ถึงพริกถึงขิง กับอาหารไทยสี่ภาค รสชาติไม่เกรงใจฝรั่ง รับประกันถูกปากคนไทยที่ ร้านอาหารกังสดาล เชียงใหม่

ความรู้สึกแรกที่น้าอ้วนพอขับรถมาจอดตรงบริเวณลานจอดรถของโรงแรมอโนดาด ย่านเมืองเก่าในคูเมือง มันทำให้น้าอ้วนรู้สึกหวนคิดถึงเมื่อครั้นยังเป็นวัยรุ่น เพราะตรงนี้เรียกได้ว่ามาบ่อยมาก ๕๕๕๕ เพราะอะไรนั้นเก็บไว้เป็นปริศนา เพราะคิดว่าวัยรุ่นยุค 90s น่าจะเข้าใจในเรื่องที่น้าอ้วนพูด แต่มันก็ผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว วันนี้มีโอกาสได้แวะมาอีกครั้ง (หลังจากที่ไม่ได้มานานมาก) และจได้มีโอกาสแวะเวียนมาชิมอาหารไทย รสชาติแบบไทยแท้ ๆ ที่ร้านอาหารชื่อเดิม ชื่อที่คุ้นเคยเหมือนสมัยก่อนกับร้านอาหาร กังสดาล | Kangsasan Bar & Restaurant

ร้านอาหารกังสดาล ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า คูเมืองชั้นใน อยู่ติดกับโรงแรมอโนดาด ถนนราชมรรคา ถ้าเรามาจากสี่แยกกลางเวียง ให้เลี้ยวผ่านมาทางถนนหน้าวัดเจดีย์หลวง ขับรถเลยโรงเรียนพุทธิโสภณ (ด้านซ้ายมือ) จะมีสี่แยกไฟแดงอยู่ ให้ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยว พอเลี้ยวแล้วขับรถไปอีกประมาณ​ 100 เมตร มองด้านขวามือจะเจอโรงแรมอโนดาด ก็สามารถเลี้ยวรถไปจอดที่ลานจอดรถของโรงแรมได้ และร้านอาหารกังสดาลจะอยู่ด้านซ้ายมือ (ถ้าหันหน้าเข้าโรงแรม)

บรรยากาศชิล ๆ มีทั้งบริเวณด้านนอก สำหรับใครที่ต้องการความสบาย ๆ สูดอากาศเย็น ๆ ดูผู้คนเดินผ่านไปมา ถ้าอยากสบาย ๆ กับห้องแอร์เย็น ๆ ด้านในก็พร้อมให้บริการ มีทั้งแบบโต๊ะมาเป็นคู่ โต๊ะมาเป็นครอบครัว หรือกลุ่มใหญ่ ก็มีให้บริการด้วยเช่นกัน แต่… บริเวณด้านหลังมีสระว่ายน้ำ และลูกค้าสามารถนั่งริมสระด้วยก็ได้นะจ๊ะ ที่สำคัญสระสวยมาก และเป็นสระว่ายน้ำที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในย่านคูเมืองด้วยแหละ

ต้องบอกไว้ก่อนว่า ถึงแม้ร้านจะอยู่ในย่านของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินไป เดินมาตลอด แต่เชฟที่นี่ก็ไม่ได้ออมมือกันเลย อาหารทุกจานที่นี่ต้องบอกว่าถึงพริกถึงขิงจริง ๆ รสชาติจัดจ้านแบบไทยแท้ ๆ เพราะบางจานน้าอ้วนกินแล้วเล่นเอาเหงื่อตกเลยนะ ๕๕๕๕ และที่สำคัญที่นี่มีแต่อาหารไทยเท่านั้นนะจ๊ะ ใครจะแวะมากินอาหารฝรั่งก็อาจจะต้องงดไว้สักมื้อก่อนนะ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าภาชนะที่ทางร้านใช้จะเป็นเซรามิคทั้งหมด ซึ่งทำเลียนแบบเหมือนจานชามสังกะสี อาจจะมีบางจุดที่ดูเหมือนกันรอยผุ รอยดำ ต้องบอกก่อนว่านั่นคือการทำเลียนแบบนะจ๊ะ รับประกันได้ว่าภาชนะที่นี่ปลอดภัยไร้กังวล

เกาเหลาเนื้อตุ๋นหม้อไฟ (220 บาท) เสิร์ฟกันมาแบบหม้อไฟร้อน ๆ พร้อมเชื้อไฟที่ทำให้เกาเหลาชามนี้ร้อนอยู่ตลอดเวลา ทั้งลูกชิ้นเนื้อที่ใส่เข้ามา ผักต่าง ๆ รวมไปถึงเนื้อตุ๋นที่เรียกได้ว่าพอเอาเข้าปากปุ๊บแทบจะละลายในปากเลยทันที เพราะมันนุ่มมาก อีกทั้งน้ำซุปที่รสชาติกลมกล่อมหอมเครื่องยาจีนดีจริง ๆ และที่สำคัญน้ำจิ้มสูตรเด็ดที่ห้ามลืมจิ้มเด็ดขาด ไม่งั้นพลาดของดี

ทอดมันสวรรค์ (150 บาท) หรือบางคนอาจจะเรียกว่า “ปลาเห็ด” เป็นเมนูที่นิยมมาก ๆ ในจังหวัดนครสวรรค์ เนื้อปลากรายแท้ที่ไม่ผสมแป้ง นวดจนเหนียวหนึบ เอาไปปั้นเป็นทรงคล้ายโดนัท ทอดให้สุกและด้านในคงความฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เมนูอร่อย ๆ ที่สดสั่งตรงจากนครสวรรค์ทุกวัน

กุ้งชุบแป้งทอดซอสไข่เค็ม (150 บาท) กุ้งตัวขนาดพอดี เอาไปชุบแป้งบาง ๆ ทอดให้กรอบนอกนุ่มใน แล้วเอาไปผัดกับซอสไข่เค็มที่รสชาติเค็ม ๆ มัน ๆ เมนูนี้ต้องบอกเลยว่าถ้ายกมาเสิร์ฟแล้วต้องรีบกินทันที เพราะจะได้สัมผัสถึงความฉ่ำของซอสไข่เค็มแบบเต็ม ๆ

เนื้อตุ๋นกะเพรากรอบ (180 บาท) เตือนไว้ก่อนว่าถ้าเป็นสายเนื้อต้องห้ามพลาดโดยเด็ดขาด เนื้อตุ๋นนุ่ม ๆ เรียกได้ว่าแทบจะลายในปาก เอาไปผัดกับเครื่องกะเพรารสชาติจัดจ้านถึงพริกถึงขิงมาก บอกเลยว่าใครชอบเนื้อ ใครชอบรสจัด ใครชอบความเป็นผัดกะเพราแบบไทย ๆ จานนี้แหละถึงสวรรค์แน่นอน

ข้าวผัดหนำเลี๊ยบหมูสับ (140 บาท) นอกจากความอร่อยของหมูสับที่ผัดกับหนำเลี๊ยบแล้ว เคล็ดลับความอร่อยอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือข้าวสวยที่เอาไปผัดกับเนยอย่างดี ทำให้ได้ความหอมติดกับข้าว เสิร์ฟคู่กับพริกสดและหอมแดง เพิ่มรสชาติให้เผ็ดร้อนยิ่งขึ้น

น้ำพริกกะปิปลาสลิดทอดไข่ชะอม (180 บาท) เห็นเสิร์ฟกันมาแบบสำรับใหญ่ขนาดนี้ ไม่ต้องตกใจว่าจะแพง เครื่องเคียงอัดแน่นแบบนี้ สมราคามาก น้ำพริกกะปิที่ใช้กะปิคัดพิเศษจากพังงา ซึ่งรับผลิตให้ทางร้านเจ้าเดียว ดังนั้นรสชาติจึงพิเศษกว่าที่อื่น เสิร์ฟคู่กับปลาสลิดทอดที่กรอบอร่อยไม่ต้องกังวลเรื่องก้างปลา และชะอมทอดไข่ชิ้นหนาพอดีคำ เมนูอร่อย ๆ เหมาะสำหรับทุกโต๊ะ

อิ่มข้าวกันแล้ว ถ้าใครยังรู้สึกว่าท้องยังไม่เต็ม น้าอ้วนก็มีขนมและเครื่องดื่มอร่อย ๆ มาแนะนำด้วยเช่นกัน กังปังอัญชัน (60 บาท) แต่ถ้าจับคู่กับไอศกรีมโฮมเมดอัญชันมะนาว จะเป็นเซ็ทละ 110 บาท ขนมปังพิเศษที่ทำจากดอกอัญชันจึงออกมาเป็นสีม่วงสวยงาม ราดด้วยท็อปปิ้งสูตรพิเศษจากไต้หวัน อบร้อน ๆ กินคู่กับไอศกรีมจะฟินมาก

Hot Latte (60 บาท) เครื่องดื่มกาแฟผสมนมรสชาติเข้มผสมกับความนุ่ม ราคานี้ก็อาจจะเห็นเป็นปกติตามร้านทั่วไป แต่รู้หรือไม่ว่าเมล็ดกาแฟที่เขาใช้ได้มาจากเอธิโอเปีย ผสมกับกัวเตมาลา พอรู้แบบนี้แล้วหละก็บอกเลยว่าคุณภาพเกินราคา

Choco Choc (110 บาท) เค้กช็อคโกแลตสูตรไร้แป้ง (Gluten Free) ได้รสชาติของช็อคโกแลตสุด ๆ เหมาะสำหรับใครที่อยากกินเค้ก แต่อาจจะแพ้แป้ง เค้กตัวนี้แหละตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

Mocha Choc (120 บาท) ช็อคโกแลตม็อคค่าปั่น เหมาะสำหรับใครที่เป็น Chocolate Lovers จัดเต็มให้ทั้งกาแฟม็อคค่า และเพิ่มความเป็นช็อคโกแลตด้วยโอริโอ้ และไอศกรีมช็อคโกแลตเข้าไปอีก งานนี้ถึงจะอ้วนก็ยอม

สุดท้ายเมนูเครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพ น้ำผลไม้แยกกาก (90 บาท, 400ml) วันนี้ที่น้าอ้วนได้ชิมเป็นสูตร Tasty One Cold Pressed Juice เป็นสูตรที่ดื่มแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น แก้หวัดได้ดี น้ำแยกกากที่นี่จะไม่มีการใช้น้ำเชื่อม จะใช้แต่ส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติเท่านั้น (เช่นเพิ่มความหวานด้วยน้ำผึ้ง) ก่อนคั้นทางร้านจะจัดผักและผลไม้อย่างดี และมีหลายสูตรให้เลือกด้วย

ไม่ใช่ว่าร้านจะอยู่ในย่านของนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก แล้วจะเอาใจแต่ฝรั่งมังค่า ผิดคาดที่กลับเป็นร้านอาหารไทยที่แบบว่ารสชาตินี่ถึงพริกถึงขิงกันเลยทีเดียว ถ้าฝรั่งมากินสงสัยต้องมีการเสียเหงื่อ เสียน้ำตากันบ้างหละ แต่สำหรับคนไทยอย่างเรานี่รับประกันว่าต้องถูกปาก อาหารไทยทั้ง 4 ภาคที่พร้อมให้บริการ ด้วยรสชาติอย่างที่บอกไปแล้ว และราคาจากที่เห็นแล้วไม่ได้แพงเลย จะมากินเป็นคู่ กับครอบครัว หรือนั่งชิลล์ ๆ กินที่ริมสระว่ายน้ำมันก็โอเคดีนะ ถ้าแวะเวียนผ่านมาแถวนี้อย่าลืมแวะมาที่ร้านอาหารกังสดาล และถ้าเอารถยนต์มาหายห่วง เพราะที่จอดรถเขามีไว้ให้บริการเยอะมาก

ร้าน : KANGSADAN BAR & RESTAURANT
ที่อยู่ :  55/2 ถนนราชมรรคา ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.785277, 98.990104
ติดต่อ : 085-5416463 , https://www.facebook.com/kangsadanchiangmai
เวลาเปิด-ปิด : ร้านอาหาร 10:00 น. – 23.59 น. , บาร์ 17:00 น. – 23:59 น. หยุดทุกวันพุธ
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/366732lk-kangsadan-bar-restaurant

Share on Facebook

Tweet

Follow us