากจะลองน้ำซุปให้หลากหลาย (แต่เลือกได้มากสุด 2 แบบนะจ๊ะ)
หลังจากได้น้ำซุปแล้วเราก็มาเลือกผักกันบ้าง ซึ่งที่นี่ก็จะมีผักให้เลือกหลายชนิดอยู่ก็มี เห็ดออรินจิ, ข้าวโพดหวาน, ต้นหอมญี่ปุ่น, หัวหอมใหญ่, ผักกาดขาว, เห็ดเข็มทอง, เห็ดหอมสด และ แครอท ถ้าขี้เกียจสั่งแต่ละอย่างก็บอกน้องพนักงานเลยว่าชุดผักรวม ง่ายดี ๕๕๕๕
พูดถึงกินชาบูถ้าขาดน้ำจิ้มไปก็คงไม่ครบสิ่ง ดังนั้นที่นี่ก็จะมีน้ำจิ้มให้เลือกอยู่ 3 ตัวนะจ๊ะ ซึ่งได้แก่ น้ำจิ้มปอนซึ , น้ำจิ้มงา และไข่ไก่สด ซึ่งไข่ไก่สดนี่เหมาะสำหรับการจิ้มกับน้ำจิ้มสุกี้เป็นที่สุด
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับชาบูมื้อนี้ก็คือเนื้อ ซึ่งเนื้อที่นี่เขาจะมีให้เลือกอยู่ 5 ชนิดนะครับ แต่ไม่ต้องตกใจว่าสำหรับใครที่ไม่ทานเนื้อ เขาก็ยังมีหมูให้ทานกัน ซึ่งเนื้อที่บริการที่นี่เป็นเนื้อเกรดนำเข้า ดังนั้นราคาของบุฟเฟ่ต์ที่นี่ค่อนข้างสูง น้าอ้วนบอกเลยว่าถ้าได้มาชิมเนื้อที่นี่แล้วหละก็ ให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเลยแหละ ซึ่งเนื้อที่มีให้บริการก็ได้แก่ เนื้อ Riburosu, เนื้อ Karabara, เนื้อ Katarosu, เนื้อหมู Buta และเนื้อหมูสามชั้น Butabara ทั้งหมดนี้สั่งได้ไม่อั้นครับ ทานได้เท่าไรทานไปในเวลา 1.30 ชั่วโมง
นอกจากเนื้อแล้วก็ยังมีอาหารข้างเคียง (Side Dish) เพื่อเพิ่มรสชาติของชาบูมื้อค่ำนี้ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น สาหร่าย, เต้าหู้, เส้นบุก, หมูหรือไก่ในไม้ไผ่, ข้าวสวย, เผือก, เส้นอุด้ง, เส้นโซบะ, ฟองเต้าหู้ และข้าวผัดกระเทียม
นอกจากเซ็ทชาบูที่มีอะไรๆ ให้เลือกทานกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว ก็ยังมีซูชิแบบบุฟเฟ่ต์ให้ทานกันด้วยนะจ๊ะ แหม่ะ … และน้าอ้วนบอกเลยว่าฝีมือการทำซูชิของเชฟที่นี่อร่อยไม่เป็นสองรองใครเลยแหละ ว่าแล้วก็แนะนำเลยว่ามีอะไรให้เลือกทานกันบ้าง ก็มีซูซิเนื้อ, มากิหนังปลาแซลมอน, ซูชิไข่หวาน, แคลิฟอร์เนียมากิ, ซูชิซาบะดอง, ไก่ย่างเกลือ, ซูชิแซลมอน และ ไก่ย่างซีอิ๊ว ซึ่งในแต่ละเดือนเขาก็มีซูชิพิเศษไว้บริการด้วย ส่วนจะเป็นซูชิหน้าอะไรนั้น ติดตามทางแฟนเพจของ Shazube ได้นะครับ เขาจะอัพเดทให้ดูเป็นระยะๆ
ความฟินของร้านนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของเนื้อต่างๆ ที่สุดแสนจะพิเศษ สำหรับใครที่ชอบทานบุฟเฟ่ต์ชาบูเป็นชีวิตจิตใจ อาจจะมองว่าทำไมร้านนี้แพงจัง ขนาดชาบูยี่ห้อดังยังแค่ 3xx บาท แต่ที่นี่ 590 บาท … น้าอ้วนต้องบอกก่อนว่าใครที่เป็นคนรักในการทานเนื้อ ถ้าได้มาเจอร้านนี้แล้วหละก็ ทุกคนจะบอกว่าคุณภาพคู่ราคา เพราะเนื้อทุกตัวเกรดนำเข้าหมด เนื้อทุกอย่างอย่างดีทั้งนั้น ซึ่งเราต้องยอมรับว่าร้านที่ราคาต่ำกว่านี้เขาอาจจะใช้เนื้อในเกรดที่เขาสามารถเอามาทำบุฟเฟต์ในราคาของตัวเอง ซึ่งมันก็ไม่ผิดที่คุณภาพจะต่างกัน มันอยู่ที่ว่าเราจะเลือกทานอะไร ถ้าอยากจะพบกับความฟินของการทานชาบูเนื้อ หรือหมูแล้วหละก็ Shazube นี่แหละ คือสวรรค์บนดินดีๆ นี่เอง
COMMENT