Hidden Gem แห่งใหม่ทั้งรสชาติอร่อย บริการดี แถมราคาสบายกระเป๋าที่ Sarah House Cafe

ต้องเกริ่นเลยว่า รีวิวในวันนี้เป็นร้านที่น้าอ้วนขอยกย่องว่าเป็น Hidden Gem อีกแห่งหนึ่งของเชียงใหม่เลย เป็นร้านที่ต้องบอกว่าทั้งเรื่องของบรรยากาศ รสชาติของอาหาร ความสดชื่นของเครื่องดื่มนั้น เป็นอะไรที่แทบจะไม่มีที่ให้ติเลย รวมไปถึงในเรื่องของราคานั้นก็ต้องพูดได้ว่าแสนถูก ราคาสบายกระเป๋ามากๆ ร้านอาหารน้องใหม่ที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก กับร้าน Sarah House Cafe in Town

ร้าน Sarah House Cafe in Town ตั้งอยู่ที่ถนนคันคลองชลประทานนี่เอง ไม่ได้อยู่ไหนไกลเลย น้าอ้วนขอเริ่มจากสี่แยกโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ ให้มุ่งหน้าไปทางตลาดต้นพยอม (ถนนเส้นที่จะผ่านประเสริฐแลนด์) ขับมาเรื่อยๆ จนถึงปั๊มน้ำมันบางจาก (ปั๊มเติมเอง) จะมีซอยอยู่ถัดจากปั๊มน้ำมัน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป จะเจอกับคอนโด One Plus มองด้านขวามือ ก็จะเจอร้าน Sarah House เลย

อารมณ์แรกที่ได้เข้ามา คิดในใจว่าตอนนี้กำลังเดินเข้าไปในคอนโด หรือรีสอร์ทอะไรหรือเปล่า เพราะสไตล์การจัดสวนของที่นี่จะเป็นแนวนั้น ด้านหน้าก็จะเป็นในส่วนของร้านกาแฟ และขนม ซึ่งลูกค้าสามารถนั่งดื่มกาแฟ ชิมขนมอร่อยๆ ได้ แต่ถ้าใครหิว อยากอิ่มหนักๆ ก็เดินเข้ามาในส่วนของร้านอาหาร ซึ่งตกแต่งได้ดูโมเดิร์นมาก เน้นการใช้เหล็กและไม้เป็นหลัก สร้างความสะดุดตากับผู้ที่มาพบเห็นเป็นอย่างมาก

ในตอนต้นๆ น้าอ้วนได้เกริ่นไปในเรื่องของอาหารว่า ที่นี่เขาดีงามมาก ทั้งเรื่องของรสชาติและราคา ดังนั้นเรามาลองดูกันซิว่า เขามีอะไรให้เราชิมกันบ้าง

เกี๊ยวกุ้งกับหมูซอสพริกเสฉวน (60 บาท) ดูราคาแล้วก็แอบอมยิ้มไม่ได้ กับราคาที่แสนน่ารัก กุ้งสับกับหมูสับที่ผสมกันแล้วห่อด้วยแป้งเกี๊ยวจนได้เป็นเกี๊ยวกุ้งกับหมูที่รสชาติกลมกล่อม ราดด้วยซอสพริกเสฉวน ที่ถึงแม้หน้าตาจะดูดุดัน สีแดงจัดจ้านแต่บอกเลยว่ารสชาติไม่ได้เผ็ดจนเกินไป กลิ่นหอมของเครื่องเทศพร้อมรสชาติเผ็ดๆ เค็มๆ ตามสไตล์ของอาหารจีนเสฉวน น้าอ้วนว่าใครชอบอะไรรสจัดๆ น่าจะชอบ

เป็ดปักกิ่ง (ลดราคาเหลือ 136 บาท) ไม่ต้องไปภัตตาคารจีนก็กินเป็ดปักกิ่งได้ ปกติแล้วเราจะเห็นเป็ดปักกิ่งเขาจะเสิร์ฟหนังเป็ดย่าง แผ่นแป้ง ผักต่างๆ และน้ำซอส แต่ที่นี่จะมีเนื้อเป็ดที่แล่มาติดหนัง จึงทำให้ได้รสชาติของเนื้อเป็ดย่างแบบเต็มปากเต็มคำ ไม่ต้องพกตังเป็นพันๆ เพื่อไปกินเป็ดปักกิ่ง มาที่นี่ดีกว่าร้อยกว่าบาทได้กินเนื้อเป็ดด้วยจะบอกให้

ปีกไก่ทอดซาร่าห์เฮ้าส์ (80 บาท) เมนูปีกไก่สไตล์เกาหลี ปีกไก่ท่อนบนชุบแป้งทอดจนด้านในสุกกำลังดี ด้านนอกกรอบอร่อย ราดด้วยซอสสไตล์เกาหลีรสชาติเผ็ด หวาน เค็ม พร้อมโรยงาขาวเพื่อเพิ่มความหอม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และหัวไชเท้าดองที่ต้องการันตีว่าอร่อยมาก เมนูอร่อยๆ ง่ายๆ ราคาสบายกระเป๋าในสไตล์เกาหลีที่อยากให้ลอง

บะหมี่ต้มยำแห้งหมูแดงฮ่องกง (65 บาท) เส้นบะหมี่เหลืองที่ลวกมาสุกกำลังดี พร้อมเครื่องปรุงแบบต้มยำทั้งพริก มะนาว ถั่วป่น ฯลฯ และหมูแดงที่ท๊อปปิ้งมาไว้ด้านบน ก่อนจะทานคลุกเคล้าให้เครื่องต่างๆ ให้เข้ากันเพื่อจะได้รสชาติของความเป็นต้มยำ ใครจะเหยาะน้ำซุปลงไปสักหน่อยก็ได้ เพื่อให้คลุกง่ายขึ้น หรือใครจะเก็บไว้ซดร้อนๆ ในยามที่บะหมี่ฝืดคอก็ได้นะจ๊ะ แต่บอกเลยว่าน้ำซุปเขากลมกล่อมมากจริงๆ

พล่าหมูย่าง (60 บาท) กลับมาดูเมนูสไตล์ไทยๆ กันบ้าง หลังจากที่เห็นเมนูทั้งจีนและเกาหลีกันไปแล้ว หมูย่างที่สุกแบบกำลังดี คลุกเคล้ากับเครื่องสมุนไพรต่างๆ ปรุงรสด้วยมะนาว น้ำปลา และน้ำพริกเผา เป็นเมนูสไตล์ไทยๆ รสชาติจัดจ้านและมีประโยชน์จากสมุนไพรต่างๆ

ข้าวแกงเผ็ดเป็ดย่าง (80 บาท) เมนูไทยๆ ที่รสชาติบอกเลยว่ากลมกล่อมและเข้มข้นมาก เนื้อเป็ดย่างที่เปื่อยร่อน เสิร์ฟพร้อมกับน้ำแกงเผ็ดที่รสชาติเข้มข้นแบบไทยๆ ครบเครื่องทั้งมะเขือเทศ สับปะรด และองุ่น เมนูไทยๆ ที่ถ้าได้ทานแล้วจะบอกเลยว่าเข้มข้นมาก

ซี่โครงหมูอิเหนา (ลดราคาเหลือ 120 บาท) ซี่โครงหมูแสนนุ่ม ผสานกลิ่นของเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะของซาร่าห์เฮ้าส์ รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมกับหลากหลายเครื่องเคียงไม่ว่าจะเป็นข้าวสวยร้อนๆ แตงกวา หัวไชเท้าดอง และน้ำซอสเผื่อสำหรับใครที่ติดใจในรสชาติของน้ำซอสก็สามารถราดเพิ่มได้ อิ่ม นุ่มและอร่อย ต้องเมนูสุดฮิตจานนี้ต้องลอง

ปีกไก่ทอดเชฟฝน (65 บาท) ตอนแรกหน้าอ้วนเห็นหน้าตาแล้ว มันดูแห้งๆ แต่เมื่อลองกัดดูก็รู้สึกว่าที่เห็นเป็นแป้งแห้งๆ แต่มันกรอบและอร่อย อีกทั้งเนื้อไก่ด้านในก็สุกกำลังดีและนุ่มอร่อย บางครั้งหน้าตาอาจจะดูบ้านๆ แต่ถ้าได้ลองชิมแล้วจะต้องติดใจ

แต่ถ้าใครที่แวะมาแล้วยังไม่หิวเท่าไร ลองแวะร้านกาแฟที่อยู่ด้านหน้าก็ได้นะจ๊ะ หลากหลายเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็น Iced Caramel Macchiato (60 บาท) กาแฟรสชาติเข้มข้น ผสมกับซอสคาราเมลที่หอมหวาน เป็นสองรสชาติผสานที่สำหรับใครชอบแนวนี้ต้องลอง

หรือจะเป็น Blueberry Soda (40 บาท) เครื่องดื่มอิตาเลียนโซดา หวาน เย็นซ่า เหมาะสำหรับวันไหนที่อากาศร้อนๆ ถ้าได้สักแก้วคงสดชื่นน่าดู

และสุดท้ายกับเครื่องดื่มสุดฮิตในโลกเวทย์มนต์ Butter Beer (43 บาท) ที่เหล่ามักเกิ้ลชอบดื่มกัน คาราเมล โซดา และครีม ทั้งความหอม หวาน ซ่าสดชื่น ดื่มได้เรื่อยไม่ต้องกลัวเมา

ขนมและของหวานเขาก็มี น้าอ้วนยกขบวนขนมหวานหลากหลายชนิดมาให้ดูผ่านๆ ตากันก่อน แต่เมนูที่อยากแนะนำและถือว่าเป็น Signature ของที่นี่ก็จะมี Sarah Brownie (25 บาท) บราวนี่เหนียวหนึบ เข้มข้น ในราคาสบายกระเป๋า หรือจะเป็น Brownie Tart (35 บาท) ได้สองอารมณ์ทั้งบราวนี่และทาร์ตกรุบกรอบ และสุดท้าย Lamington (19 บาท) ขนมหวานสไตล์ออสเตรเลียน เค้กชิ้นสี่เหลียมที่นำไปชุบกับช็อคโกแลตและโรยด้วยเกล็ดมะพร้าว เมนูอร่อยๆ ที่เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่เคยลอง

บอกตามตรงว่าครั้งแรกที่เดินเข้ามาที่ร้านแห่งนี้ น้าอ้วนก็คิดละว่าถ้าบรรยากาศแบบนี้ สถานที่แบบนี้ ราคาก็คงระดับหนึ่งแหละ แต่พอเริ่มดูเมนูต่างๆ ก็เห็นว่าเฮ้ย มันก็ไม่ได้แพงอะไรเลย แถมยังรู้สึกว่าถูกด้วยซ้ำ พออาหารยกมาเสิร์ฟ ถ่ายรูปเสร็จก็ลองชิมดู รสชาติมันได้ มันอร่อย ก็เลยสงสัยว่า สถานที่ขนาดนี้ ตกแต่งแบบนี้ เชื่อเลยว่าลงทุนไปไม่น้อย แล้วทำไมขายอาหาร ขายเครื่องดื่มราคาแบบนี้? ทางร้านก็ตอบมาสั้นๆ ว่า “อยากอยู่นานๆ” งั้นน้าอ้วนบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ร้านนี้อยู่ได้นานแน่ เพราะว่าบรรยากาศดี อาหารอร่อย ราคาสบายกระเป๋า เชื่อว่าน้องๆ นักศึกษาที่อยู่แถวนี้คงชอบ ของดีราคาถูก ยังมีอยู่ในโลกนะจ๊ะ เชื่อเขาเลย

ชื่อร้าน : SARAH HOUSE CAFE’ IN TOWN
ที่อยู่ : 26/4 ถนนชมดอย ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.801360, 98.960678
ติดต่อ : 081-6336008 , https://www.facebook.com/sarahhousecafeintown
เวลาเปิด-ปิด : 08:00 น. ถึง 22:00 น.​ (ร้านกาแฟ) และ 10:00 น. ถึง 23:00 น. (ร้านอาหาร) เปิดทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/299625pC-sarah-house-cafe-in-town

Share on Facebook

Tweet

Follow us