สุดยอด “ลาบ” รสเด็ด ต้องที่นี่ ลาบลุงน้อย by ตี๋หลังมอ อาจจะต้องรอเพราะร้านนี้เด็ดมว๊ากกกกกก
“ลาบลุงน้อย” ลุงน้อย ถือว่าเป็นที่รู้จักของชาวร่ำเปิงเป็นอย่างดี เพราะเปิดร้านลาบจนมีชื่อเสียงโด่งดัง ลุงน้อยเปิดร้านมาเป็นเวลา 9 ปีแล้ว โดยได้สานกิจการต่อลูกชาย (ปัจจุบันหันไปยึดอาชีพครู) ซึ่งก่อนหน้านี้ลุงน้อยทำอาชีพขับรถสิบล้อ และเบื้องหลังความอร่อยนั้นต้องยกให้ป้าณี ภรรยาลุงน้อยนั่นเอง จุดขายของร้านลุงน้อยคือ การบริการที่เป็นกันเอง ใครอยากกินอะไรก็หยิบได้ตามสะดวก ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนนั่งทานข้าว ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนนั่งทานข้าวที่บ้าน ลุงน้อยบอกว่าลูกค้าขาประจำคือนักศึกษาคณะวิจิตรศิลป์ รองลงมาคือคณะ สัตวแพทย์ศาสตร์ และคณะอุตสาหกรรมเกษตร เนื่องจากร้านของลุงน้อยเป็นทางลัดไปยังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ฝั่งแม่เหียะนั่นเอง
อาจจะเป็นคำพูดที่บ่งบอกถึงตัวตนที่ชัดเจนของร้านแห่งนี้ แต่ที่สุดแล้วข้อความข้างต้นจะเป็นจริงหรือไม่ วันนี้น้าอ้วนขอลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริงมาให้แฟนๆ ได้ดูกันเลยวันนี้
ชื่อร้าน : ลาบลุงน้อย by ตี๋หลังมอ
ที่อยู่ : 69/1 หมู่ที่ 5 บ้านร่ำเปิง ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS :
ติดต่อ : 081-8843400 , 089-8553934 , https://www.facebook.com/pages/ร้านลาบลุงน้อย-หลังมอ-มช/254401151252347
เวลาเปิด–ปิด : 12:00 น. – 22:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/145737hj-ร้านลาบลุงน้อย-by-ตี๋หลังมอ
อันนี้ต้องฟันธงสำหรับน้องๆ นักศึกษามอชอ หรือใครที่อยู่ย่านร่ำเปิง คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักร้านลาบลุงน้อย เพราะแทบจะเรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารที่ Well Known ของคนแถบนั้นเป็นอย่างดี แต่สำหรับคนย่านอื่น ถ้าไม่รู้จักก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ๕๕๕ เพราะร้านนี้อยู่ค่อนข้างลึกนิดหนึ่ง ถ้าใครไม่เชี่ยวชาญหนทางเส้นนั้นอาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าเห็นรีวิวน้าอ้วนแล้ว ก็คงต้องอยากไปลองเป็นแน่ ใช่ไหม? พูด!!
น้าอ้วนใช้จุดเริ่มต้นจากเส้นหลังมอชอ เลยแล้วกันนะครับ เข้าซอยที่จะไปวัดอุโมง ให้ตามเส้นทางไปเรื่อยๆ เขาเลี้ยวทางไหนก็เลี้ยว เขาให้ตรงก็ตรงไป ไปเรื่อยๆ จนผ่านวัดอุโมงค์ และผ่านวัดร่ำเปิงในที่สุด (สังเกตก่อนถึงวัดร่ำเปิง จะมีโครงการบ้านข้างวัดอยู่ขวามือ แสดงว่ามาถูกทางละ) จากนั้นก็ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงป้ายหอพักศรีพยงค์จะอยู่ด้านซ้ายมือ ให้เลยหอพักมานิดหนึ่งจะเจอร้านธรรมดาๆ ที่อาจะไม่เห็นป้ายอะไรเลย แต่มีเตาย่างอยู่หน้าร้าน นั่นแหละ “ลาบลุงน้อย by ตี๋หลังมอ”
จากเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา ร้านลาบลุงน้อย ยังเป็นแค่เพิงเล็กๆ มุงจาก มุงคา แต่พอผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 15 ปี ร้านแห่งนี้ก็ได้พัฒนา ปรับปรุงเพื่อให้สะอาดขึ้น กว้างขวางขึ้น เพื่อจะได้รองรับและให้บริการลูกค้าได้อย่างเพียงพอ (แต่บางวันก็ไม่พอ เพราะลูกค้าเยอะเหลือเกิน บางคนก็อาจจะต้องรอกันหน่อย)
สำหรับราคาอาหาร ที่นี่จำกันง่ายๆ เมนูทุกอย่าง (ลาบ ส้า ต้มแซ่บต่างๆ) ราคาเท่ากันคือ 40 บาท แต่ถ้าเป็นพวกต้มแซ่บเนื้อเอ็นแก้ว ก็อาจจะราคาสูงมาหน่อย เพราะต้นทุนและวัตถุดิบค่อนข้างสูง รวมไปถึงพวกของย่างเสียบไม้ สนนราคาเพียงไม้ละ 5 บาท ที่น้าอ้วนอยากบอกว่าหากินที่ไหนไม่ได้อีกแล้วราคานี้ และเมนูพวกส้มตำ (ธรรมดา) ก็เพียง 30 บาท เท่านั้นเอง
จัดเซ็ทกันมาอย่างจะมาเดินขบวนพาเหรด ดีนะที่ร้านนี้เขาเสิร์ฟกันแบบจานเล็กๆ ขนาดพอเหมาะแบบว่ากินกัน 2-3 คน กำลังอิ่มแบบสบาย ถ้าเสิร์ฟกันมาแบบจานใหญ่ๆ น้าอ้วนเชื่อว่าบนโต๊ะนี่คงไม่มีที่จะไว้ เพราะวันนี้อาหารการกินเยอะมว๊ากกกกกกกก เริ่มจากเซ็ทแรกเลยแล้วกัน ลาบหมูดิบ ลาบควายดิบ ร้านหมูสุก และลาบควายสุก จัดกันมาเต็มที่ ใครชอบดิบ ใครชอบสุกก็สั่งกันตามอัธยาศัย (แต่น้าอ้วนขอเน้นสุกแล้วกันนะ ๕๕๕) รสชาติลาบของร้านนี้จะมีความขมของน้ำเพี้ย (ซึ่งมีดีผสมอยู่นิดหนึ่ง) ซึ่งจะได้ความขมออกหวาน คอลาบต้องห้ามพลาดเด๊ดดดดขาด
เซ็ทต่อมาก็คงเป็นพวกต้มแซ่บต่างๆ ก็จะมีทั้งต้มแซ่บหมู ต้มแซ่บเอ็นแก้ว ซึ่งอันนี้เด็ดมาก เรียกได้ว่าวางช้อนไม่ลงเลยทีเดียว น้ำซุปของต้มแซ่บที่นี่บอกได้เลยว่าไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่ม ยกเว้นคนที่ชอบจัดจ้านจริงๆ ก็เติมพริกป่นลงไปได้ แต่ความเปรี้ยว เค็ม เผ็ดนี่สำหรับน้าอ้วนแล้วถือว่าลงตัวมากๆ รวมไปถึงแกงอ่อมที่รสชาติอาจจะจืดไปหน่อย แต่เป็นรสชาติแบบเหนือๆ ของเราแท้ๆ
มาถึงพวกเมนูกับแกล้มที่เป็นเมนูที่พึ่งจะเพิ่มเข้ามาเมื่อไม่นานมานี้ เช่นส้มตำเส้นกรอบ อันนี้ต้องยกนิ้วให้กับมือส้มตำระดับเทพ ที่แบบว่าตำส้มตำรสชาติแบบครบเครื่องมาก รวมไปถึงเส้นมะละกอที่เอาไปชุบแป้งทอดทำให้ได้เส้นกรอบทานอร่อย ได้อารมณ์ไปอีกแบบหนึ่ง รวมไปถึงกุ้งแช่น้ำ และทะเลลวกจิ้ม ที่จุดเด่นคงหนีไม่พ้นเรื่องของน้ำจิ้ม ที่ทั้งเอามาราด หรือเอามาให้เราจิ้มกันเอง รสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน อันนี้ลงตัวต้องยอมรับจริงๆ และของทะเลที่นำมาใช้รับประกันว่าสดจริงๆ น้าอ้วนชอบปลาลวกมาก ไม่มีกลิ่นคาว ไม่มีกลิ่นเหม็น สดสะอาดดีจริงๆ
มาถึงพระเอกของร้าน ที่แบบว่าน้าอ้วนเห็นแม่ค้าที่ประจำ Kios ย่างเดินเสิร์ฟกันทั้งคืน อย่างพวกปิ้งย่างเสียบไม้ เช่นไส้ย่าง เนื้อย่าง ไข่ย่าง หมูย่าง ฯลฯ สนนราคากันเพียงไม้ละ 5 บาท แต่รสชาติและความอร่อยนี่เหลือร้ายจริงๆ ต้องยกนิ้วให้ อาจจะเป็นเพราะราคาที่ค่อนข้างถูก 5 บาท นี่แบบว่า แอบคิดในใจเวลาที่น้าอ้วนไปเที่ยวแถวนิมมาน แล้วมีรถขายบาร์บีคิวมาจอดหน้าร้าน เราก็ไปเลือกไส้ย่าง แบบว่าไม้ 5 บาทนี่ หั่นแล้วหั่นอีก บางและแบนมาก แต่ที่นี่ไส้ชิ้นโต เต็มปากเต็มคำ ใครที่อาจจะไปเที่ยวแถวนิมมานอาจจะมาแวะที่นี่แล้วเหมาไส้ย่างไว้ก่อนก็ได้นะจ๊ะ ๕๕๕๕
ลาบลุงน้อย ถึงแม้จะไม่มีลุงน้อยแล้ว ลุงน้อยจากไปเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน (2555) แต่ที่นี่ก็ยังมีหัวเรือใหญ่อย่างแฟนของลุงน้อย อย่างป้าสุณี หรือป้าณี น้าอ้วนจะแอบบอกความลับให้ว่าลาบทุกจานที่เสิร์ฟให้ลูกค้ากินนั้น ล้วนมาจากฝีมือการยำของป้าณีทั้งนั้น มือลาบอันดับหนึ่งของร้านลุงน้อยเชียวนะ ร้านลาบลุงน้อยแห่งนี้อาจจะเรียกว่าเป็นธุรกิจภายในครอบครัว ที่เอาญาติมาช่วยกันทำกิจการ ให้บริการลูกค้าดุจญาติมิตร ในราคาเป็นกันเอง ที่เรียกว่าไม่ได้สูงเลยจากท้องตลาดทั่วไป พร้อมทั้งน้ำดื่มและน้ำแข็งยังบริการให้ฟรี (ยกเว้นถ้าเอาเครื่องดื่มจากข้างนอกเข้ามา คิดค่าน้ำแข็งท่านละ 20 บาท) ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร้านลาบลุงน้อยแห่งนี้ ลูกค้าแวะเวียนมาใช้บริการกันเยอะมาก โดยเฉพาะช่วงตอนเย็น หากใครอยากไปทานหรือชิม ก็อาจจะต้องรอกันหน่อย ของอร่อยต้องใจเย็นกันนะจ๊ะ
COMMENT