อยากจัดหนักแบบราชา หรืออิ่มอร่อยง่ายๆ แบบสามัญชน หลากหลายเมนูอาหารญี่ปุ่นชั้นยอด มีเสิร์ฟที่ Minato Sushi & Seafood Bar นิมมาน 9

ถ้าพูดถึงชื่อ Minato Sushi & Restaurant แล้วหละก็ น้าอ้วนว่าไม่ใช่แค่คนเชียงใหม่ที่จะรู้จัก คนกรุงเทพ ก็น่าจะรู้จักร้านนี้ เพราะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีสาขาทั้งเชียงใหม่และกรุงเทพ ที่กรุงเทพเขามีถึง 3 สาขา และที่เชียงใหม่ก็มีถึง 4 สาขาด้วยกันก็คือ พรอเมนาดา, เมญ่า, นิมมาน ซอย 15 และสาขาที่น้าอ้วนจะพามารู้จักในวันนี้ เป็นสาขาน้องใหม่ ตั้งอยู่ที่นิมมานเหมินท์ ซอย 9 นี่เอง ซึ่งต้องบอกว่าสาขานี้แตกต่างจากสาขาอื่นๆ แล้วจะแตกต่างยังไง ต้องตามมาดูกัน

Minato Sushi & Seafood Bar ตั้งอยู่ที่นิมมาน ซอย 9 เลี้ยวรถเข้ามาในซอย 9 ประมาณ​ 100 เมตร ร้านจะอยู่ด้านขวามือ (ถัดจากร้านกาแฟ Starbucks) รถยนต์สามารถจอดข้างทาง หรือใครอยากสะดวกสบายหน่อยก็มีลานจอดรถรับฝาก 50 บาท อยู่ใกล้ๆ จอดปุ๊บ เดินมาไม่กี่ก้าวก็ถึงร้านแล้ว

บรรยากาศร้าน เป็นร้านขนาดกลาง ไม่ได้ใหญ่มาก จะมีทั้งเป็นแบบโต๊ะนั่งธรรมดา ทั้งแบบเป็นคู่ หรือเป็นกลุ่ม แต่ถ้าใครอยากใกล้ชิดเชฟ อยากดูว่าเชฟเขาทำอาหารยังไง ปั้นซูชิยังไง ที่นี่เขาก็มีโต๊ะบริเวณหน้าบาร์ให้นั่งดูเชฟทำอาหารด้วย ถ้าใครชอบซูชิหละก็ บอกเลยว่าเชฟจะปั้นสดๆ ปั้นเสร็จก็เสิร์ฟเลย (อารมณ์เหมือนไปนั่งทานแบบโอมากาเสะ (Omakase)) เลยทีเดียว

เริ่มจากเมนูแรกง่ายๆ สบายๆ กินแล้วรู้สึกว่าเฮ้ยมันใช่ สำหรับใครที่ชอบแกงกะหรี่ Katsu Curry Rice (125 บาท) ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทอด น้ำแกงกะหรี่ข้นที่ใส่ทั้งมันฝรั่งและแครอทที่เคี่ยวจนเปื่อยนุ่มอร่อย เนื้อหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดที่กรอบนอกและนุ่มในดีจริงๆ ตัดเลี่ยนด้วยหัวไชเท้าดอง เป็นเมนูที่แบบว่าขนาดน้าอ้วนไม่ค่อยอินกับแกงกะหรี่เท่าไรยังต้องยกนิ้วให้

Chirashi Don (190 บาท) หรือเมนูข้าวหน้าปลาดิบรวม รักพี่เสียดายน้อง ก็ต้องโดนเมนูนี้ จัดหนักจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น แซลมอน ฮามาจิ ทูน่า ทาโกะ ไข่หวาน และท๊อปปิ้งด้วยไข่ปลาแซลมอน โอ้ววว บอกเลยว่าเมนูนี้ชามเดียวฟินได้ทุกอย่าง

Gyoza Cheese (150 บาท) ชีสยืดๆ เยิ้มๆ อยากฟินต้องเมนูนี้เท่านั้น เกี๊ยวซ่าสูตรเด็ดตามสไตล์มินาโตะ โปะด้านบนด้วยชีสหนาๆ เอาไปอบให้ละลาย ท๊อปปิ้งด้านบนด้วยไข่กุ้ง ถ้าอยากรู้ว่าเขาใส่ชีสมาแค่ไหน ดูจากภาพด้านล่างนี้ได้เลย!!!

Minato Roll (390 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ โรลสูตรเด็ดที่หาตัวจับได้ยาก ด้านในจะมีไส้ปลาไหล, ฟัวกราส์ และอโวคาโด ห่อด้วยแซลมอน ยังไม่พอแค่นั้น ด้านบน 4 คำแรกจะท๊อปปิ้งด้วยชีส และอีก 4 คำที่เหลือจะเป็นเอ็นกาวะ (ครีบปลาตาเดียว) ราดด้วยซอส 3 แบบได้แก่ ซอส Tsukudani (ซอสโนริ), ซอสไซเกียว และซอสไวน์แดง เห็นไหมว่าถ้าไม่อลังการจริง คงเป็นเมนูซิกเนเจอร์ไม่ได้

Salmon Omakase Set (450 บาท) ซูชิแซลมอนชิ้นใหญ่ๆ 8 คำ 8 สไตล์ ถ้าเห็นแล้วต้องร้องโอ้วโหววววว เริ่มจากท๊อปปิ้งเด็ดอย่างวาซาบิดอง (Kizami Wasabi), ไข่ปลาคาร์เวีย (Cavier), สึคุคานิ, เมนไทโกะซอส, ไซเกียว, สไปซี่ โอบะ, ฟัวกราส์ และที่เด็ดสุดจะเป็น Special Salmon จะประกอบไปด้วย ปลาไหล, ฟัวกราส์, กีวี่, ไข่หอยเม่น และซอสไวน์แดง บอกเลยว่าตัวสุดท้ายนี่เด็ดสุดจริงๆ ๕๕๕๕๕

สำหรับใครที่ชอบทูน่าเป็นชีวิตจิตใจ เมนูนี้น้าอ้วนเอาสุดยอดทูน่ามาแนะนำกันนะจ๊ะ Hara Hon Maguro Sashimi Setto (1,250 บาท) ต้องเรียกว่าเป็นเซ็ทที่นำเอาชิ้นส่วนสุดยอดของทูน่ามาให้ได้ทานกัน ทูน่าที่เขาใช้จะเป็น Blue Fin Tuna (ทูน่าครีบน้ำเงิน เป็นทูน่าที่ดีที่สุด และแพงที่สุดก็ว่าได้) เซ็ทนี้ประกอบด้วย Akami (ส่วนเนื้อแดง), Chutoro (ส่วนที่มันกลาง), Otoro (ส่วนที่มันที่สุด) และสุดท้ายคางปลาทูน่าหั่นเต๋าท๊อปปิ้งด้วยไข่ปลาแซลมอน ต้องเรียกได้ว่าเป็นเซ็ทที่เน้นความอลังการ ใครอยากเต็มอิ่มกับสุดยอดของทูน่าต้องห้ามพลาด (แนะนำให้ทานส่วนที่มันน้อยที่สุดและไล่ระดับไปเรื่อยๆ นะจ๊ะ)

ส่วนเซ็ทนี้เอาใจคนรักหอย หอยนางรมสดๆ 3 แบบ 3 สไตล์ กับเซ็ท Nama Kaki Set (790 บาท) หอยนางรม Kumamoto Oyster เสิร์ฟพร้อมกับมะนาว (เลมอน), Japanese Oyster เสิร์ฟพร้อมกับพอนสึ, Baron Point Oyster เสิร์ฟพร้อมซอสซีฟู๊ด และพระเอกของงานนี้เรียกว่า Honey Moon เสิร์ฟกับไข่ 5 ชนิดได้แก่ ไข่ปลาแซลมอน, ไข่หอยเม่น, ไข่กุ้ง, ไข่นกกระทา และคาร์เวียร์ โอ้ยเห็นแบบนี้แล้วน้ำลายไหลกันเลยทีเดียว

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งเมนูซูชิที่เรียกว่าเป็นสุดยอดซูชิก็คือ Matsusaka Nigiri (350 บาท) เนื้อมัตสึซากะ เรียกได้ว่าเป็นเนื้อวัวเกรดดีอันดับต้นๆ ของโลก ข้าวปั้นเนื้อมัตสึซากะท๊อปปิ้งด้วยฟัวกราส์และไข่หอยเม่น โรยไข่กุ้ง ราดซอสสูตรเด็ดของมินาโตะ เมนูนี้เสิร์ฟปุ๊บต้องรีบคีบเข้าปาก เพราะไม่อยากให้ใครแย่ง ๕๕๕๕๕

จุดเด่นที่แตกต่างของสาขานี้กับสาขาอื่นๆ ก็คือ ที่นี่จะมีเมนูซีฟู๊ดเข้ามาบริการด้วย อย่างที่เราได้เห็นก็คือมีหอยนางรมสดๆ เมนูซีฟู๊ดต่างๆ และอีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญคือเขามีเครื่องดื่ม Mocktail และ Cocktail ไว้บริการด้วยเช่นกัน อย่างวันนี้น้าอ้วนมีเมนู Mocktail หอมหวาน ใสๆ ไร้แอลกอฮอล์มาแนะนำให้รู้จักอย่าง Virgin Minato (150 บาท) กลิ่นหอมของเมลอนญี่ปุ่น หวานอมเปรี้ยว หอมติดปลายลิ้นด้วยกลิ่นส้มยูสึท๊อปปิ้งด้วยโซดาซ่าสดชื่น

หรือจะเป็นเมนู Sunshine Day (150 บาท) วันไหนอากาศร้อนๆ ได้ดื่มน้ำส้มรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผสานกับความหวานหอมกลิ่นทับทิมของกรีนาดีน มันช่างเป็นอะไรที่สดชื่นคลายร้อนได้ดีจริงๆ

ก็ต้องบอกเลยว่าถึงแม้จะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการในย่านนักท่องเที่ยวอย่างนิมมานเหมินท์ หลายคนก็อาจจะคิดว่าร้านนี้ต้องแพงแน่ๆ ก็ต้องยอมรับว่าบางเมนูราคาสูงจริง แต่ด้วยคุณภาพ และสิ่งที่ได้รับก็ต้องถือว่าคุ้มค่าและคุ้มราคา ส่วนใครอยากมาทานเบาๆ น้าอ้วนก็มีเมนูง่ายๆ อย่างข้าวหน้าต่างๆ ที่เริ่มต้นเพียง 95 บาท ก็อิ่มอร่อยคุ้มค่าในราคาเบาๆ ส่วนใครที่มีกำลังจ่าย ก็เลือกเซ็ทสุดพิเศษมาลิ้มลองกันได้ รับประกันว่าฟินแน่นอน

สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น แอดไลน์ไปเป็นเพื่อนกับ Minato ได้เลยที่ @minato.sushibar (มี @ นำหน้าด้วยนะจ๊ะ) เขามีโปรโมชั่นสำหรับสาขานิมมาน 15 ทุกสัปดาห์ พลาดไปแล้วจะเสียดายแย่

ชื่อร้าน : Minato Sushi & Seafood Bar
ที่อยู่ : นิมมานเหมินท์ ซอย 9 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.797568, 98.967378
ติดต่อ : 052-064242,  https://www.facebook.com/minato.sushibar
เวลาเปิด-ปิด : 11:30 น. ถึง 22:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/231789Kv-minato-sushi-bar-restaurant

Share on Facebook

Tweet

Follow us