กินให้ดี กินให้อร่อย กินให้ชีวิตมีความสมดุล กับหลากหลายเมนูสุดอร่อย มีประโยชน์ราคาไม่แพงที่ ชีวีสมดุล Balance Me

By น้าอ้วน 7 years ago

You are what you eat … กินอย่างไร ย่อมได้อย่างนั้น ๕๕๕๕ มันช่างเป็นคำที่พูดได้เสียดแทงใจ (น้าอ้วน) ได้เป็นอย่างดี ถ้ากินของดีมีประโยชน์ ร่างกายก็จะแข็งแรง แต่ถ้ากินไม่ถูกหลักโภชนาการ ร่างกายก็จะอ่อนแอ การกินเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ไม่จำเป็นต้องกินของแพงหรือของดีที่สุดเสมอไป เมนูบ้านๆ ยกตัวอย่างเช่นน้ำพริกสักถ้วยหนึ่ง ข้าวเปล่าจานหนึ่ง ถ้าเรารู้จักใส่ใจในวัตถุดิบก็เชื่อว่ามื้อนั้นก็เพียงพอต่อโภชนาการ 5 หมู่แล้ว ดังนั้นวันนี้น้าอ้วนเลยอยากพามารู้จักร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งเขามีคอนเซ็ปต์ดีๆ ที่จะทำให้ชีวิตเราสมดุล กับร้าน ชีวีสมดุล Balance Me

ร้านชีวีสมดุล ตั้งอยู่ถนนวงแหวนรอบนอก หรือบางคนอาจจะเรียกว่าเส้นท่ารั้ว น้าอ้วนอธิบายทางง่ายๆ เลยแล้วกัน ถ้าหากมาจากทางสี่แยกศาลเด็ก ให้มุ่งหน้าตรงไปทางดอยสะเก็ด ประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะถึงสี่แยกแม่กวง ตรงจุดนี้ให้เลี้ยวขวา แล้วขับไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ

แต่ถ้าเรามาจากทางถนนสันกำแพงสายเก่า ให้เลี้ยวซ้ายบริเวณสี่แยกต้นเปาพัฒนา (สี่แยกหลุยส์เครื่องเงิน) ขับตรงไปประมาณ 5 กิโลเมตร ผ่านสี่แยกท่ารั้วมานิดเดียว ร้านจะอยู่ขวามือ เลี้ยวเข้าไปจอดได้เลย ที่จอดรถกว้างขวางสะดวกสบาย

แว๊บแรกที่หลายคนอาจจะเคยขับรถผ่านร้านนี้ พอเหลียวมองไปทางร้านก็อาจจะคิดเหมือนกันคือ ร้านดูดี คิดว่าราคาน่าจะสูงแน่นอน ๕๕๕๕ ตอนแรกที่น้าอ้วนได้มาน้าอ้วนก็แอบคิดอย่างนั้นเช่นกัน แต่พอได้มาสัมผัสแล้วต้องบอกว่าตรงข้ามโดยสิ้นเชิง

ซี่โครงฮังเล (295 บาท) ซี่โครงหมูแร็คใหญ่ๆ หมักกับเครื่องแกงฮังเล รสชาติออกหวานนำ เค็มตาม ย่างให้สุกกำลังดี ด้านนอกอาจจะเห็นดำๆ คล้ำๆ หน่อย แต่ข้างในสุกได้ที่เลย เนื้อร่อนมาก รสชาติกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับผักย่างและผักสดตามฤดูกาล และน้ำจิ้มสองรสชาติอร่อยเพลิน

หลนแหนม (145 บาท) หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับหลนเต้าเจี้ยว หลนไข่เค็ม หรือหลนปลาอินทรีย์ เป็นต้น สำหรับน้าอ้วนเองก็เพิ่งเคยได้ยินหลนแหนมเนี่ยแหละ ๕๕๕๕ ความหวาน หอม และมันของกะทินี่เด่นขึ้นมาเชียว ตามมาด้วยความเปรี้ยวเบาๆ ของแหนม ตอนแรกก็คิดว่าน้ำแกงจะต้องหวานอมเปรี้ยว แต่ผิดคาด รสชาติของหลนยังคงเดิมแต่เพิ่มเติมคือความเปรี้ยวอร่อยของแหนมนั่นเอง แต่ถ้าใครไม่ต้องการเครื่องเคียง จะสั่งหลนแหนมเพียงอย่างเดียวก็แค่ 75 บาทเท่านั้นเอง

ทอดมันจี่ (125 บาท) รสชาติคล้ายทอดมันปลากรายที่หลายคนคุ้นเคย แต่รสสัมผัสของที่นี่แตกต่าง ความแน่นและความละมุนของทอดมันที่นี่มันเต็มเปี่ยม หอมพริกแกงที่คลุกเคล้ามาได้แบบกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมน้ำอาจาดที่มีถั่วป่นใส่มาด้วย เป็นเมนูทานเล่นๆ หรือจะทานจริงๆ ก็อร่อย

ยำเกษรบัวหลวง (180 บาท) บัวหลวงได้ชื่อว่าเป็นดอกไม้ที่มีคุณประโยชน์มาก ยำเกษรบัวหลวงไม่ใช่เอาแต่เพียงเกษรมาทำอาหาร แต่ยังเอากลีบดอกบัวทั้งแบบสด และแบบชุบแป้งแล้วทอด จนได้เมนูที่มีความกรอบอร่อย พร้อมน้ำยำรสชาติครบรส เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด เมนูอิ่มอร่อยง่ายๆ แต่ได้ประโยชน์

ยำดอกไม้ทอด (145 บาท) เมื่อน้าอ้วนกลับมาบ้าน น้าอ้วนรีบหาดอกไม้ในกระถางที่บ้าน อันไหนที่เอามากินได้ก็รีบเก็บมาทันที เพราะประทับใจกับเมนูยำดอกไม้ทอด ซึ่งทางร้านเอาดอกไม้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นเฟื่องฟ้า, อัญชัน, ดอกเข็ม, กุหลาบ, พวงชมพู และชบา เอาไปชุบแป้งบางๆ แล้วเอาไปทอดจนกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำยำแบบข้น พร้อมกุ้งและหมูสับ รสชาติเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม กินแล้วสดชื่นจริงๆ

ปลาทอดซอสมะขาม (125 บาท) เมนูกินง่าย กินอร่อย ได้ประโยชน์ เพราะหลายคนบอกกินปลาแล้วฉลาด เนื้อปลาชุบแป้งทอดกรอบนอกนุ่มใน พร้อมน้ำจิ้มซอสมะขามแนมความเผ็ดด้วยพริกขี้หนูหั่น เนื้อปลานุ่มและกรอบผสานรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เมนูง่ายๆ แต่อร่อยล้ำ

ข้าวคลุกน้ำพริกหนุ่ม (95 บาท) และ ข้าวคลุกน้ำพริกกะปิ (95 บาท) สองเมนูข้าวคลุกรสชาติเข้มข้น ถึงพริกถึงขิง เสิร์ฟกันมาในแบบกระด้ง พร้อมเครื่องเคียงหลากหลาย อิ่มอร่อยกันทั้งเซ็ทแบบนี้ ในราคาไม่ถึงร้อย

เมี่ยงบัวหลวง (180 บาท) กลีบดอกบัวที่คลี่ออกมาเป็นกลีบๆ เสิร์ฟพร้อมกับสมุนไพรเครื่องเมี่ยงไม่ว่าจะเป็นถั่วลิสงทอด, เม็ดบัวทอด, กุ้งแห้งทอด, หอมแดงซอย, พริกขี้หนูซอย, ขิง, มะนาวซอย และใบพลู เสิร์ฟพร้อมน้ำราดสองแบบรสชาติอร่อยต่างกัน เมนูกินเล่นง่ายๆ แต่ได้คุณประโยชน์จากสมุนไพรครบถ้วน

แกงจืดรากบัว (115 บาท) ส่วนตัวกลับมาถูกใจเมนูง่ายๆ อย่างแกงจืดรากบัวซะงั้น น้ำซุปที่ต้องบอกว่ามันกลมกล่อมมาก มาพร้อมกับหมูสับและผักต่างๆ พระเอกที่ขาดไม่ได้ก็คือรากบัวที่ยังคงความกรอบอร่อย เมนูง่ายๆ ซดน้ำคล่องคอ เมนูที่น้าอ้วนแนะนำเป็นการส่วนตัว

กินคาวเสร็จแล้ว ไม่กินหวาน เดี๋ยวจะมีคนว่าให้ได้ ปิดท้ายด้วยผลไม้เย็นๆ อย่างแตงโมปลาแห้ง (85 บาท) ของหวานสูตรโบราณที่หากินได้ยากแล้วตอนนี้ เนื้อปลาช่อนย่างที่เอาไปผัดกับน้ำตาลและโรยด้วยหอมแดงเจียว เมนูสุดสดชื่นพร้อมกลิ่นหอมของปลาย่างกรุ่นๆ เป็นเมนูที่ถ้าได้กินตอนอากาศร้อนๆ จะสดชื่นมาก

ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ไม่ว่าจะเป็น ชามะตูม, ชากระเจี๊ยบ, ชาอันชัญ และชาข้าวไรซ์เบอร์รี่ (45 บาท) หอม สดชื่น และมีความหวานนิดๆ ติดปลายลิ้น เป็นเครื่องดื่มสุขภาพที่ไม่ต้องกลัวเรื่องน้ำตาลกันเลยทีเดียว

ชีวีสมดุล กินอาหารให้ร่างกายเกิดความสมดุล คอนเซ็ปต์ดีๆ ที่ร้านนี้มีให้เสมอ หลากหลายเมนูรสชาติแบบไทยแท้ แต่มุ่งเน้นการหาวัตถุดิบที่สดใหม่ ปลอดภัย ด้วยผักและผลไม้ที่ปลูกเองในแบบของออร์แกนิค และนำมาปรุงในแบบไทยแท้รสชาติแบบเข้มข้น หลากหลายเมนูที่ไม่สามารถหากินได้ที่ไหน บอกเลยว่าที่นี่มีให้เลือกหลากหลายมาก รวมไปถึงเมนูง่ายๆ สบายๆ แต่รสชาติเหนือชั้นจริงๆ

ชื่อร้าน : ชีวีสมดุล (Balance Me)
ที่อยู่ : 37/1 หมู่ที่ 3 ตำบลสันปูเลย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.810498, 99.057851
ติดต่อ : 063-6646551 , https://www.facebook.com/ร้านอาหารชีวีสมดุล-Balance-Me-1960567157518714/
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 น. – 22:00 น. เปิดทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/303103BJ-balance-me