Posted On
Favola – Taste of Italian บุฟเฟ่ต์อาหารอิตาเลียนสุดอลังการ เดือนละครั้งที่ Le Meridien Chiang Mai
อาหารอิตาเลียนในเชียงใหม่ก็มีค่อนข้างหลากหลาย แต่ถ้าอยากทานกันแบบบุฟเฟ่ต์แล้วหละก็ วันนี้น้าอ้วนอยากแนะนำบุฟเฟ่ต์สุดคุ้มและอลังการให้ที่หนึ่ง เขาจะมีกันทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ก็คือเดือนหนึ่งเขาจะมีแค่วันเดียวเท่านั้น เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารอิตาเลียน พร้อมทั้งซีฟู๊ด และอาหารนานาชาติไว้ให้บริการกันที่ห้องอาหาร Favola โรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ โรงแรมสีเหลืองๆ ที่สูงตั้งกระหง่านอยู่ย่านไนท์บาร์ซ่านั่นแหละจ่ะ โรงแรมระดับ 5 ดาวแบบนี้ ลองมาดูกันซิว่าบุฟเฟ่ต์ของเขาจะเป็นยังไงกันบ้าง
ชื่อร้าน : FAVOLA – Le Meridien Chiang Mai
ที่อยู่ : 108 ถนนช้างคลาน ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.784244, 98.999709
ติดต่อ : 053 253666 , https://www.facebook.com/lemeridienchiangmai
เวลาเปิด–ปิด : 11:30 น. – 15:00 น. ทุกอาทิตย์แรกของเดือน
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/98384lb-favola-le-meridien-เชียงใหม่
ห้องอาหาร FAVOLA เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของโรงแรม ปกติห้องอาหารที่นี่เขาก็จะให้บริการเป็นเหมือนห้องอาหารหลักของโรงแรมทั่วไป แต่ถ้าหากเป็นวันอาทิตย์แรกของเดือนแล้ว ในช่วงมื้อเที่ยง ที่นี่ก็จะจัดงานเป็น Favola Brunch Exclusivo เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารอิตาเลียนที่เรียกได้ว่าสุดยอดที่สุดของเชียงใหม่ เพราะที่นี่เขาจะรวบรวมอาหารสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ หลากหลาย และสุดยอดวัตถุดิบมาให้ลูกค้าได้เลือกทานกันแบบไม่อั้น ในราคาเพียงท่านละ 1,999 บาทสุทธิเท่านั้น
ทุกวันอาทิตย์ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจะพากันมาจองทานอาหารกันที่นี่ ครั้งนี้น้าอ้วนได้มาเป็นครั้งที่ 2 แล้วสำหรับ Favola Brunch Exclusivo แห่งนี้ เท่าที่น้าอ้วนได้สังเกตดู ลูกค้ากว่าครึ่งเป็นลูกค้าหน้าเดิม ที่เคยเจอเมื่อครั้งที่แล้ว ทำให้รู้ได้ว่าที่นี่ลูกค้ามีอัตราการกลับมาทานค่อนข้างสูง จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้วจากที่ได้สัมผัสไลน์อาหารของที่นี่ก็รู้สึกว่าถึงแม้จะไม่ได้หลากหลายเท่าโรงแรมอื่นๆ ที่เขามี Sunday Brunch แบบนี้ แต่ด้วยวัตถุดิบที่เอามาทำเป็นไลน์อาหารให้ลูกค้าได้ทานกันล้วนแต่เป็นวัตถุดิบที่ระดับคุณภาพสุดยอดทั้งนั้น ลองมาดูกันว่าที่นี่เขามีอะไรให้ทานกันบ้าง
เริ่มจากไลน์ของชีสต่างๆ ที่มีให้เลือกกันเยอะมาก ตั้งแต่ชีสที่มีความนุ่มละมุนลิ้น ทานได้ง่ายๆ ไปจนถึงชีสที่มีความเข้มข้นและกลิ่นค่อนข้างฉุน พร้อมทั้งผลไม้อบแห้ง ผลไม้สด หรือแคร๊กเกอร์ที่สามารถเอามาทานคู่กับชีส เพื่อเสริมรสชาติของกันและกัน งานนี้ใครที่รักชีสต้องคงต้องยอมอ้วนกันแล้วแหละ
Assorted Cold Cut ไลน์อาหารนี้ถือว่าค่อนข้างหลากหลาย นอกจากแฮมต่างๆ ที่เราเคยเห็นตามไลน์อาหารของโรงแรมทั่วไปแล้ว ที่นี่เขามี Cold Cut ให้เลือกมากกว่า 10 รายการ เรียกได้ว่าเป็น Cold Cut ที่นำเข้าจากต่างประเทศกันทั้งนั้น
ไลน์อาหารจุดนี้น้าอ้วนคิดว่าคงเป็นพระเอกของมื้อกลางวันนี้ไม่มากก็น้อย ไลน์อาหารทะเล ที่มีทั้งหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, ขาปูอลาสก้า, หมึก, กุ้ง, กั้ง และปูสดๆ เป็นไลน์อาหารที่เพิ่มดีกรีความอร่อยได้เป็นอย่างดี ของทะเลทั้งหมดที่เอามาเสิร์ฟบอกเลยว่าสดมาก น้ำจิ้มที่มีไว้ให้ก็แซ่บจัดจ้านถูกปากคนไทย
ซาซิมิและอาหารญี่ปุ่นที่นี่ก็มีนะจ๊ะ ไม่ว่าจะเป็นทูน่า หรือแซลมอน รวมไปถึงพวกปูอัดและข้าวปั้นหน้าต่างๆ ก็มีเรียงไว้ให้ตักกันได้อย่างไม่อั้นตามอัธยาศัย
อิตาเลียนหรือประเทศฝั่งยุโรป อาหารชนิดหนึ่งที่แบบว่านิยมทานกันมาก ก็คงหนีไม่พ้นพวกหอยนางรม ที่นี่เขามีหอยนางรมสดๆ สั่งตรงมาจากฝั่งยุโรปมาเสิร์ฟกัน แกะกันสดๆ ให้กันแบบไม่อั้นเลยนะจ๊ะ อย่างวันนี้เขามีให้เลือกกว่า 3 สายพันธุ์ เลือกกันตามอัธยาศัย ใครที่แบบว่าอยากได้สดๆ ก็ขอให้เชฟเขาแกะกันสดๆ ได้เลยจ้า พร้อมทั้งเครื่องเคียงไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มซีฟู๊ด, หอมแดงทอดกรอบ, น้ำพริกเผา อยากทานกันแบบไทยๆ เขาก็มีไว้ให้บริการอย่างครบครัน
ปิดท้ายด้วยอาหารที่เรียกว่า on request ก็คือพวก Grill ต่างๆ และพระเอกอีกตัวหนึ่งก็คือตับห่าน หรือ Froi Gras ชิ้นโตๆ ย่างกันสุกนอกนุ่มใน วางอยู่บนขนมปังกรอบแผ่นไซส์กำลังดี ราดด้วยซอสแอ๊ปเปิ้ลรสชาติเปรี้ยวหวาน งานนี้ใครที่ไม่กลัวอ้วน สั่งไปเลย 2 ชิ้นเป็นอย่างต่ำ จะได้รู้สึกฟินกันตามระเบียบ
สุดท้ายของหวานที่สุดแสนอลังการ น้าอ้วนว่าไลน์ของหวานที่นี่จะใหญ่กว่าไลน์อาหารอื่นๆ เพราะว่าขนมหวานที่นี่เขามีให้เลือกกันมากมายหลายชนิด ทั้งไทยและเทศเลยก็ว่าได้ การตกแต่งหน้าตาของขนมหวานที่นี่เขาได้เชฟขนมหวานที่มีประสบการณ์ และนักออกแบบอาหารมาดีไซน์ให้ จึงทำให้ขนมหวานที่นี่ทั้งอร่อยและหน้าตาดี หลอกล่อให้คนที่เดินมาหลงเสน่ห์และต้องหยิบกันไปทานตามระเบียบเหมือนต้องมนต์สะกด
และพิเศษถ้าหากลูกค้าท่านใดทำการจองโต๊ะกับทางโรงแรม ทางโรงแรมมีเมนูพิเศษมอบให้ก็คือกุ้งมังกร (Lobster) และแชมเปญจน์ให้ลูกค้าทุกท่านฟรี เท่าที่น้าอ้วนมานั่งคิดดู คือถ้าหากเราไปสั่งกุ้งมังกรตามร้านอาหารระดับดีๆ ข้างนอก ขนาดครึ่งตัวเขาก็คงขายกันประมาณ 1,500 บาทเป็นอย่างต่ำ แต่ที่นี่บุฟเฟ่ต์ราคา 1,999 บาท แต่ถ้าได้กุ้งมังกร และแชมเปญจน์แถมให้ น้าอ้วนว่ามันเป็นอะไรที่คุ้มมากๆ เหมือนได้กินกุ้งมังกรแล้วแถมบุฟเฟ่ต์อย่างไง อย่างงั้น
แต่ยังไม่หมดแค่นี้ คุณแอนดี้ Restaurant Manager ของที่ มักจะทำเครื่องดื่ม cocktail สูตรพิเศษมาบริการลูกค้าทุกท่านฟรีอยู่เป็นประจำ อย่างครั้งแรกที่น้าอ้วนไป จำได้ว่าไม่ต่ำกว่า 3 ชนิดที่คุณแอนดี้ได้ทำมาให้ชิม และครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่ต่ำกว่า 3 ชนิดเช่นกันที่ได้ชิม Cocktail ที่นี่ แต่ว่าในแต่ละครั้งก็จะไม่ซ้ำกัน เหมือนกับว่าเราได้มาทานบุฟเฟ่ต์มื้อนี้ในราคาปกติ แต่ได้ของแถมพิเศษจากทางโรงแรมเยอะมาก
หากใครอยากลองมาทานบุฟเฟ่ต์อาหารอิตาเลียน ที่เสิร์ฟด้วยวัตถุดิบชั้นยอด บริการยอดเยี่ยมระดับ 5 ดาวอย่างโรงแรม เลอ เมอร์ริเดียน เชียงใหม่ พร้อมทั้งการบริการเครื่องดื่มสูตรพิเศษจากคุณแอนดี้ ผู้จัดการห้องอาหารที่นี่ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือนเท่านั้น Favola Brunch Exclusivo ยินดีต้อนรับลูกค้าชาวไทยทุกท่าน สำรองจองโต๊ะกันก่อน ถ้าใครไม่โทรจองบอกเลยว่าอดกินกุ้งมังกรและแชมเปญจน์ที่ทางโรงแรมจะมอบเป็นของกำนัลพิเศษให้นะจ๊ะ โทร. เลย 053-253666 จองล่วงหน้าสัก 1 อาทิตย์ก็น่าจะโอเคนะจ๊ะ ถ้าพลาดแล้วจะหาว่าไม่เตือนหละ 🙂
————————————————————————————–
แต่เดี๋ยวก่อน …. ถ้าใครไปไม่ทันบุฟเฟ่ต์ Italian แบบนี้ ก็อาจจะหาเวลาว่างช่วงเย็นๆ แวะทานเป็นแบบ A La Carte ได้นะจ๊ะ ที่ห้องอาหาร Favola แห่งนี้เหมือนกัน เขาให้บริการกันทุกวัน ช่วงตั้งแต่ 17:00 น. ถึง 23:00 น. เป็นต้นไป ซึ่งเมนู A La Carte เขาก็มีหลากหลายเมนู สไตล์อิตาเลียนแท้ อย่างวันนี้ทีน้าอ้วนจะมาแนะนำให้รู้จักกัน ก็เอาสัก 6-8 เมนูแล้วกันเนอะ เรามาดูกันว่า ….. มีอะไรบ้างอ่ะ
ชื่อเมนูอาหารของที่นี่จะเป็นชื่ออิตาเลียนแท้นะจ๊ะ บางทีถ้าอ่านเมนูแล้วอาจจะงงกันเล็กน้อย ว่ามันคืออะไร แต่เขาก็มีคำอธิบายอยู่ด้านล่างว่าจานนี้มีส่วนผสมของอะไรบ้าง แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอที่จะรู้ว่าเป็นเมนูจานที่เราต้องการหรือเปล่า อย่างจานแรกก็เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อยที่ออกแนว Healthy อย่าง BATUTTA DI SALMONE (Norwegian salmon and avocado tartar marinated with extra virgin olive oil and Himalayan crystal salt topped with balsamic caviar and served with fresh fennel salad) ปลาแซลมอนสดจากนอรเวย์ เอามาทำแบบทาร์เท่เสิร์ฟพร้อมกับอโวคาโด้สุกกำลังดี มีความหอมและมัน ที่คลุกมากับน้ำมันมะกอกและเกลือจากเทือกเขาหิมาลัย แค่นั้นยังไม่พอยังท๊อปปิ้งด้วยคาร์เวียร์รสชาติดี จานนี้บอกเลยว่ามีแต่ของมีประโยชน์ทั้งนั้น สาวกแนว Healthy ต้องห้ามพลาดนะจ๊ะ
หรือจะเป็นจานที่สอง จัดเต็มด้วยเมนูสไตล์อิตาเลียนอย่าง FAVOLA PIZZA (Tomato sauce, Mozzarella, gorgonzola cheese, Parma Ham and topped Rocket salad) พิซซ่าสไตล์อิตาเลียน แป้งไม่ถึงกับบางกรอบ จัดเต็มด้วยมอสซาเรลล่าชีส และแต่งหน้าด้วยพาร์ม่าแฮม พร้อมทั้งผักร็อคเก็ต ถ้าทานกันตอนแรกก็จะได้กลิ่นชีสและรสชาติของแฮมเต็มคำ แต่พอกลืนลงคอปุ๊บกลิ่นของบลูชีส จะแสดงออกมา ถือเป็นเคล็ดลับที่ซ่อนเอาไว้อัศจรรย์จริงๆ
ขอเสนอเมนูที่ดีต่อสุขภาพอีกสักเมนู PARMIGGIANA V (Oven baked eggplant and zucchini “Parmigiana” style with fresh mozzarella cheese, aged parmesan cheese, fresh basil and San Marzano tomato sauce) มะเขือยาวที่เอาไปอบพร้อมกับซุกินี่ ท๊อปด้วยมอสซาเรล่าชีส และพาเมซานชีส ทำให้ได้รสชาติของมะเขือยาวที่หอมและนุ่มพร้อมความมันของชีสอยู่ในตัว เป็นเมนูเบาๆ ที่จะเรียกว่าเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยก็ได้นะจ๊ะ
มาถึงจานที่สี่ อันนี้น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาสำหรับคนไทยอย่างเรา SPAGHETTI VONGOLE (Spaghetti saute’ed with Manila clams, cherry tomatoes, and shredded fresh zucchini in white wine sauce) สปาเก็ตตี้ซอสไวน์ขาว โดยจุดเด่นก็คงเป็นเส้นสปาเก็ตตี้ที่ลวกไม่สุก 100% ตามสไตล์ที่คนไทยชอบ เพราะที่นี่เขาจะทำตามแบบของอิตาเลียนแท้ ซึ่งคนบ้านเราอาจจะรู้สึกว่ามันยังแข็งๆ อยู่นะ ๕๕๕๕ (ตอนแรกที่น้าอ้วนชิมใหม่ๆ ก็รู้สึกงี้แหละ) แต่นี่แหละคือสไตล์ของเขาจริงๆ เส้นสปาเก็ตตี้ที่คลุกมากับซอสไวน์ขาว พร้อมทั้งซูกินี่ และซีฟู๊ดต่างๆ น้าอ้วนว่ารสชาติแบบนี้น่าจะถูกปากคนไทยอย่างเราๆ
สำหรับเมนูนี้น้าอ้วนยอมรับเลยว่าแปลกมาก เป็นอะไรที่คาดไม่ถึง ถ้าเชฟเขาไม่บอกว่ามันเป็นมันฝรั่ง นี่น้าอ้วนแทบจะไม่เชื่อเลย GNOCCHI AL TALEGGIO (Pan fried potato gnocci with sage set on a Taleggio cheese fondue with rosted walnuts) ญ็อกกี้ที่ทำจากมันฝรั่ง แต่รสชาตินี่เหนียวหนึบ (คล้ายกับขนมครองแครงบ้านเรา) คลุกเคล้ามากับซอสที่ทำมาจากชีส Taleggio เสิร์ฟพร้อมกับถั่ววอลนัทที่มีรสชาติหวานๆ กรุบกรอบและแอบโรยด้วยเบคอนทอดที่ให้ความกรอบและเค็ม ตัดกับความมันของอาหารจานนี้ได้เป็นอย่างดีเลยแหละ
RISOTTO AI FRUTTI DI MARE (Slow cooked assorted seafood risotto with San Marzano tomatoes and white wine finished with Parmesan cheese topped with rocket salad) ข้าวรีซอสโต้ เป็นอีกเมนูยอดฮิตหนึ่งของอาหารอิตาเลียน ที่หลายๆ คนคงคุ้นเคยกันดี ข้าวลักษณะแฉะๆ แข็งนิดๆ (คนไทยมักบ่นไม่นุ่มเหมือนข้าวบ้านเราเลย เพราะคนอิตาเลียนเขาทานกันแบบนี้ไง) ที่คลุกเคล้ากับไวน์ขาวและชีสทำให้ได้รสชาติของข้าวที่หอมแหละหวานมัน ท๊อปปิ้งด้วยซีฟู๊ดที่สดและคุณภาพดี เลยทำให้ได้เป็นข้าวรีซอสโต้หน้าซีฟู๊ดที่หอมและอร่อยอีกจาน
จานนี้ใครชอบทานเนื้อต้องร้องโอ้โห และต้องยกนิ้วให้ (น้าอ้วนให้จานนี้อร่อยสุดในบรรดาที่ชิมมาทั้งหมดในค่ำคืนนี้ อิอิ) เนื้อแกะจากออสเตรเลียอย่างดี ย่างมาด้วยไฟอ่อนๆ ปรุงรสด้วยเครื่องเทศอย่างดี เสิร์ฟพร้อมกับบล็อคโคลี่จากโครงการหลวงและชีส Pecorini truffle รสชาติเนื้อแกะนุ่มมาก ไม่มีกลิ่นเลย ย่างด้วยไฟสุกแบบ medium ช่างเป็นจานที่น้าอ้วนฟินซะจริงๆ ๕๕๕๕๕ COSTINE DI AGNELLO (Grill flamed Australian Ovation Lamb cutlets served on pan fried green Royal Project broccolini with 24 months aged Pecorino truffle cheese and infused rosemary jus)
ปิดท้ายด้วยเมนูสบายๆ สาวๆ จะต้องร้อง WOW อย่างเมนูเพื่อสุขภาพที่เป็นปลา FILETTO DI BACCALA (Pan fried and oven rosted snow fish fillet set on caponata and green asparagus with saffron white wine sauce) ปลาหิมะย่างบนกระทะและอบด้วยเตา เสิร์ฟพร้อมกับหน่อไม้ฝรั่งและซอสไวน์ขาว เมนูสบายๆ รสชาติดีและดีต่อสุขภาพด้วยนะจ๊ะ
ก่อนจะจบคอร์สที่อิ่มแปร้เย็นนี้ ขอแนะนำของหวานอีกสัก 2 ตัวนะจ๊ะ เริ่มจาก TIRAMISU (Ladyfinger Biscuit soaked in illy Coffee, Light and soft Mascarpone Mouse) ขนมปังเลดี้ฟิงเกอร์ที่เอาไปแช่กับกาแฟตรา Illy จะทำให้ขนมปังดูดซับรสชาติของกาแฟได้อย่างเต็มที่ เสิร์ฟทับด้วยมูสมาสคาโปนที่นุ่มและเนียนรสชาติหอมอร่อย และอีกเมนูหนึ่งขอยกความอร่อยให้กับ CROSTATA DI FICHI E NOCCIOLE CON SELEZIONE DI GELATO (Figs tart wuth macadamia nut crumble, Brandy snap, raspberry coulis and your choice of italian gelato) ทาร์ตมะเดื่อที่ถูกนำมาเป็นขนมเป็นชั้นๆ ปูพื้นด้วยครัมเบิลแม็คคาดีเมีย พร้อมทั้งซอสราสเบอรี่ และไอศครีมเจลาโต้อิตาเลียน ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ด้วยนะจ๊ะ
RELATED POSTS
-
Oasis ใจกลางเมือง ลิ้มลองอาหารแบบฉบับไทย ๆ แปลกใหม่แต่กินแล้วเพลินใจที่ ครัวลลิต , Parc Borough
-
Oyori The Grill ร้านอาหารแนวใหม่ ใส่ใจสังคม
-
สิบกว่าปีที่คงความสด ความอร่อย ด้วยวัตถุดิบคุณภาพ สดตรงจากทะเลที่ ท่าจีนชมจันทร์
-
สัมผัสความเป็นอีสานใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซอยจุ๊ แจ่วฮ้อนเด็ด ๆ ที่ ซุ้มแซ่บอีสาน 2
-
สุดยอดเนื้อสเต๊กชั้นดี สุกนอกฉ่ำใน พร้อมอีกหลากหลายเมนูสไตล์ยุโรป ที่ Kantary Hills, Chiang Mai
-
All Day Breakfast จะกินตอนไหนก็ได้ กับหลากหลายสัญชาติเมนูอาหารเช้าที่ใส่ใจในรายละเอียดที่ Manifreshto
-
ความสุขของการออกไปทานข้าวนอกบ้าน อร่อยทั้งผู้ใหญ่ สนุกทั้งเด็ก ลงตัวที่ Nic’s Restaurant & Playground
COMMENT