เค้กระดับพรีเมียม รสชาติเยี่ยมเพรียบพร้อมด้วยวัตถุดิบชั้นดี เปิดมาหลายปี จนลูกค้าติดใจ Mai Bakery in Garden

ถ้าเอ่ยชื่อ Mai Bakery in Garden นักชิมสายของหวานเชื่อเลยว่าร้านนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก และจะบอกว่าใช่เพียงแต่คนเชียงใหม่เท่านั้นที่จะรู้จักร้านนี้ คนต่างบ้านต่างเมืองก็รู้จักดี เพราะร้านนี้เขาชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ แขกบ้านแขกเมืองของใครมา แล้วบ่นว่าอยากกินเค้กอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ เชื่อเลยว่าร้าน Mai Bakery in Garden แห่งนี้จะต้องติดอันดับ TOP 3 ใน list แน่นอน แต่ใครจะรู้บ้างว่าที่นี่มีเค้กอะไรตัวเด่นๆ แล้วมีขนมอะไรที่มาแล้วห้ามพลาด วันนี้น้าอ้วนอาสาพาไปบุกถึงตู้เค้กของร้าน Mai Bakery in Garden แห่งนี้ แล้วเรามาดูกันสิว่า …. ที่นี่เขามีอะไรให้กินบ้าง?

ชื่อร้าน : MAI BAKERY in Garden
ที่อยู่ : 5/1 ถนนอนุบาล ซอย 2 ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.811052, 98.989235
ติดต่อ :  053-412675 , 081-5304129 , https://www.facebook.com/maibakery , http://www.maibakery.com
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 – 18:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/maibakery

Mai Bakery in Garden ร้านนี้หาไม่ยากเลย ที่จริงร้านนี้มาได้หลายทาง แต่น้าอ้วนขอยกตัวอย่างเส้นทางที่อธิบายง่ายๆ เดี๋ยวใครที่ไม่คุ้นทางจะได้อ่านแล้วเข้าใจเลย เอาง่ายๆ เลยนะ ใช้เส้นทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เริ่มจากสี่แยกศาลเด็กให้มุ่งหน้ามาสี่แยกข่วงสิงห์ พอเราข้ามสะพานป่าตัน (แม่น้ำปิง) มาแล้วจะมีทางให้เบี่ยงซ้ายเข้าเลนขวา (ทางเบี่ยงบริเวณหน้าสำนักงานประปาเชียงใหม่) ให้เราเปลี่ยนเลนมาอยู่เลนซ้ายสุด ขับรถมาเรื่อยๆ ผ่าน Tesco Lotus คำเที่ยง มาจนถึง TOYOTA SURE (ที่ขายรถมือสองของโตโยต้า) ซึ่งตรงนีจะมีซอยอยู่ข้างๆ ให้เลี้ยวเข้าซอยมาเลยจ้า พอเลี้ยวปุ๊บสังเกตว่าจะมีซอยอยู่ขวามือ (ซอยอนุบาล 2) ให้เลี้ยวรถเข้ามาเลย จะเจอหอพักธนายงค์ เลยไปนิดหนึ่งร้านจะอยู่บริเวณด้านซ้ายมือ สังเกตุร้านที่เป็นกำแพงแล้วมีต้นตีนตุ๊กแกขึ้นเยอะๆ สำหรับรถยนต์สามารถจอดได้ที่หอพักข้างร้านได้ (หอพักที่อยู่เลยร้านมาก่อนนะ ไม่ใช่หอพักธนายงค์)

เป็นอีกหนึ่งร้านขนมหวานที่เรียกได้ว่าบรรยากาศชวนให้เข้ามาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นโซนด้านหน้าที่เรียกว่าโซน in Garden ที่จัดเป็นสวนหย่อมเล็กๆ มีต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมไปทั่วบริเวณร้าน และมีน้ำตกที่ช่วยทำให้บรรยากาศในการพักผ่อนช่างรื่นรมย์ยิ่งนัก โซนด้านในก็เป็นแบบนั่งสบาย ชิลล์ๆ มีเครื่องปรับอากาศถ้าหากวันไหนที่ร้อนมากๆ ก็เข้าไปหลบร้อนได้ แต่โดยรวมแล้วบรรยากาศร้านนี้รืมรื่นและชิลล์ดีมากๆ

บอกเลยว่าราคาของเค้กที่นี่เป็นมิตรมาก แต่ถ้าใครได้ลองชิมเค้กของที่นี่แล้วจะบอกเลยว่าคุณภาพนี่คุ้มกับราคามากๆ เพราะเค้กทุกชิ้นที่นี่ขายราคาเดียวเพียง 75 บาทต่อชิ้นเท่านั้น ส่วนถ้าเมนูไหนที่เป็นเซ็ทก็ขายกันราคาเดียวคือ 95 บาทเท่านั้น เป็นร้านที่แบบว่าไม่ต้องปวดหัวทั้งลูกค้าและพนักงาน กดเครื่องคิดเลขราคาเดียวจบ

เริ่มจากเมนูเค้กต่างๆ โดยหลักๆ แล้วที่นี่จะมีเค้กกว่า 30 รายการที่จะมีมาให้ลูกค้าได้ชิมกันทุกวัน แต่วันนี้น้าอ้วนขอแนะนำตัวเด่นๆ ที่ขอแนะนำเลยว่าห้ามพลาดโดยเด็ดขาด และเป็นเมนูที่ทำออกมาในแต่ละวันหลายถาดมากเริ่มต้นจาก 1. เค้กมะพร้าวอ่อนใบเตย (75 บาท) ใครที่ชอบมะพร้าวจะต้องถูกอกถูกใจแน่นอน เนื้อเค้กแสนนุ่มสีเขียวสวยงามหอมกลิ่นใบเตยและแทรกด้วยรสชาติและเนื้อของมะพร้าวอ่อนที่สุดแสนละมุนลิ้น เป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบและวันหนึ่งนี่ทำออกมาเยอะมาก หรือจะเป็น 2. เครปสตรอเบอรี่ (75 บาท) ผลไม้สุดฮิตที่หลายคนชื่นชอบ เอามาทำเป็นขนมหวานในรูปแบบของเครปที่แต่ละชั้นนั้นจะมีเนื้อสตรอเบอรี่แทรกแบบจัดเต็ม รสชาติเปรี้ยวอมหวานพร้อมความหวานมันของครีมมันเป็นอะไรที่ผสมผสานกันแล้วได้รสชาติลงตัวมาก 3. ไวท์ช็อคโกแลตเค้ก (75 บาท) นอกจากช็อคโกแลตสีดำที่คุ้นตากันแล้ว ช็อคโกแลตสีขาวก็เป็นอีกหนึ่งของหวานที่กินแล้วทำให้อารมณ์ดี มีความสุข ไวท์ช็อคโกแลตชั้นดี มาพร้อมกับเนื้อเค้กที่เนียนและนุ่มละมุนลิ้น เป็นของหวานที่เรียกว่ากินแล้วชุ่มฉ่ำหัวใจดีจริงๆ

อีกเซ็ทหนึ่งที่ถ้าไม่แนะนำนี่บอกเลยว่าเหมือนมาไม่ถึง 1. มูสสตรอเบอรี่ (75 บาท) ถ้าอยากเปลี่ยนรสสัมผัสของเค้กจากเนื้อที่เป็นแป้งเค้กแบบทั่วไป ลองมาสั่งมูสสตรอเบอรี่ดูสิ เค้กที่เนื้อเนียนละเอียดแบบมูส ผสมผสานกับรสของสตรอเบอรี่ที่เปรี้ยวอมหวาน น้าอ้วนว่าเป็นเค้กอีกตัวหนึ่งที่ต้องลองชิมดูนะจ๊ะ 2. เครปมะม่วง (75 บาท) เมื่อกี้แนะนำเครปสตรอเบอรี่ไปแล้ว รอบนี้เปลี่ยนมาแนะนำเครปมะม่วงดูกันบ้าง มะม่วงที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี เนื้อฉ่ำหวานและหอมมากๆ เมื่อเอามาทำเป็นเครปมะม่วงที่แทรกเนื้อมะม่วงและครีมเป็นชั้นๆ แล้วบอกเลยว่าใครสั่งเค้กชิ้นนี้รับประกันว่าฟินกันทุกคนแน่นอน 3. ช็อคโกแลตฟัดจ์ (75 บาท) เค้กที่ถือว่าจัดเต็มด้วยช็อคโกแลตสีดำ (Dark Chocolate) คุณภาพดี บอกเลยว่าเค้กชิ้นนี้กัดทุกคำ ฉ่ำทุกคำ

และอีกหลากหลายรสชาติไม่ว่าจะเป็นมูสสตรอเบอรี่เค้ก, เค้กส้มสด, คุ๊กกี้แอนด์ครีม, เครปมะม่วง, เค้กมะพร้าวอ่อนใบเตย, ทีรามิสุ, เครปสตรอเบอรี่, บลูเบอรี่ชีสเค้ก, ไวท์ช็อคโกแลตเค้ก และช็อคโกแลตฟัดจ์

นอกจากเค้กแล้วที่นี่ก็ยังมีอีกหนึ่งเมนูที่ทั้งคนรักบราวนี่ และคนรักชีส จะต้องร้องโอ้โห กับเมนู ชีสบราวนี่ (75 บาท) บราวนี่แน่นหนึบที่เป็นเลเยอร์อยู่ด้านล่างผสานกับชีสเค้กที่หอมอร่อยอยู่ด้านบน โรยด้วยอัลมอนมันๆ น้าอ้วนว่ามันเป็นขนมที่อยู่ด้วยกันแล้วลงตัวดี

บราวนี่ (ชิ้นเล็ก 45 บาท, ชิ้นใหญ่ 250 บาท) บราวนี่ที่นี่ทำจากช็อคโกแลตล้วนๆ เนื้อสัมผัสนี่เหนียวหนึบทานแล้วไม่มีสิ่งเจือปน เช่นพวกผลไม้แช่อิ่ม หรือผลไม้ที่รสชาติออกหวานๆ ที่จะทำให้เสียรสชาติของช็อคโกแลต ถ้าใครที่อยากซื้อไปไว้ทานที่บ้านเขาก็มีแบบแพ็คใหญ่ให้ซื้อกลับ เอาไปแช่ตู้เย็นได้เป็นเดือน ใครจะทานเย็นๆ หรือเอาเข้าไมโครเวฟนิดหนึ่งเพื่อให้ได้เป็นบราวนี่อุ่นๆ ทานคู่กับเครื่องดื่มร้อนๆ ก็น่าจะฟินดี

สำหรับใครที่ชอบเมนูแบบกรุบกรอบ เซ็ทครัมเบิลทีนี่เขาก็มี โดยตัวเด่นๆ จะมีอยู่ 2 ตัวคือ Mango Crumble (95 บาท) และ Banana Crumble (95 บาท) ทั้งกล้วยหอมและมะม่วงสุกที่หอมอร่อย เสิร์ฟคู่กับครัมเบิลที่กรุ๊บกรั๊บเคี้ยวสนุกปาก พร้อมทั้งไอศครีมสกู๊ปใหญ่อีก 1 สกู๊ป ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกรสชาติได้ ซึ่งเป็นไอศครีมโฮมเมด ที่ทางร้านทำเองกว่า 18 รสชาติ บอกเลยงานนี้ จัดเต็ม

ใครที่เบื่อ Banoffee ที่เสิร์ฟมาเป็นถ้วยๆ แล้วหละก็ ถ้ามาที่นี่ก็จะได้สัมผัสถึงรสชาติที่แปลกใหม่ของ Banoffee Crepe (95 บาท) วนิลาครีมที่เป็นสูตรเด็ดของทางร้านนำมาปาดให้ทั่วแผ่นแป้งเครปที่แผ่อยู่ในจาน หั่นกล้วยหอมทองลูกใหญ่ๆ ให้เป็นชิ้นพอคำ แล้วราดด้วยซอสคาราเมลที่หอมหวานสุดๆ เมื่อเสร็จแล้วพับแป้งเครปให้เป็นรูปร่างที่ต้องการ เสิร์ฟพร้อมกับวิปปิ้งครีมและไอศครีมรสชาติที่ต้องการ จนได้เป็นเมนูที่ทั้งหอม หวาน และมัน น่าจะถูกใจคนที่รักบานอฟฟี่หลายคนแน่นอน

ของกินอร่อยๆ ทำง่าย แต่วัตถุดิบบอกเลยว่าระดับพรีเมียมทั้งนั้น

อีกหนึ่งเมนูยอดฮิตของใครหลายคน ช็อคโกแลตลาวา (95 บาท) ที่นี่เลือกที่จะแตกต่าง โดยไม่เอาซอสช็อคโกแลตอยู่ข้างในก้อนเค้ก แต่ทีนี่ดีไซน์ก้อนเค้กให้มีลักษณะเป็นแอ่งตรงกลางแล้วใส่ซอสช็อคโกแลตลงไป ทำให้ไม่ต้องมีแอ็คชั่นในการเจาะก้อนเค้กให้เสียเวลา ต้องยอมรับว่ารสชาติของช็อคโกแลตที่นี่ดีเยี่ยม รู้เลยว่าใช้เกรดดีในการทำ รวมทั้งเค้กก็นุ่มและละมุนลิ้นด้วย

เครปกล้วยหอม พระเอกอีกตัวของที่นี่ ที่เห็นสีขาวๆ นั่นไม่ใช่วิปปิ้งครีมนะจ๊ะ เขาเรียกว่า “วนิลาครีม” เป็นสูตรเด็ดเคล็ดลับของ Mai Bakery in Garden โดยจะเอาทั้งไข่ นม แป้ง เนย มากวนให้เข้ากัน แล้วจะได้เนื้อครีมที่แน่น และเนียนมาก หากใครที่เคยมาชิมครีมวนิลาของที่นี่แล้วจะพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า เฮ้ยมันดีอ่ะ ….

สุดท้ายถ้าไม่เอ่ยถึงเค้กชิ้นนี้หละก็ น้าอ้วนคงนอนไม่หลับเป็นแน่แท้ …. เค้กส้มสด (75 บาท) เป็นเค้กที่วันๆ หนึ่งที่ทำมาเท่าไรก็ไม่พอ เพราะออเดอร์ของลูกค้าเยอะมาก ส้มสายน้ำผึ้งพันธุ์ดีของเชียงใหม่ แกะเอาเนื้อส้มเป็นกลีบๆ เพื่อมาทำเป็นเนื้อส้มไว้ท๊อปไว้บนเค้ก ส่วนน้ำส้มคั้นสดๆ ก็เอาไปผสมกับแป้งเค้กให้ออกมาเป็นเนื้อเค้กที่ฉ่ำมาก รสชาติของส้มนี่ชัดเจนจริงๆ ยิ่งได้กินคู่กับเนื้อส้มสดๆ ที่รสชาติหวานและเปรี้ยวกำลังดี รับประกันว่าเมนูนี้เป็นที่ถูกใจของใครหลายๆ คน

อีกหลายเมนูที่น้าอ้วนไม่ได้เจาะลึกในวันนี้ เพราะนี่เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น แค่นี้ก็รู้สึกเยอะแยะมากมายเหลือเกิน ๕๕๕๕๕ ที่เหลือน้าอ้วนว่าคงต้องให้แฟนๆ ลองแวะไปชิมกันดูเองแล้วหละว่าแต่ละเมนูนั้นรสชาติเด็ด และสุดยอดกันแค่ไหน อย่าลืมมาแชร์ให้กันฟังด้วยนะจ๊ะ MAI BAKERY in Garden ชื่อนี้การันตีรสชาติและความอร่อยได้เป็นอย่างดี หลายคนรู้จักว่าร้านนี้เป็นร้านเค้กอันดับต้นๆ ของเชียงใหม่ เปิดมากว่า 7 ปี อายุยาวนานขนาดนี้เป็นเครื่องการันตีความอร่อยและมั่นคงได้อย่างแน่นอน

Share on Facebook

Tweet

Follow us