นั่งจิบกาแฟ ฝันกลางวันกับร้านแบบมินิมอล สีขาวสะอาดตาที่ Daydreaming Espresso Bar
น้าอ้วนเชื่อว่าสิ่งไหนที่ทำด้วยใจรัก และความตั้งใจ สิ่งนั้น ๆ ก็จะออกมาดี เหมือนร้านกาแฟร้านนี้ที่จะมาแนะนำให้รู้จัก เกิดจากความรักในเรื่องของกาแฟของเด็กหนุ่ม 2 คนพี่น้อง ที่ทุก ๆ วันจะไปตระเวณชิมกาแฟตามร้านต่าง ๆ เพื่อศึกษาและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านกาแฟ จนวันหนึ่งเมื่อพร้อม จึงได้มาเปิดร้านกาแฟของตัวเองตามที่หวัง กับร้าน Daydreaming Espresso Bar ร้านกาแฟเล็ก ๆ ย่านบำรุงราษฎร์
ร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในย่านถนนบำรุงราษฎร์ ถนนเส้นเล็ก ๆ ที่ตัดจากสี่แยกโรงเรียนปริ้นส์รอยแยลวิทยาลัย มุ่งหน้าไปยังย่านสันป่าข่อย (หรือบางคนอาจจะรู้จักในนามของถนนเส้นซายูริ) ร้านนี้หาไม่ยากเลยเพราะตั้งอยูตรงข้ามหมู่บ้าน Q House รถยนต์สามารถจอดบริเวณฝั่งตรงข้ามร้านได้นะจ๊ะ เปิดตั้งแต่ 10:00 น. ไปจนถึง 18:00 น. หยุดทุกวันพุธ
คาเฟ่สไตล์มินิมอล ไม่มีอะไรมาก เดินเข้าร้านไปก็จะเห็นร้านโทนสีขาว ผ้าม่านกรองแสงสีขาว ๆ โต๊ะเก้าอี้โทนสีขาว เค้าน์เตอร์บาร์ที่คอยรับออเดอร์ลูกค้า พร้อมทั้งบาริสต้า 1 คน และปลากัด 1 ตัวถ้วน คอยต้อนรับลูกค้าทุกวัน
ถ้าไม่สะดวกที่จะแวะมาที่ร้าน ก็สามารถสั่งเครื่องดื่มหรือขนมผ่าน LINE MAN ได้นะจ๊ะ (กดสั่งจากตรงนี้เลย)
Iced Americano (60 บาท) กลิ่นเข้มข้น และได้รสชาติเปรี้ยวของกาแฟ เพราะเป็นเมล็ดคั่วอ่อน ที่เบล็นด์จากเมล็ดกาแฟหลาย ๆ ตัวเข้าด้วยกันทำให้เกิดรสชาติที่พิเศษขึ้น โดยทางร้านจะเปลี่ยนเมล็ดกาแฟทุก ๆ 2 อาทิตย์ เพื่อค้นหาความแปลกใหม่ และลูกค้าจะได้ทดลองรสใหม่ ๆ บ้าง
Iced Latte (65 บาท) เครื่องดื่มกาแฟที่ใครหลาย ๆ คนคงชอบ สำหรับใครที่อาจจะไม่สามารถที่จะดื่มอเมริกาโน่ หรือเอสเปรสโซ่เพียว ๆ ได้ กลิ่นของกาแฟที่หอมกรุ่น ผสานกับความหอมมันของนม ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นเครื่องดื่มกาแฟที่ดื่มง่ายขึ้น
Dirty (70 บาท) ชื่ออาจจะดูไม่น่ารัก แต่ก็สมกับหน้าตาของเครื่องดื่มแก้วนี้ อาจจะไม่เนียน หรือมีริ้วที่สวย แก้วนี้อาจจะดูเขลอะ ๆ ไปหน่อยแต่บอกเลยว่ารสชาติสุดยอดมาก รสชาติจะคล้าย ๆ กับ Iced Latte แก้วข้างบนแต่มีจะมีความหอม หวาน มันเพราะว่าทางร้านจะเพิ่มครีมและเฮเซลนัทลงไปด้วย
Creamy (80 บาท) สำหรับกาแฟแก้วนี้ขอยอมอ้วน 1 วัน เพราะมันฟินมาก โดยเฉพาะวิปปิ้งครีมที่ท็อปอยู่ด้านบน มันช่างเนียน หวาน หอมเฮเซลนัทซะเหลือเกิน เอาช้อนตักกินนี่แทบจะไม่วางช้อนเลย ส่วนกาแฟด้านล่างก็เป็นลาเต้หอมกรุ่น ผสานกับความมันของนมที่ลงตัว
และสำหรับใครที่อาจจะไม่ดื่มกาแฟ หรือขอพักกาแฟสักช่วง เครื่องดื่มโซดาที่นี่ก็หวานอร่อยสดชื่น มีให้บริการเช่นกัน Yuzu Soda (70 บาท) น้ำเชื่อมกลิ่นส้มยูซู หวานอมเปรี้ยวสดชื่น ผสานกับความซ่าของโซดา และเติมความหวานด้วยน้ำผึ้งหอมอร่อย
Sakurasaku (70 บาท) เครื่องดื่มโซดาสีชมพูสวยงาม รสชาติหวานหอมด้วยน้ำหวานกลิ่นดอกซากุระ ผสานความเปรี้ยวนิด ๆ กับมะนาวและตกแต่งด้วยดอกซากุระสีชมพู และที่สำคัญมีรสชาติหวานด้วยน้ำผึ้ง เครื่องดื่มหอม ๆ สีสวย ๆ เย็นสดชื่นแบบนี้ ห้ามพลาด
มาร้านกาแฟทั้งที ถ้าขาดขนมไปก็คงรู้สึกว่ายังไม่ถึงใจ Basque Cheesecake (80 บาท) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ชีสเค้กหน้าไหม้ ชีสเค้กที่อัดแน่นด้วยความเป็นครีมชีสแบบจัดเต็ม ใช้ไข่น้อย ไม่ใส่ซาวครีม ไม่ใส่มะนาว ไม่ใส่โยเกิร์ต
The Croffle (70 บาท) ขนมที่ได้แรงบันดาลใจมากจาเกาหลี หน้าตาคุ้นเคยตามแบบวาฟเฟิลที่เราเห็นทั่วไป แต่ที่นี่ไม่ได้ใช้แป้งวาฟเฟิลทำ จะใช้แป้งครัวซองเอามาใส่เครื่องทำวาฟเฟิล จนได้เป็นขนมหน้าตาแบบนี้ออกมา เนื้อสัมผัสจะเหนียวหนึบ หอมชีสหอมเนย กินกับน้ำเชื่อมเมเปิ้ล รสชาติเข้ากันดี
Matcha Cheese Cake (80 บาท) ชีสเค้กที่อัดแน่นไปด้วยครีมชีสเน้น ๆ ทำให้ได้รสสัมผัสแบบจัดเต็ม กลิ่นของชาเขียวก็หอมกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับครีมสดที่ไม่มีรสชาติใด ๆ เพื่อเพิ่มรสสัมผัสให้เบาขึ้น
ปิดท้ายด้วยขนมที่ต้องบอกว่า Limit Stock ในแต่ละวัน นั่นก็คือ Pudding (50 บาท) เมื่อก่อนทางร้านใช้วิธีเสิร์ฟแบบคว่ำหน้าแล้วใส่จาน แต่หลังจากที่โควิดมา ทำให้ร้านเล็งเห็นถึงความสะอาดของอาหาร ดังนั้นจึงดีไซน์รูปแบบของแพคเกจจิ้งให้เป็นขวดแก้วเพื่อเน้นเรื่องของความสะอาดยิ่งขึ้น อีกทั้งถ้าลูกค้าที่ยังไม่กินเลยก็สามารถหิ้วกลับบ้านได้ ขวดแก้วก็สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่อีก อร่อยด้วย รักโลกด้วยแบบนี้ ต้องเหมาไปเยอะๆ ซะแล้ว
เปลี่ยนบรรยากาศ หาร้านกาแฟแบบมินิมอลสบาย ๆ ในเมือง นั่งจิบกาแฟ เครื่องดื่ม และขนมชิลล์ ๆ หลากหลายเมนูที่ทางร้านได้คิดค้น หรือมองหาเทร็นด์ใหม่ ๆ จากต่างประเทศ เอามาปรับสูตรให้เข้ากับคนไทย โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปกินถึงต่างประเทศกันเลยทีเดียว เมนูอร่อย ๆ ในราคาย่อมเยาแบบนี้ แวะเลยที่ Daydreaming Espresso Bar หรือสั่ง LINE MAN ก็ได้นะจ๊ะ
COMMENT