Posted On
นั่งชมบรรยากาศข้างทะเลสาบ ชมทัศนียภาพพร้อมอิ่มอร่อยกับชาบูและปิ้งย่างที่ NIMMOHOUSE
ฤดูหนาวก็ย่างกรายเข้ามาอีกแล้ว แน่นอนว่าฤดูหนาวแบบนี้ พี่น้องชาวเชียงใหม่ก็มักจะหาสถานที่บรรยากาศดีๆ นั่งทานข้าว นั่งชิลล์ๆ กัน สำหรับน้าอ้วนแล้วฤดูหนาวน้าอ้วนก็จะต้องนึกถึงบรรยากาศแบบ Outdoor ได้สัมผัสบรรยากาศของลมหนาวให้สุขอุรา และยิ่งถ้ามีอาหารหรือเครื่องดื่มอุ่นๆ ด้วยหละก็ มันจะเป็นอะไรที่มีความสุขมาก และเมื่อนึกถึงบรรยากาศแบบนี้แล้ว น้าอ้วนก็มักจะนึกถึงร้านนี้อยู่เป็นอันดับต้นๆ NIMMO HOUSE ร้านชาบูชื่อดังของเชียงใหม่ ที่บอกเลยว่าบรรยากาศของเขาเหลือร้าย ร้านชาบูที่อยู่ริมสระน้ำ บรรยากาศจะฟินแค่ไหน สำหรับใครที่ยังไม่เคยเห็นรีวิวอันก่อนของน้าอ้วน เชิญติดตามได้จากรีวิวนี้เลย
ชื่อร้าน : NIMMO HOUSE
ที่อยู่ : 119 สันติสุข ซอย 5 ตำบลแม่แฝกใหม่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.964801,98.976457
ติดต่อ : 092 3803000 , https://www.facebook.com/nimmohouse
เวลาเปิด-ปิด : 17:00 – 23:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/150656Pl-nimmohouse-shabu-grill-bar
สำหรับทางไปที่ร้านบอกเลยว่าไม่ยาก ถ้าใครอ่านเส้นทางที่น้าอ้วนจะอธิบายให้ฟังตรงนี้อย่างละเอียด บอกเลยว่าแค่ 30 นาทีถึงแน่นอน
มุ่งหน้ามาทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ แต่ไม่ให้จอดนะ เพราะว่าจากจุดนี้ต้องไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร ผ่านสามแยกโรงพยาบาลสันทรายมา ต่อมาให้สังเกตโรงงานสันติภาพ จำกัด เลยโรงงานมานิดหนึ่งจะมีซอยนะจ๊ะ ชื่อซอยสันติสุข ซอย 5 หน้าปากซอยจะมีร้านขายของชำใหญ่ๆ (จะมีป้ายบอกทาง) ติดอยู่ด้วย อาจจะไซส์เล็กหน่อย ก็ให้ขับเข้ามาเลย มาตามถนนเรื่อยๆ จนเจอต้นชาฮกเกี้ยนสูงๆ เป็นรั้วบ้าน ก็ให้ขับตามแนวของต้นชาเลย ก็จะพบกับทางเข้าลานจอดรถของร้าน
ร้านนี้ถ้าจะไม่พูดถึงบรรยากาศก็คงไม่ได้ บรรยากาศนี่กินขาด ก้าวแรกที่ลงจากรถ อันนี้ธรรมดาอยู่ แต่พอเดินไปตามทาง เข้าประตูของร้านที่เอาตู้คอนเทนเนอร์มาดัดแปลง พอผ่านประตูไปปุ๊บจะรู้สึกถึงความอลังการ เพราะร้านนี้เขาจะอยู่เลียบกับทะเลสาบเล็กๆ จะมีการจัดโซนของโต๊ะอาหารอยู่ 2 โซนคือในร่ม (ตู้คอนเทนเนอร์) และกลางแจ้ง ซึ่งจะเรียงรายไปตามแนวฝั่งของทะเลสาบ แต่บางโต๊ะก็อยู่ในสวน (ใครมาก่อนได้ที่ดีก่อนนะ อิอิ) สำหรับโต๊ะเลียบข้างทะเลสาบเขาจะใช้เจ้า Bean Bag ไว้ให้บริการลูกค้า ตอนแรกน้าอ้วนก็ไม่ถนัดกับ Bean Bag สักเท่าไร พอนั่งไปปุ๊บมันก็จะยุบ แล้วไปพองตรงส่วนอื่น แต่พอได้เรียนรู้ กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับเจ้า Bean Bag สักพักก็โอเค แต่สุดท้ายพอมื้ออาหารได้หมดลง น้าอ้วนก็ได้ค้นพบประโยชน์อันแท้จริงของเจ้า Bean Bag นี่แหละ …. แหม่ะ ช่างสบายอะไรเช่นนี้
และทุกคืนวันศุกร์และอาทิตย์ ที่ร้านจะมีวงดนตรีสดมาเล่นด้วยนะจ๊ะ
สำหรับฤดูหนาวนี้ทางร้านก็ได้เสริมพื้นที่เพื่อรองรับลูกค้าให้มากขึ้น บอกเลยว่างานนี้ไม่ต้องกลัวว่ามาแล้วจะไม่มีโต๊ะ เขาเตรียมพร้อมเพื่อต้อนรับลูกค้าไม่อั้นอยู่แล้ว
สำหรับเมนูสุดฮิตอย่างชุดสุกี้และชาบู ที่นี่เขาก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิม เพราะเป็นเมนูที่ใครมาแล้วจะต้องสั่งกันอย่างแน่นอน โดยชุดสุกี้น้ำดำจะแยกเป็น 2 ชนิดคือแบบที่เป็นเนื้อ (459 บาท) และเซ็ทหมู (409) บาท ซึ่งทั้งสองเซ็ทนี้จะได้เครื่องเคียงเช่นเดียวกันก็คือ ข้าวผัดกระเทียม (1) , ข้าวสวย (1) , ไข่ดิบเพื่อทานเป็นน้ำจิ้ม (2) และสลัด (1) และชุดชาบูสามารถสั่งเมนูทะเลเพิ่มเติมได้นะจ๊ะ
หรือใครที่ชอบเป็นเมนูของชาบูน้ำใสก็จะมีบริการเช่นกัน โดยเซ็ทเนื้อ (399 บาท) และเซ็ทหมู (359 บาท) โดยที่เซ้ทของชาบูน้ำใสนั้นจะไม่มีไข่เท่านั้นเพราะคนญี่ปุ่นจะไม่ใช้ไข่ไก่สดทานกับชาบูน้ำใสนั่นเอง
และอีกเซ็ทหนึ่งสำหรับคนที่เบื่อชาบู หรืออยากกินอะไรแบบปิ้งๆ ย่างๆ ที่นี่ก็มีเซ็ท Yakiniku ไว้บริการเช่นกัน โดยมีให้เลือกเป็นเซ็ทเนื้อ (399 บาท) และเซ็ทหมู (359 บาท) โดยเครื่องเคียงก็จะได้เหมือนกันคือ ข้าวผัดกระเทียม, ข้าวสวย, สลัด อย่างละ 1 ชามและซุปมิโสะ 2 ที่ อิ่มอร่อยเบาๆ สำหรับ 2 คนกำลังดี
นอกจากนั้นทาง NIMMOHOUSE ยังมีเมนูที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อต้อนรับบรรยากาศแห่งฤดูหนาวแบบนี้อย่างบาร์บีคิว น้าอ้วนว่าเจ้าบาร์บีคิวเนี่ยเป็นเมนูที่ยอดฮิตสำหรับฤดูแบบนี้เลยแหละ โดยบาร์บีคิวที่นี่จะมีให้เลือกทั้ง หมู (99 บาท) , เนื้อ (139 บาท) , ปลาแซลมอน (149 บาท) และ กุ้งและไส้กรอก (159 บาท) แต่ละไม้นี่ชิ้นใหญ่มากพร้อมราดซอสบาร์บีคิวมาอย่างชุ่มฉ่ำ บอกเลยว่าสั่งมาคนละไม้นี่กำลังดี
หรือจะเป็นเมนูประเภทยำ ยำแบบไทยๆ ที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างยำกุ้งเห็ดเข็มทอง (169 บาท) กุ้งตัวใหญ่ๆ ลวกมาสุกกำลังดี เอามายำพร้อมเห็ดเข็มทองใส่พริก มะนาว น้ำปลาและเครื่องยำต่างๆ ลงไป ได้รสชาติกลมกล่อมเผ็ดเปรี้ยวกำลังดี เป็นเมนูทานกับเครื่องดื่มเย็นๆ มันช่างเหมาะกันเชียว
และเอาใจสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อ ยำริบอายโคขุน (199 บาท) เนื้อริบอายที่แล่มาเป็นชิ้นพอดีคำ เอามายำกับเครื่องยำจนได้รสชาติจัดจ้านและกลมกล่อม จะทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะทานคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ มันก็ลงตัวดี
Signature Rib Eye Steak (399 บาท) เมนูที่ได้ชื่อว่าเป็น Signature เนื้อริบแสนนุ่มที่หมักกับเครื่องมาเป็นอย่างดี เอาไปย่างบนเตาไฟให้สุกแบบ Medium เนื้อด้านนอกสุกแต่ด้านในยังสีชมพูๆ นุ่มมากกก ทานคู่กับซอสพริกไทยดำที่เสิร์ฟมา น้าอ้วนว่าจานนี้ยกนิ้วให้ สมแล้วที่เป็นเมนู Signature
หรือใครที่อยากกินปลา สาวๆ ที่อยากทานสเต็กแต่ไม่ชอบเนื้อหรืออยากได้อะไรที่เบาๆ Salmon Fillet Steak (339 บาท) น้าอ้วนว่าเป็นตัวเลือกที่ดี เนื้อปลาแซลมอนชิ้นโตที่เอาไปคลุกกับเครื่องเทศและนำไปย่างไฟสุกกำลังพอดี เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหอมหัวใหญ่ทอด เฟร้นช์ฟรายด์ และผักสด เมนูจานนี้น้าอ้วนว่าทานอร่อยไม่พอ ยังมีประโยชน์อีกต่างหาก
นอกจากนั้นใครที่ชอบดื่มเบียร์ บอกเลยว่าที่นี่คือสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นเบียร์นอกที่รู้จักกันดีอย่าง Hoegaarden ที่มีให้บริการแล้ว ก็ยังมีเบียร์อีกหลายฉลากจากหลายประเทศก็มีให้เลือกสรรค์มากมาย ใครที่อยากลองลิ้มชิมรสเครื่องดื่มนอกแบบนี้ อย่าลืมที่ NIMMO HOUSE และเชื่อว่าฤดูหนาวนี้ใครที่อยากได้บรรยากาศทานชาบู หรือมื้อเย็นกับครอบครัว หรือคนรู้ใจ ในบรรยากาศที่โรแมนติกแบบนี้ แนะนำเลยว่า NIMMO HOUSE แห่งนี้เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ถ้าได้มาแล้วจะประทับใจ
RELATED POSTS
-
แวะเที่ยว Think Park ขี้นรถไฟใต้ดินสถานีสุดคูล มาโผล่กินเนื้อย่างระดับพรีเมียมดังที่ Gyusen Premium Yakiniku
-
จะมากินเอง หรือพาแขกมาเลี้ยงรับรองกับอาหารเมืองเหนือหลากหลายเมนู หรูหราแต่ราคาเข้าถึงไม่ยากได้ที่ ครัวพะยอม
-
ออกมาหาของอร่อยกินในร้านสไตล์เรโทร พร้อมบรรยากาศเหมือนสวนหลังบ้านที่ Grooveyard Bistro & Cafe
-
รีวิวจริง บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น ที่มาตรฐานดีที่สุดในเชียงใหม่ REN by Dhara Dhevi
-
แตกต่างอย่างมีสไตล์ ร้านกาแฟที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติ เดินไปเล่นน้ำตกแค่ไม่กี่ก้าว แลนด์มาร์กสุดฟินแห่งแม่กำปอง Teddu Coffee
-
กว่า 40 ปีที่คงรสชาติ และความอร่อยเสมอมา อาหารจีนระดับเหลา ราคาเหมาะกับพวกเรา อ.เกียรติชัย
-
ทานสเต็กในสวนสวย รวยธรรมชาติห้อมล้อม ไม่ต้องอ้อมไปไกลแค่ดอยสะเก็ดที่ สเต็กผาป่อง
COMMENT