Posted On
Subway – Eat Fresh สตาร์ อเวนิว 2 (อาเขต) เชียงใหม่
Subway ร้านแซนวิชชื่อดังของสหรัฐอเมริกา แต่ถ้าพูดถึง Subway ในเชียงใหม่จะมีคนเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่คุ้นชื่อนี้ พูดถึงร้าน Subway ก็ถือว่าเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ดชือดังในต่างประเทศ ก็เหมือนๆ KFC , McDonalds อะไรประมาณนี้ แต่คนเชียงใหม่เราจะคุ้นกับแบรนด์หลังๆ นี่มากกว่า แต่ถ้าพูดถึงฟาสต์ฟู๊ด หลายๆ คนก็จะบอกว่าเป็นอาหาร Junk Food (จั๊งฟู๊ด อาหารขยะ) เป็นอาอาหารที่ไขมันเยอะ ให้พลังงานสูง ไม่มีประโยชน์ ฯลฯ แต่ถ้าคุณได้รู้จัก Subway ในอีกรูปแบบหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นอาหารที่เรียกว่าแซนวิช แต่แซนวิชที่นี่แตกต่างจากที่เราๆ คุ้นเคยกัน ส่วนจะเป็นแบบไหนต้องรีบตามน้าอ้วนมาดู
ชื่อร้าน : Subway สาขาสตาร์ อเวนิว 2 (อาเขต) เชียงใหม่
ที่อยู่ : โครงการสตาร์ อเวนิว 2 (อาเขต) ตำบลวัดเกตุ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.800642,99.019152 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 083 2015056 , https://www.facebook.com/subway.chiangmai.24hr
เวลาเปิด-ปิด : 24 ชั่วโมง
ร้าน Subway สาขาสตาร์ อเวนิว 2 (อาเขต) เชียงใหม่ ตั้งอยู่ในโครงการ Star Avenue 2 ใกล้ๆ กับสถานีขนส่งอาเขตนั่นเองครับ อยู่ติดกับร้านกาแฟ TOM n TOMS ให้บริการ 24 ชั่วโมง แหม่ะ… ทำอย่างกะแข่งกับ 7-Eleven ซึ่งเป็นร้าน Subway ในเชียงใหม่สาขาเดียวที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง (เชียงใหม่มี Subway ทั้งหมด 3 สาขา รวมที่นี่ด้วย) ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะเลิกงานไปไม่ทัน หรือดึกๆ มาหิวไม่อยากกินมาม่า Subway ที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งได้อย่างดีเลย
อย่างที่บอกร้านนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าใครมาช่วงเที่ยงหรือเย็น ก็อาจจะเจอกับลูกค้าที่แวะไปเวียนมา บางท่านอาจจะซื้อกลับบ้าน แต่บางท่านก็จะนั่งทานที่ร้าน ร้านนี้ก็ถือว่าไม่ใหญ่อะไรมากมาย มีโต๊ะเก้าอี้ให้ลูกค้านั่งพอสมควรอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ได้กว้างมากเหมือนร้านอื่นๆ ในโครงการ แต่ถ้าใครมาช่วงดึกๆ ตีหนึ่ง ตีสอง ๕๕๕ รับประกันเลือกนั่งกันได้ตามอัธยาศัยเลย ที่นี่มีทั้งโต๊ะนั่งธรรมดา และมีแบบโซฟาด้วย ซึ่งคอนเซ็ปของร้านฟาสฟู๊ดทั่วไปแล้วก็คือนั่งทาน แล้วก็กลับ แต่ที่นี่มีชุดโซฟา (เหมือนร้านกาแฟเลย) ให้ลูกค้านั่งทานกันได้ตามสบายใจ อิ่มแล้วจะนั่งตบยุงต่อก็ไม่ว่ากัน เจ้าของร้านอยากให้ที่นี่เป็นร้านที่ชิลๆ สำหรับลูกค้าทุกท่าน
พูดถึงเมนูหลักๆ ของที่นี่ก็จะมีเด่นๆ อยู่ 3 อย่างคือ สลัด แซนวิช และคุ๊กกี้ ในส่วนของแซนวิชนั้นที่นี่เขามีเมนูค่อนข้างหลากหลาย ถึงแม้จะเป็นแค่แซนวิช ถ้าคุณสั่งในรูปแบบต่างกัน ก็จะได้ลองชิมแซนวิชในรสชาติใหม่ๆ อยู่ตลอด
โดยขั้นตอนของการสั่งแซนวิชที่นี่ เขาจะมีอยู่ 6 Steps หลักๆ ซึ่งได้แก่ (จำไว้ให้ดีเลยนะ ถ้าไปร้าน Subway แล้วจะได้สั่งแบบคล่องแคล่ว ๕๕๕)
Step 1 : ต้องการเมนูแบบใด : ให้ลูกค้าเลือกว่าต้องการแซนวิช หรือสลัด ถ้าต้องการเป็นแซนวิช เขาก็มีให้เลือกแบบว่าจะเอาแบบ ฟุตลอง (12 นิ้ว) ซึ่งราคาเริ่มต้นที่ 179 บาท หรือแบบ 6 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 99 บาท // เขาก็จะมีชนิดแซนวิชมาตรฐานซึ่งราคาก็จะแปรผันไปตามชนิดของอาหาร แต่ถ้าต้องการเพิ่มเนื้อหรือ addon อะไรก็เพิ่มเงินตามส่วนได้
Step 2 : เลือกขนมปัง : เขาจะมีขนมปังให้เลือกอยู่ 5 ชนิด คือ เซซามิ, วีท, ฮันนี่โอ๊ต, อิตาเลียน, และพาร์เมซาน ออริกาโน่
Step 3 : ต้องการรับชีสไหม? : สเต็ปนี้รับประกันว่า Cheese Lovers ต้องร้องกรี๊ด ปกติแล้วถ้าเป็นไซส์ 6 นิ้ว เขาจะมีให้อยู่ 2 แผ่น, และ 4 แผ่นสำหรับไซส์ฟุตลอง หากต้องการเพิ่มพิเศษก็ 10 บาทและ 20 บาท // หลังจากสเต็ปนี้แล้วทางร้านก็จะเอาแซนวิชไปอบในเครื่องอบร้อนแบบ Hi Speed เพื่อให้ชีสมันละลาย แล้วก็ไปสเต็ปต่อไป
Step 4 : เลือกผักสลัด : สต็ปนี้เอาเลยจ่ะ ตามอัธยาศัย ชอบผักชนิดไหนเป็นพิเศษบอกพนักงานได้ หรือไม่ชอบอันไหนก็ตัดทิ้งได้
Step 5 : เลือกซอส : ซอสที่นี่เขาจะมีกว่า 10 ชนิดนะครับ มีทั้งแบบปราศจากไขมัน และแบบธรรมดา ซึ่งรสชาติของซอสแต่ละชนิดก็จะแตกต่างกัน เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด โดยมาตรฐานแล้วเขาจะให้ 3 ซอสนะครับ ถ้าใส่เยอะไปเกรงว่ารสชาติจะไปตีกัน ทำให้แซนวิชชิ้นนี้รสชาติทะแม่งๆ
Step 6 : จะรับเป็นชุดไหม? : ถ้าอยากได้เครื่องดื่มด้วย หรือมันฝรั่งทอดด้วย ก็สามารถเลือกได้ ซึ่งราคาก็จะเป็นเซ็ท ตามที่ทางร้านกำหนด ซึ่งแต่ละเซ็ทราคาจะไม่เท่ากัน กรุณาตรวจสอบที่จุดขาย (พูดเหมือนใบปลิวโฆษณาสินค้าเลย หึหึ)
แค่นี้เราก็ได้แซนวิชในแบบที่เราชอบมาทานแล้ว โดยทั่วไปแล้วหากเป็นคนที่คล่องในการสั่ง Subway ก็จะใช้เวลาราวๆ ประมาณ 2 นาทีต่อท่าน ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทาง Subway กำหนดไว้ แต่ถ้าใครที่ยังไม่รู้ว่าต้องสั่งอะไรยังไง พนักงานที่ร้านก็พร้อมที่จะแนะนำให้ตั้งแต่ Step 1 ถึง 6 // อายครูไม่รู้วิชา อายพนักงาน Subway ไม่ได้กินแซนวิช
หลังจากที่ได้ Your Own Sandwich แล้วเราก็พร้อมที่จะมาลองชิมว่า แซนวิชของ Subway จะดีแค่ไหน ถ้าเราพูดถึงแซนวิชหลายๆ คนก็คงคิดถึงแซนวิชที่มีขนมปัง ทามายองเนส แล้วใส่หมูหยอง, แฮม, ปูอัด หรืออะไรต่างๆ แล้วก็พร้อมเสิร์ฟ แต่นี่ที่เขาเป็นแซนวิชที่อุดมไปด้วยประโยชน์จากผัก ไขมันที่ถือว่าน้อยมาก แซนวิชชิ้นหนึ่งถ้าขนาด 6 นิ้ว แคลอรี่ก็ประมาณ 250 แคลอรี่เท่านั้นเอง (ขึ้นอยู่กับว่าเราเพิ่มอะไรเข้าไปหรือเปล่า) อย่างวันนี้น้าอ้วนมาลองแซนวิชแบบฟุตลอง ชิ้นใหญ่มากกกก (แต่ทีมงานเราไปกัน 2 คน ดังนั้นเลยหั่นครึ่งแบ่งกัน) รสชาติถือว่าเป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่อร่อยนะ ฉีกกฎหรือฉีกแนวความคิดกับแซนวิชแบบเดิมไปเลย ซึ่งผักที่ใส่ในวันนี้คือทุกอย่าง ทางร้านจัดมาให้เลย โชคดีที่น้าอ้วนเป็นคนทานผักได้อยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหา เลยกลายเป็นว่าแซนวิชชิ้นนี้อร่อยเลย
หลังจากที่โชว์ใส้ในกันเป็นที่เรียบร้อย พนักงานก็เอาแซนวิชชิ้นนี้ไปอบร้อนเพื่อให้ชีสมันละลาย ผลที่ได้ออกมาก็เป็นเยี่ยงนี้แล … พร้อมแล้วก็ม้วน ม้วนเสร็จใส่ถุง ฉีกถุงกินเหมือนโรตี การกินอาหารประเภทนี้ไม่ต้องกระมิด กระเมี้ยนเกรงใจ เพื่อความอร่อยต้องกัดลงไปเต็มที่ เลอะบ้าง เปรอะบ้างถือเป็นอารมณ์ที่แท้จริงของการกิน Subway
นอกจากแซนวิชแล้วที่นี่ก็ยังมีสลัด ซึ่งสลัดก็เริ่มต้นที่ 124 บาท (ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะเพิ่มอะไรเข้าไปอีกหรือเปล่า) ซึ่งผักที่เขาใช้จะเป็นผักที่ได้รับการการันตีจากทาง Subway แล้วว่าผ่านมาตรฐานที่เขากำหนด ถึงแม้อาจจะไม่ได้ใช้ผักตามแหล่งชื่อดังก็ตาม ผักที่นี่เขาจะเน้นความสดกรอบ ผักแต่ละชนิดก็จะมีเวลาของมัน เมื่อถึงเวลาเกษียณอายุแล้ว ก็ต้องปลดระวาง เอาผักวัยรุ่นหน้าใหม่ขึ้นมาแทนที่ ถึงแม้ผักนั้นๆ จะยังดูว่าสดและใช้ได้อยู่ก็ตาม (ที่นี่เขาจะเคร่งเรื่องคุณภาพมาก เพราะถ้าโดนฝ่าย audit จากทางสำนักงานใหญ่มาแอบสุ่มตรวจแล้วไม่ผ่านละก็ มีสิทธิ์ยึดใบอนุญาตได้)
ทานแต่ของเป็นชิ้นๆ แล้วเราลองมาดูแบบเหลวๆ เป็นซุปให้คล่องคอบ้าง ที่นี่เขาก็มีซุปอยู่ 2-3 ชนิด แต่ที่มารีวิวในวันนี้จะเป็นซุปหอยลาย รสชาติกลมกล่อมดี เสิร์ฟมาร้อนๆ เนื้อหอยลายชิ้นใหญ่พอคำ สดดีครับ เคี้ยวกรุบๆ น้าอ้วนคนเดียวซดจนหมดถ้วย ๕๕๕
และก็ยังมีคุ๊กกี้ด้วย อบสดทุกวัน ไม่ต้องกลัวอ้วน เพราะที่นี่เขาจะใช้ไขมัน Transfat 0% รับประกันดีต่อสุขภาพ
น้าอ้วนจำได้ว่าตอนที่ Subway มาเปิดสาขาที่เชียงใหม่ช่วงแรกๆ น้าอ้วนมองว่าเป็นร้านแซนวิช ที่ไม่น่าสนใจ เพราะอะไร เพราะคนไทยอย่างเราคุ้นเคยกับอาหารไทย หรือไม่ก็ฟาสต์ฟู๊ดพวกเบอร์เกอร์ หรือไก่ทอด ซะมากกว่า แล้วตอนนั้นราคา 1xx บาท ซึ่งมาคิดว่า แซนวิชบ้าอะไรวะ อันตั้งร้อยกว่าบาท มีแต่ผัก แต่แป้ง บลาๆ เลยทำให้ไม่เคยคิดจะลองอาหารประเภทนี้
แต่พอเมื่อได้มาเจอ Subway สาขานี้ บอกเลยว่าคงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วแหละ (ไม่ใช่คง “ต้อง” เลยแหละ) จากที่เคยคิดว่าต้องมีเงินเยอะๆ ถึงจะกินได้ แต่ตอนนี้มีเงินแค่ 39 บาท ก็กิน Subway ได้ เพราะก่อนที่น้าอ้วนจะไปรีวิวร้านนี้ น้าอ้วนเป็แฟนเพจของร้านนี้มาก่อน รู้สึกว่าเขามีโปรโมชั่นเยอะมาก ตั้งแต่ 39 บาท, 49 บาท, 69 บาท, 99 บาท หรือร้อยบาทขึ้นไป ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้คนเอื้อมได้ เข้าถึงได้ เชื่อเถอะว่าเงิน 49 บาทหลายคนสามารถจ่ายได้ เพื่อจะได้ลองอะไรสักอย่าง แต่ถ้าได้ลองร้านนี้แล้วจะต้องเปลี่ยนไป (แลดูว่าน้าอ้วนจะเชียร์เป็นพิเศษ ร้านนี้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไร ไปรีวิวปกติเหมือนร้านอื่นทุกอย่าง ไม่ได้ค่าโฆษณาต่างหากด้วย นี่พูดเลย) และเป็นอาหารที่ไม่ซ้ำซากจำเจ เพราะเราสามารถคิดเมนูแซนวิชใหม่ๆ ของเราได้ทุกวัน ทุกครั้งที่ไปสั่งลองเปลี่ยนเมนูสิ ลองใส่นั่น ใส่นี่ดูคุณก็จะได้แซนวิชที่แปลกใหม่ของแต่ละวันมา … ที่สำคัญน้าอ้วนขอเอาร้านนี้ไปอยู่ในหมวดของ “อาหารเพื่อสุขภาพ” เพราะกินแล้วรู้ได้เลยว่ามีประโยชน์กว่าอาหารฟาสต์ฟู๊ดยี่ห้ออื่นๆ แน่นอน
RELATED POSTS
-
คิดถึงอาหารญี่ปุ่นรสชาติโอซากา แต่ไม่ต้องบินไปไกล เขายกความฟินมาไว้ใกล้บ้านแล้วที่ CHIALI – ชิเอลิ เชียงใหม่
-
อยากกินอาหารอิตาเลียนแท้ ก็ต้องกินกับฝีมือเชฟจากอิตาลี กลิ่นอายของเมดิเตอร์เรเนียนเต็มเปี่ยมที่ ร้านอาหาร ฟาโวล่า
-
ชวนกันมาว้าวกับ Timberring ขนมสุดฮิตที่เป็นกระแสในตอนนี้ หลากไส้หลากรสชาติที่ Chez Nous สันกำแพง
-
เพลินไปกับเครื่องชงกาแฟ Nescafe Dolce Gusto ชงกาแฟแก้วโปรดได้ง่ายๆ ที่บ้าน
-
เอาใจคนลำพูน อิ่มและฟินไม่ต้องไปไกล ครบทั้งไทยและเทศ เสิร์ฟให้ถึงที่ใกล้นิคมลำพูนแค่นี้เองที่ CHICROOM BISTRO & BAR
-
ดับกระหายคลายร้อน กับเทศกาลข้าวแช่-ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ SUMMER DELIGHTS ที่ร้าน S&P
-
นั่งรับลมเย็นสบาย กับวิวทะเลสาบและดอยสุเทพ ร้านน่านั่งจะเป็นมื้อกลางวัน หรือมื้อเย็นก็ฟินตลอดที่ Vento Bar
COMMENT