Posted On
อาหารไทยตามแบบฉบับรสชาติดั้งเดิม จับคู่กับไวน์ชั้นดี ได้รสชาติที่แสนอร่อยที่ Jarid Thai Food & Fine Wines
วันนี้น้าอ้วนขอทำตัวเป็นชาว Nimmanian สักวัน (นิมมานเนียน ไม่ใช่มิเนียนนะ) น้าอ้วนจะใช้ชีวิตสักคืนหนึ่งอยู่ที่นิมมานนี้ มากินอาหาร มาเที่ยวและมาพักผ่อนเพื่อผ่อนคลายกันสักนิด ย่านนี้บอกเลยว่าใครที่ชอบแสงสี ชอบสไตล์ Night Life จะต้องชื่นชอบ เพราะที่นี่ทั้งร้านอาหารธรรมดา ร้านค้าทั่วไป หรือแม้แต่ร้านนั่งดื่มที่นี่มีพร้อมสรรพ์ แล้วแต่ว่าใครอยากจะเที่ยวแบบไหน ถือว่าเป็นใจกลางความสนุกสนานของเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวหลายคนต่างอยากจะมาสัมผัสสักครั้ง
Jarid Thai Food | Fine Wines เป็นร้านอาหารที่อยู่ในโรงแรม Art Mai Gallery Hotel นิมมานเหมินท์ซอย 3 ถ้าเข้ามาจากปากซอย (ร้านกูโรตี) เดินเข้ามาจนเกือบสุดซอย โรงแรมจะอยู่ด้านซ้ายมือ ถ้าใครเอารถยนต์มาหละก็ ที่โรงแรมก็มีที่จอดรถใต้ดินให้
ห้องอาหารจริต เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมแห่งนี้ โดยช่วงเช้าจะให้บริการอาหารเช้าแก่ลูกค้าโดยเริ่มตั้งแต่ 06:30 น. ถึง 10:30 น. และหลังจากนั้น 11:00 น. จึงจะเปิดบริการให้แก่ลูกค้าภายนอก จนถึงเวลา 23:00 น. (เดี๋ยวตอนท้ายๆ น้าอ้วนจะมารีวิว Breakfast ให้ดูนะจ๊ะ) โดยห้องอาหารแห่งนี้จะแบ่งเป็น 2 โซนก็คือภายในห้องแอร์ ซึ่งอากาศเย็นสบาย และด้านนอกสำหรับใครที่อยากสูดอากาศอย่างเต็มปอด ก็เลือกนั่งด้านนอกได้
สำหรับเมนูที่น้าอ้วนจะมารีวิวให้ดูในวันนี้ น้าอ้วนรู้สึกดีที่ได้มีโอกาสมารีวิวเมนูที่เรียกได้ว่าเป็น Artist Signature ของที่นี่เลย ซึ่งเป็นเมนูที่ศิลปินทั้ง 6 ท่านที่ร่วมดีไซน์ห้องพักที่เรียกว่าห้อง Artist Signature Room ได้ร่วมคิดค้นสูตรอาหารของแต่ละท่านเอาไว้ด้วย ทั้งหมด 6 เมนู เรามาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง
สลัดรักศักดิ์วุฒิ (Salad Rak Sakwut, 300 บาท) เมนูเด่นของคุณศักดิวุฒิ วิเศษมณี เป็นเมนูที่เรียกว่าเอามาแทนที่สลัดแบบฝรั่งได้เลย เพราะเมนูนี้จะประกอบด้วยผักสดจากโครงการหลวง โรยด้วยแคบหมูอร่อยๆ ตามแบบฉบับภาคเหนือและน้ำสลัดเป็นสไตล์ที่คุณศักดิ์วุฒิคิดค้นขึ้นมาเอง รสชาติแนวกลมกล่อม เป็นเมนูสลัดเรียกน้ำย่อยที่เรียกได้ว่าโอเคเลย
แกงส้มพรรณพฤกษ์ (Kang Som Pan Prueak, 450 บาท) เมนูเด่นของอาจารย์จรูญ บุญสวน แกงส้มปลาช่อนตัวโต ปลาช่อนที่เอาไปทอดจนกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟมาร้อนๆ พร้อมผักและน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม (แต่ถ้าเป็นคนไทยได้มาชิมอาจจะบอกว่าน้ำซุปจืดไปหน่อย สามารถบอกเชฟเพิ่มความจัดจ้านได้นะจ๊ะ) เนื้อปลาที่ทั้งกรอบและนุ่มในคำเดียวกัน น้ำแกงที่รสชาติมาถูกทาง เป็นเมนูที่ควรจะสั่งพร้อมเมนูอื่นๆ เพื่อที่จะได้ซดน้ำร้อนๆ ให้คล่องคอ
ข้าวคลุกกับป๊อด (Kao Cook Kub Pod, 300 บาท) เมนูเด่นของพี่ป๊อด โมเดิร์นด๊อก ใครจะรู้บ้างว่านอกจากที่พี่ป๊อดจะเป็นนักร้องแล้ว เขายังเป็นศิลปินด้วยนะ ข้าวคลุกกับป๊อดคือข้าวหอมมะลิคลุกกับปลาเค็ม เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหมูหวาน, มะม่วง, หอมแดง, กุนเชียง, แตงกวา, พริก และไข่เจียวหั่นฝอย รสชาติข้าวผัดที่กลมกล่อม เมื่อได้กินคู่กับเครื่องเคียงต่างๆ ก็ทำให้เพิ่มรสชาติ และที่ขาดไม่ได้คือปลาสลิดตัวโต ที่ทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟกันมาอยู่กลางข้าวเลย เป็นตัวชูโรงให้เมนูนี้อร่อยยิ่งขึ้น
ปอมดุกฟู (Pom Dook Fu, 350 บาท) เมนูเด่นของคุณธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง นักวาดชาวไทยที่ฝีมือโด่งดังไปถึงเมืองนอก คุณปอมดีไซน์เมนูปอมดุกฟู เมนูนี้ขึ้นมา เนื้อปลาดุกที่สับจนละเอียดแล้วเอาไปทอดจนได้ปลาดุกฟูที่กรอบอร่อย เสิร์ฟกับน้ำยำ “Pomme Dressing” สูตรเด็ดที่คุณปอมคิดค้นมาเอง น้ำยำที่มีทั้งแอปเปิ้ลเขียวที่เพิ่มความเปรี้ยว เนื้อส้มสดที่เพิ่มความสดชื่น ทำให้น้ำยำถ้วยนี้มีรสชาติที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์มาก และที่สำคัญชุดจานที่เสิร์ฟสำหรับเมนูนี้บอกเลยว่า … Exclusive สุดๆ อยากรู้ว่ามันมีความนัยอย่างไร ถามพนักงานได้เลย
แนบเนื้อชลิต (Nab Nuae Charit, 699 บาท) เมนูเด่นของคุณชลิต นาคพะวัน หรืออาจจะรู้จักกันในนามของคุณชลิต กลิ่นสี เมนูแนบเนื้อชลิต เป็นเมนูที่ดีงามพระรามสิบมาก เพราะเมนูที่ใช้เนื้อริบอายมาย่างบนเตาด้วยไฟอ่อนๆ จนสุก เนื้อด้านนอกสุกแต่ด้านในยังคงความฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมกับเส้นหมี่ขาวที่ลวกจนได้ที่ น้ำจิ้มรสชาติจัดจ้านพร้อมผักสดจากโครงการหลวง ใครที่ชอบกินเนื้ออย่างน้าอ้วน บอกเลยว่าต้องฟินกับเมนูนี้แน่นอน ปอลอ. ก่อนกินกรุณาปลดเนื้อลงมาจากที่แขวนก่อน เพื่ออรรถรสในการกินที่ง่ายขึ้น ๕๕๕๕๕
เมนูสุดท้าย ไส้อั่วคั่วจิตสิงห์และแหนมหมกกกพี่ร้อง (Sai Ua Kua Jitsing / Nam Mok Kok Pee Rong, 400 บาท) เมนูชื่อยาวตามสไตล์ของคุณจิตสิงห์ สมบุญ แฟชั่นดีไซน์เนอร์ชื่อดัง เมนูนี้ต้องบอกก่อนว่าสำหรับคนที่ชื่นชอบความเป็นเมืองเหนือ และชอบผักจะต้องรักเป็นพิเศษ แหนมเสิร์ฟพร้อมกับผักและเครื่องเคียงต่างๆ มากมายพร้อมกับไส้อั่วที่น้าอ้วนชิมแล้วรสชาติมันโดนมาก และผักต่างๆ เช่นเคย เมนูนี้ได้ทั้งความเป็นเมืองเหนือและได้ทั้งประโยชน์จากผักที่มาจากโครงการหลวงอีกมากหมาย
นอกจากอาหารต่างๆ แล้วที่นี่เขายังเด่นเรื่องเครื่องดื่มด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่มีทั้งแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ ที่นี่ก็พร้อมให้บริการโดยบาร์เทนเดอร์ที่มีฝีมือในการผสมเครื่องดื่มตามแบบฉบับที่ลูกค้าต้องการ
ถ้าไม่พูดถึงไวน์ ก็คงเหมือนมาไม่ถึงร้านจริต เพราะชื่อร้านก็บ่งบอกมากว่าเป็น Fine Wines เพราะที่นี่มีไวน์ให้ลูกค้าได้มาเลือกดื่มกันหลากหลายตัวมาก ตั้งแต่ราคาหลักพันนิดๆ ไปจนถึงหลักหมื่น แต่ไม่ต้องกลัวว่าที่นี่เป็นร้านอาหารไทยและจะกินคู่กับไวน์ได้เหรอ? หารู้ไม่ว่าที่นี่เขาเชี่ยวชาญเรื่องไวน์มาก ถ้าลองเปิดในเมนูดูหละก็ อาหารแต่ละอย่างจะมีชื่อของไวน์ที่สามารถจับคู่ (Pairing) ด้วยกันได้ตามแบบฉบับที่ทางร้านคิดว่ารสชาติจะลงตัวที่สุด
ในเมื่ออิ่มแล้ว เราก็เปลี่ยนบรรยากาศมาสำรวจห้องพักของโรงแรมนี้กันบ้าง ซึ่งที่นี่ก็มีห้องพักหลากหลายสไตล์ และรูปแบบ เพราะแต่ละชั้นเขาก็จะมีสไตล์การตกแต่งที่ต่างกันไป
ห้องพักแต่ละชั้นจะออกแบบและตกแต่งตาม Art Theme ที่แตกต่างกัน โดย Interior Designer ได้แรงบันดาลใจจากผลงานของศิลปินชื่อดังของศิลปะแต่ละแบบ แต่ละชั้น โดยทุกชั้นจะมีห้องพักแบบ Artist Signature Room จำนวน 1 ห้อง number #01 ซึ่งเป็นห้องพิเศษที่ศิลปินแต่ละท่าน บรรจงออกแนบแนวคิดด้วยตนเองและควบคุมการออกแบบและตกแต่งทุกขั้นตอนให้ตรงตามคอนเซ็ปพิเศษของแต่ละห้อง
และคืนนี้น้าอ้วนขอนอนที่โรงแรมแห่งนี้ และห้องพักที่ได้มาพักคืนนี้เป็นห้อง Signature Room ด้วย เป็นห้องของคุณชลิต นาคพะวัน หรือคุณชลิต กลิ่นสีนั่นเอง เจ้าของเมนูแนบเนื้อชลิตนั่นไง เลขห้องคือ 401 โชคดีที่ว่าคืนนี้น้าอ้วนนอนคนเดียว ถ้ามีเพื่อนมาพักด้วยหละก็อาจจะต้องมีหวั่นๆ กันบ้าง ๕๕๕๕ เพราะห้องนี้ไม่มีผนังห้องน้ำ มีแต่ม่านบางๆ กั้นระหว่างห้องน้ำและห้องนอนเท่านั้น ๕๕๕๕๕ หู้ววววววว ห้องนี้น่าจะเหมาะสำหรับคู่รักกันมากกว่าเนอะ ใครที่มีคู่แล้วอยากมาพักที่นี่บ้าง แนะนำลองจองห้อง 401 ได้นะจ๊ะ
เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องไปเติมพลังกันแล้ว ห้องอาหารจริต จะเปิดให้บริการอาหารเช้าสำหรับแขกผู้เข้าพักตั้งแต่ 06:30 น. จนถึง 10:30 น. โดยอาหารที่บริการจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งมีทั้งไทยและเทศ และมีอาหารเหนือด้วยเช่นกัน
ด้วยความพร้อมสรรพ์ทั้งรสชาติของอาหารไทยสไตล์ Autentic (ไทยดั้งเดิม) และสถานที่ทั้งที่เรียกว่าสะดวกสบายมาก ถ้าอยากไปเที่ยวนิมมาน เดินออกจากโรงแรมเลี้ยวขวา และเลี้ยวซ้ายก็สามารถไปเที่ยวทั้งซอย 5 7 9 11 13 ยาวถึง 17 ได้อย่างง่ายดาย เดินสบายชิลล์ รวมไปถึงห้องพักที่สะดวกสบาย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ถ้าใครที่มีความเป็นศิลปะอยู่ในตัวบอกเลยว่า Art Mai Gallery Hotel แห่งนี้ต้องเป็นที่ชื่นชอบแน่นอน ก่อนกลับก็สามารถเดินเที่ยวชมแกลอรี่ที่จัดแสดงอยู่ในพื้นที่บริเวณ Lobby ของโรงแรมได้ด้วยนะจ๊ะ
อาร์ต มั้ย?
รายละเอียดติดต่อ ร้านอาหาร Jarid Thai Food | Fine Wines
ชื่อร้าน : Jarid Thai Food | Fine Wines
ที่อยู่ : โรงแรม Art Mai? ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 3 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.799194, 98.968732
ติดต่อ : 053-894888 , https://www.facebook.com/JaridThaiFoodFineWines
เวลาเปิด-ปิด : 11:30 น. ถึง 23:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/218306dl-jarid-thai-food-fine-wine
RELATED POSTS
-
จวนมากุ๊ยลาบ ลาบเหมาะ ๆ สไตล์เมืองน่านพริกลาบจัดจ้าน ส่งตรงถึงบ้านผ่าน LINEMAN ตี้ร้าน ลาบเมืองน่าน
-
เอาใจสำหรับคนรักเนื้อ จัดกันให้หนักกับร้านเนื้อน้องใหม่ เสิร์ฟความเป็น Smoke House ที่ SLEEK N SLIDE
-
GELABAR Hand-Crafted Gelato นิมมาน ซ.5 เชียงใหม่
-
ร้านกาแฟชิลล์ๆ สไตล์อังกฤษ มีน้องควายเป็นมิตรต้อนรับลูกค้าที่มาเยือน – SNOWBUFF Coffee
-
Guu Fusion Roti & Tea ร้านโรตีที่มีมากกว่าคำว่า “โรตี”
-
แวะพักทานข้าว ดื่มชา ชิมขนม ชื่นชมความสวยงามของร้านอาหารสไตล์ Modern Industrial กลางเมือง
-
สุดปัง! เมนูปัง ๆ เนื้อนุ่ม ไส้แน่น เชฟมือหนักจัดเต็มกันแบบเข้มข้น ไร้สารกันเสีย ขนมปังดี ๆ ที่ Sweet Bakes ลำพูน
COMMENT