Posted On
ย้อนอดีตถึงเวียงกุมกาม มองความงามของสายน้ำปิง แอบอิงธรรมชาติสดชื่น ที่ The Pagoda Bistro & Bar
ถ้าพูดถึงริมน้ำปิงแล้ว ก็คงมีหลายๆ ร้านที่มีบรรยากาศติดน้ำปิง เพราะแม่น้ำสายนี้ถือเป็นเส้นเลือดสายหลักของเชียงใหม่บ้านเรา ร้านอาหารริมน้ำปิงก็มีทั้งแบบ Pub & Restaurant หรือบางร้านก็จะเป็นแนวอาหารไทย สไตล์ชิลล์ๆ หรือร้านอาหารเหนือสไตล์ล้านนา เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ต้องการบรรยากาศริมน้ำปิงได้มาแวะทานอาหารกัน แต่มีร้านหนึ่งที่บรรยากาศก็คงไม่แตกต่างจากอื่นๆ ที่ติดริมแม่น้ำปิงสักเท่าไร แต่จุดเด่นที่ร้านนี้มีก็คือเขามีวิวของเจดีย์กู่คำ (วัดเจดีย์เหลี่ยม) ซึ่งถือเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ตั้งแต่สมัยเวียงกุมกาม ที่สร้างโดยพญามังราย กษัตริย์ในสมัยนั้น และร้านอาหารร้านนั้นคงเป็นที่ไหนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ The Pagoda Bistro & Bar
ชื่อร้าน : THE PAGODA BISTRO & BAR
ที่อยู่ : 12/2 หมู่ 3 ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (ด้านในโรงแรม Maraya Hotel & Resort)
พิกัด GPS : 18.7547794,98.9920892
ติดต่อ : 053-812121 , https://www.facebook.com/The-Pagoda-Bistro-Bar-534096983430805/
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 22:30 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/218093Da-the-pagoda-bistro-bar
The Pagoda Bistro & Bar เป็นร้านอาหารที่อยู่ในโรงแรม Maraya Hotel & Resort เชียงใหม่ ที่ตั้งอยู่แถวบริเวณย่านป่าแดด ถ้าเรามาจากทางสะพานภาค 5 ก็ให้เลี้ยวรถมาทาง อบต. ป่าแดด ซึ่งจากตรงจุดนั้นก็ให้ขับเลาะถนนเลียบน้ำปิงมาประมาณ 800 เมตร โรงแรมจะอยู่ด้านซ้ายมือ ซึ่งสามารถจอดรถที่หน้าโรงแรมได้ ให้เดินเข้ามาในโรงแรมเลยนะจ๊ะ เพราะร้านอาหารจะอยู่ด้านในสุดเลย
ด้วยความที่เจ้าของโรงแรมมีความเคารพและเลื่อมใสในพญามังราย จึงได้ตั้งชื่อโรงแรมว่า “มารายา” ซึ่งแปลได้ว่าเป็นการสรรเสริญพญามังรายนั่นเอง
บรรยากาศของร้าน อย่างที่น้าอ้วนได้กล่าวไว้ตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่าร้านนี้อยู่ติดแม่น้ำปิง เลยทำให้เห็นวิวของแม่น้ำได้ชัดเจน และฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นวัดเจดีย์เหลี่ยม ซึ่งจะมีเจดีย์ที่ชื่อว่า “เจดีย์กู่คำ” ซึ่งเป็นเจดีย์ที่องค์พญามังรายท่านได้สร้างไว้ ทั้งในช่วงกลางวันที่เงียบสงบ ลมพัดเย็นสบาย จะมานั่งชมวิวจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ก็น่าสนุก หรือจะเป็นบรรยกาศตอนหัวค่ำที่ความมืดเริ่มคลืบคลาน จึงทำให้แสงไฟจากฝั่งตรงข้ามที่เปิดเพื่อส่องเจดีย์ทำให้เราได้เห็นเจดีย์ที่มีสีเหลืองทอง ช่างเป็นวิวที่งดงามเหลือเกิน
ถ้าใครเดินเข้ามาตั้งแต่หน้าประตูโรงแรมจนถึงที่ร้านอาหารแห่งนี้ ก็คงนึกว่าที่นี่จะมีแต่อาหารฝรั่งไว้บริการ แต่ผิดคาดเพราะที่นี่นอกจากจะมีอาหารฝรั่งแล้ว เขาก็ยังมีอาหารไทยและอาหารเหนือไว้ให้เลือกสั่งและเลือกรับประทานด้วย สำหรับราคาน้าอ้วนว่าเป็นราคาที่มาตรฐานสำหรับร้านวิวแม่น้ำปิงและเห็นวิวสวยๆ แบบนี้
เริ่มต้นกับเมนูเรียกน้ำย่อย หรือเป็นเมนูทานเล่นอย่าง ยำหอยนิวซีแลนด์ (250 บาท) หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ที่ทำให้สุกกำลังดี เนื้อแน่นและสด ราดด้วยน้ำยำรสชาติเข้มข้มจัดจ้าน จึงทำให้ได้เป็นเมนูที่เรียกน้ำย่อยในระหว่างที่รอจานอื่นๆ มาเสิร์ฟได้อย่างร้อนแรงจริงๆ
แซลมอนทาท่าร์อโวคาโด้ (220 บาท) เนื้อปลาแซลมอนสด หั่นเป็นลูกเต๋าขนาดกำลังดี คลุกเคล้ากับอโวคาโด้ มายองเนสและเครื่องปรุงอีกหลากหลาย และท๊อปปิ้งด้วยไข่กุ้งสีส้มสดกันแบบไม่อั้น จนได้เป็นแซลมอนทาท่าเมนูเพื่อสุขภาพที่สด ใหม่และกลมกล่อม งานนี้สาวๆ ผู้รักสุขภาพ หรือใครที่กำลังไดเอ็ด บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด
ข้าวแกงเขียวหวานทงคัตสึ (180 บาท) เนื้อหมูที่นุ่มนำไปชุบเกล็ดขนมปังและเอาไปทอดให้เหลืองกรอบสีทอง เป็นหมูทอดทงคัตสึในแบบญี่ปุ่น และเอามาวางไว้บนข้าวสวยร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมกับแกงเขียวหวานที่รสชาติเข้มข้น ถือเป็นการผสมผสานกันระหว่างไทยและญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
เนื้อย่างจิ้มแจ่ว (240 บาท) เนื้อที่หมักกับเครื่องเทศจนได้ที่และเข้าเนื้อ นำไปย่างไฟให้ด้านนอกสุกแต่ด้านในยังคงฉ่ำเป็นสีชมพูอ่อนๆ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่ว รสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็มกำลังดี ถือเป็นเมนูเนื้ออีกจานที่คนรักเนื้อต้องห้ามพลาด
อย่างที่บอกว่านอกจากอาหารไทยและอาหารฝรั่งแล้ว ที่นี่ก็ยังมีอาหารเหนือด้วยนะจ๊ะ หนึ่งในนั้นก็คือ แกงฮังเลขาหมู (240 บาท) ขาหมูทั้งขาที่มีทั้งส่วนที่เป็นเนื้อ เป็นมัน และหนัง เอามาตุ๋นจนเปื่อยและเข้าเครื่องเทศหลากหลายชนิด จนได้เป็นขาหมูที่เปื่อยและนุ่ม พร้อมเครื่องแกงฮังเลที่หอมกลิ่นเครื่องเทศตามแบบฉบับเมืองเหนือ รสชาติหวานมัน เค็มตาม เป็นรสชาติของแกงฮังเลแบบฉบับเมืองเหนือจริงๆ
ซี่โครงหมูอบซอส (280 บาท) ซี่โครงหมูอย่างดี เนื้ออย่างเยอะ เอาไปหมักซอสสูตรเด็ดของทางร้าน เอาไปอบจนได้เป็นซี่โครงหมูที่เปื่อยนุ่ม คลุกเคล้ากับซอสสูตรเด็ดที่ใครได้ชิมแล้วยากที่จะลืม
หลังจากที่อิ่มข้าวแล้ว ที่นี่ก็ยังมีขนมเพื่อให้เป็นของหวานตบท้ายสำหรับมื้อที่แสนอร่อยในวันนี้ ซึ่งก็มี Honey Toast (170 บาท) ขนมปังทาเนยแบบชุ่มฉ่ำ นำไปอบในเตาจนได้ขนมปังที่กรอบนอกและฉ่ำเนยอยู่ด้านใน เสิร์ฟพร้อมกับไอศครีมสกู๊ปใหญ่ๆ วิปปิ้งครีมและผลไม้ตามฤดูกาล
ของหวานอีกเมนูหนึ่งอย่าง บราวนี่เรซิ่น (170 บาท) บราวนี่ฟัดจ์ที่เหนียวหนึบได้รสชาติของช็อคโกแลตแบบเต็มๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับผลไม้เช่นสตรอเบอรี่ และมะม่วงทั้งหวานและฉ่ำ ตามด้วยไอศครีมและวิปปิ้งครีมเนื้อเนียน นุ่ม ละมุน เป็นเมนูที่สำหรับใครที่ชื่นชอบช็อคโกแลตแบบเต็มๆ ต้องไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
หรือจะเป็นเครื่องดื่มอย่าง Mango Mania (120 บาท) กลิ่นของมะม่วงเด่นชัดเจน เนื้อสมูทตี้ที่ปั่นมาได้อย่างเนียนละเอียด ได้รสชาติหวาน หอม ของมะม่วงอย่างชัดเจน หรือจะเป็น Siam Sunrays (210 บาท) ที่ได้ทั้งกลิ่นของสมุนไพรไทยต่างๆ อย่างชัดเจน จุดเด่นของเครื่องดื่มแก้วนี้ก็คือ Malibu เครื่องดื่มที่โดดเด่นด้วยกลิ่นของมะพร้าว ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นของความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน
ได้สัมผัสทั้งบรรยากาศที่แสนจะพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นด้านในร้านที่ตกแต่งได้อย่างเรียบง่ายแต่ดูดี หรือจะเป็นด้านนอกที่อากาศตอนนี้กำลังเย็นสบาย นั่งทานข้าวหรือทานขนมและเครื่องดื่มเย็นๆ จิบแล้วดูวิวฝั่งตรงข้าม น้าอ้วนว่ามันเป็นอะไรที่ลงตัวเลยทีเดียว วิวแบบนี้คงหาที่ไหนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ The Pagoda Bistro & Bar ในโรงแรม Maraya Hotel & Resort เชียงใหม่ นี่เอง
RELATED POSTS
-
หมูกระทะอิ่มแปร้ ไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา สุดคุ้มไม่บานปลาย 199 รวมทุกอย่างที่ ซุ้มสบายปลาจุ่ม
-
พบกับความสดชื่นที่มาจากธรรมชาติ 100% ร้านเครื่องดื่มที่เอาใจคนรักสุขภาพโดยเฉพาะที่ Blast Smoothie นิมมาน
-
เบื่อรถติด เบื่อแดดร้อน เอ็นจอยด้วยอาหารโทรสั่ง ส่งถึงที่ ดิลิเวอรี่ ที่ Bento House
-
Extreme Sunday Buffet Lunch @Dusit D2 Chiang Mai
-
อยากรู้ว่าสดแค่ไหน? ท้าให้มาลอง ยกทะเลมาไว้ที่เชียงใหม่ ปรุงกันสด ๆ จ่ายกันสบาย ๆ ที่ OH! TALAY
-
ร้านอาหาร Xanadu ร้านอาหารลอยฟ้า วิวดอยสุเทพ
-
พบกับเมนูอาหารเหนือที่หากินได้ยาก กับรสชาติอันเป็นดั้งเดิมจากต้นตระกูลกว่า 5 ชั่วอายุคน ที่ร้าน เอื้องคำสาย
COMMENT