FOLLOW US ON SOCIAL

Posted On

08
April
2022

ออกมาหาของอร่อยกินในร้านสไตล์เรโทร พร้อมบรรยากาศเหมือนสวนหลังบ้านที่ Grooveyard Bistro & Cafe

มีใจก็ตามมา! วันนี้น้าอ้วนจะพาไปหาของอร่อย ๆ กินย่านแม่ริมกัน แต่เราไม่ได้ไปไกลถึงม่อนแจ่มนะ วันนี้จะพามาหาของอร่อยที่อยู่ไม่ไกลเมืองมากเท่าไร แต่บรรยากาศดี ที่สำคัญขับรถออกจากตัวเมืองมาไม่ถึง 30 นาที ก็จะได้เสพกับบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ร้านอาหารดี ๆ บรรยากาศเก๋ ๆ และที่สำคัญเขามีห้องพักด้วยสำหรับใครที่อยากจะแวะมาเสพบรรยากาศยามค่ำคืนกลางธรรมชาตินอกเมืองสักคืน สองคืน ร้านสวย ๆ สไตล์เรโทรแบบนี้ต้องยกให้ร้าน Grooveyard Bistro & Cafe

เริ่มจากที่คนต่างจังหวัดคนหนึ่งเกิดความหลงไหลในความเป็นเชียงใหม่ แล้วมาเจอบ้านหลังนี้เลยตัดสินใจที่จะสร้างร้านอาหารสักร้าน ในแบบเรโทร และนำอาหารทะเลสด ๆ จากแหล่งผลิตมาแบ่งปันให้คนเชียงใหม่ได้กินกัน ร้านนี้เดินทางมาไม่ไกลเลย เมื่อเรามาถึงโซนแม่ริมแล้ว ก็ให้เลี้ยวมาทางวัดป่าดาราภิรมย์ ขับเลยวัดมาเรื่อย ๆ ขวามือจะเจอการประปาส่วนภูมิภาคสาขาแม่ริม และด้านซ้ายจะมีซอย ให้เราเลี้ยวเข้าซอยไปประมาณ 150 เมตร ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ ที่จอดรถกว้างขวางสะดวกสบาย

บ้านสไตล์เรโทรหลังใหญ่ ได้ถูกปรับปรุงเป็นร้านอาหารที่ร่มรื่น มีสนาม หรือสวนหลังบ้านสอดคล้องกับชื่อของร้าน Grooveyard อีกหนึ่งร้านอาหารที่มีที่พักไว้ให้บริการลูกค้าที่อยากจะมาพักผ่อน หลีกหนีความวุ่นวายในเมือง ใกล้ชิดธรรมชาติ อากาศเย็น ๆ ตกดึกมีเสียงแมลงทักทาย ในราคาต่อคืนไม่แพงด้วย

สำหรับใครที่แวะมาหาอะไรอร่อย ๆ กิน ต้องบอกว่าที่นี่เพียบพร้อมกับเมนูหลากหลายทั้งไทย เทศ และอีสาน แต่ต้องบอกก่อนว่าอาหารที่นี่จานใหญ่ ถ้าใครจะมา น้าอ้วนแนะนำว่าควรจะมากันหลาย ๆ คน เพื่อที่จะได้แชร์อาหารกันได้อย่างพอดี และจะได้สั่งมาชิมหลาย ๆ อย่าง

พิซซ่าหน้าข้าวซอย (M 238, L 398 บาท) หนึ่งเมนูเด่นของร้านนี้ก็คงหนีไม่พ้นเมนูพิซซ่า มีหลากหลายหน้าทั้งหน้าที่เป็นเนื้อสัตว์ หรือมังสวิรัติก็มีให้เลือก วันนี้น้าอ้วนเอาพิซซ่าหน้าข้าวซอยไก่มาแนะนำ เพราะคิดว่าแปลก ยังไม่เคยเห็นร้านไหนทำมาก่อน พิซซ่าที่นี่เขาจะใช้เตาฟืนอบ เพื่อให้ได้ความร้อนคงที่และได้กลิ่นหอมของฟืนที่ใช้การอบ เมื่อรีดแป้งจนบางได้ที่แล้ว ก็เอามาทาด้วย Tomato Paste แล้วราดด้วยน้ำข้าวซอยพร้อมชิ้นไก่ หลังจากนั้นโรยหน้าด้วยชีสจนทั่วแผ่น เอาไปอบจนสุกประมาณ 3 นาที ตกแต่งด้วยผักกาดดอง มะนาว และเส้นข้าวซอยกรอบ รสชาติเหมือนได้กินพิซซ่าได้รสของซอสมะเขือเทศ ได้รสของน้ำแกงข้าวซอย ได้กินเนื้อไก่นุ่ม ๆ อีกทั้งได้รสชาติหวานอมเปรี้ยวของผักกาดดอง สุดท้ายเพิ่มความกรอบด้วยเส้นข้าวซอย ต้องลองมาชิมดูแล้วจะรู้ว่าความแปลกแต่อร่อยมีจริง

ทะเลถัง (319 บาท) ใครที่ชอบอาหารทะเลก็คงต้องร้องว้าว หลากหลายเมนูทะเล ๆ ที่อาจจะเรียกว่ายกมาทั้งมหาสมุทร ไม่ว่าจะเป็น กุ้งขาวไซซ์ใหญ่ หอยแมลงภู่ตัวพอดีคำ หอยตลับ รวมไปถึงหมึกคลุกเคล้าในน้ำซอสรสชาติเผ็ดนิด ๆ หวานหน่อย ๆ จานใหญ่มาก เรียกได้ว่าใครที่สั่งเมนูนี้คุ้มสุด ๆ แต่ยังไม่พอแค่นั้น โปรโมชั่นพิเศษถ้าสั่งเมนูทะเลถัง พร้อมกับพิซซ่าหน้าใด ๆ ก็ได้ ทางร้านจะลดราคาเมนูทะเลถังเหลือ 256 บาท

พล่ากุ้ง (149 บาท) ยังละความเป็นทะเลไปไม่ได้ มาต่อกันที่อีกหนึ่งเมนูแซ่บ ๆ กับ พล่ากุ้ง ที่ใช้กุ้งขาวตัวใหญ่มาก เต็มปากเต็มคำสุด ๆ คลุกเคล้ากับน้ำพล่าที่มีความหอมหวานด้วยน้ำพริกเผา เผ็ด เค็ม เปรี้ยวครบรส

ปลากะพงราดพริก (278 บาท) เขาบอกว่ากินปลาแล้วจะสุขภาพดี ดังนั้นร้านก็เลยเสิร์ฟปลากะพงไซซ์ใหญ่ ทอดกรอบเป็นอย่างดี แล้วราดด้วยสมุนไพรและผักต่าง ๆ ที่ผัดกับน้ำซอสรสชาติไม่ได้จัดจ้านมากมาย เน้นไปทางกลมกล่อมเสียมากกว่า แล้วนำมาราดกับตัวปลา แนมด้วยผักสด รับรองว่าจานนี้สุขภาพดีสุด ๆ

หม้อไฟหม่าล่า (156 บาท) ยุคนี้อาจจะเรียกได้ว่าหม่าล่าครองเมือง แต่ถ้าเบื่อหม่าล่าแบบเสียบไม้ย่าง ลองมาแวะชิมหม่าล่าหม้อไฟที่นี่ดูก่อน ซึ่งเราก็ยังไม่มูฟออนจากอาหารทะเลกัน สำหรับหม้อนี้เรียกว่า กุ้ง หมึก ผัก ลูกชิ้น เส้น จัดมากันเต็มที่ เสิร์ฟมาในหม้อไฟร้อน ๆ น้ำซุปที่นี่รสชาติจะเผ็ดร้อน แต่ไม่เค็มมาก เลยทำให้ซดได้เรื่อย ๆ

หมูสามชั้นคั่วพริกเกลือ (156 บาท) หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นหนา ๆ เอาไปทอดให้กรอบ แล้วเอาไปคั่วกับพริก เกลือ และเครื่องต่าง ๆ ให้รสชาติออกมาจัดจ้าน แนมด้วยกะหล่ำปลีน้ำปลา เผื่อใครที่กินหมูสามชั้นไปแล้วรู้สึกเลี่ยน ๆ ก็มาตัดเลี่ยนด้วยกะหล่ำปลีที่มีรสเค็ม ๆ ก็โอเคเลยแหละ

ส้มตำปูปลาร้า (79 บาท) เมนูธรรมดาที่ไหนก็มีกิน แต่ถ้าได้ลองชิมแล้วจะรู้ว่าร้านอาหารสไตล์ฝรั่งแบบนี้ก็ทำส้มตำปูปลาร้าอร่อยนะ น้ำปลาร้าแซ่บนัว เส้นมะละกอก็กรอบ ปรุงรสมาแบบจัดจ้านกำลังดี อีกทั้งปูเค็มก็เค็มและไม่เหม็นสาบด้วยเคี้ยวอร่อย

รวมมิตรกระทะชุดใหญ่ (197 บาท) อย่าเพิ่งเบื่ออาหารทะเลกัน ขอแนะนำอีกสักเมนูนะ สำหรับใครที่อยากกินหมูกระทะ แต่ทนการนั่งปิ้งหน้าเตาในฤดูร้อน ๆ แบบนี้ไม่ไหว ทางร้านก็ขออาสาที่จะปิ้งมาให้เสร็จสรรพ ทั้งหมูย่าง หมึกย่าง กุ้งย่าง ผักย่าง หมี่หยก และผักต่าง ๆ ที่ย่างมาพร้อมกิน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม 4 สไตล์ น้ำจิ้มถั่ว, น้ำจิ้มหม่าล่า, น้ำจิ้มสุกี้ และน้ำจิ้มสามรส อิ่มแปร้ในแบบหัวไม่เหม็น

Mint Apple Berry (74 บาท) เครื่องดื่มม็อคเทลใส ๆ ไร้แอลกอฮอล์ สดชื่นด้วยความเปรี้ยวอมหวานของ Apple Cider อีกทั้งยังมีผลไม้สดที่เสิร์ฟมาในเครื่องดื่ม เรียกได้ว่าแก้วนี้สามารถคืนความสดชื่นให้ร่างกายในวันที่อากาศร้อน ๆ ได้เป็นอย่างดี

จะตั้งใจไปกิน หรือจะแวะหาอะไรอร่อย ๆ กินก่อนไปเที่ยวม่อนแจ่มก็ไม่ว่ากัน Grooveyard Bistro & Cafe ร้านคาเฟ่สวย ๆ สไตล์ Retro ที่เสิร์ฟทั้งไทย เทศ และอีสานรสแซ่บ อาหารจานใหญ่ ๆ รสชาติกลมกล่อม จัดจ้าน อีกทั้งราคาไม่แพงด้วย น้าอ้วนว่าที่จริงร้านนี้ควรเหมาะแก่การมาเป็นหมู่คณะ เพื่อที่จะได้สั่งหลาย ๆ เมนูแล้วแชร์กัน จะได้ชิมหลายอย่างยังไงหละ

ชื่อร้าน : Grooveyard Bistro & Cafe
ที่อยู่ : 198/1 (ซอยตรงข้ามประปาแม่ริม) ตำบลริมใต้ อำเภอเแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.912447, 98.932281
ติดต่อ :  089-1635624, 091-8932989, https://www.facebook.com/grooveyard.chiangmai
เวลาเปิด-ปิด : 11:00 น. – 22:00 น. หยุดทุกวันจันทร์
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/415514MH

RELATED POSTS

COMMENT

0 Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save