ร้านรออยู่ตรงนี้ ร้านอาหารไทยอร่อย รสชาติสะใจอารมณ์ศิลปิน


ย้อนไปเมื่อประมาณสิบกว่าปี …​ สมัยน้าอ้วนยังหนุ่มๆ รู้สึกเหมือนว่าจะจำความได้หน่อยๆ (อิอิ) บทเพลงที่ขึ้นต้นว่า “พยายามรู้จัก พยายามทักทายกับเธอ หวังให้เธอได้มองฉันหน่อย พยายามพิสูจน์ พยายามพูดคุย ไม่เห็นว่าเธอจะมองบ้างเลย แต่ไม่เคยท้อใจ รู้ตัวเองว่าเห่ย ฉันก็เลยไม่เคยมั่นใจ แล้วเมื่อไรจะได้รู้จัก คิดทบทวนทุกอย่าง จะมีทางไหม ให้เธอมาสนใจ” เป็นหนึ่งบทเพลงที่คนเชียงใหม่หลายๆ ที่เป็นวัยรุ่นในยุคนั้นจะต้องร้องได้แน่นอน และเป็นวงศิลปินที่วัยรุ่นบ้านเราจะต้องกรี๊ดกันมาบ้างหละ นั่นก็คือวง HUM ครับ วง HUM เป็นวงดนตรีจากเชียงใหม่ ที่มีชื่อเสียงจนได้เป็นนักร้องในค่ายแกรมมี่ ซึ่งถือว่าเป็นที่ฮือฮาและมีชื่อเสียงพอสมควรเลยแหละ สำหรับวันนี้น้าอ้วนจะพามาชิมอาหารร้านหนึ่ง โดยที่เจ้าของร้านเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกวง HUM ครับ คงจะคุ้นหน้าคาดตากันดีกับคุณกานต์ นักร้องนำนั่นเองที่ “ร้านรออยู่ตรงนี้”

ชื่อร้าน : ร้านรออยู่ตรงนี้ ร้านอาหารไทยอร่อย รสชาติสะใจอารมณ์ศิลปิน
ที่อยู่ : 32 ถนนสนามบินเก่า ซอย 8 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.788028,98.96104 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 085 553 4123 , https://www.facebook.com/rawyouhere
เวลาเปิด-ปิด : 10:30 – 22:00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/139476Ir-รออยู่ตรงนี้-coffee-thai-cusine-since-2002

หากใครที่ยังนึกไม่ออกว่าเพลง “รออยู่ตรงนี้” เขาร้องกันยังไง น้าอ้วนเอาลิงก์จาก Youtube มาแปะให้นะจ๊ะ ลองฟังดูก่อน แล้วอาจจะร้องอ๋อ ก็ได้ว่าฉันเคยได้ยินมาก่อน อิอิ เสียงร้องสดๆ จากคุณกานต์นักร้องนำวง HUM เลยนะ แต่เป็นเวอร์ชั่นเล่นสด

ด้วยบรรยากาศง่ายๆ ของร้าน “รออยู่ตรงนี้” ร้านอาหารเก๋ๆ สไตล์ชิลๆ ชื่อเดียวกับเพลงที่เป็นที่อยู่จักในสมัยก่อน หากใครที่อยากมาเยี่ยมชิมความอร่อยของร้านนี้ก็สตาร์ทรถแล้วมุ่งหน้ามาทางถนนสนามบินเก่า (ซอยที่จะเข้าด้านหลังกองบิน 41) แล้วให้เข้ามาในซอย 8 นะครับ ตั้งใจมองกันสักนิด เพราะป้ายบอกซอยมันเลือนลางซะเหลือเกิน เมื่อเข้ามาในซอยแล้วให้ขับมาจนสุดซอยเลยนะครับ จะเจอสามแยกซึ่งตรงสามแยกนั้นจะมีป้ายบอกทางไปร้าน ซึ่งเมื่อเราเลี้ยวซ้ายปุ๊บ ก็จะเจอร้านอยู่ด้านขวามือเลยครับ

ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ซึ่งจะมีอยู่ 2 โซนนะครับ คือด้านในซึ่งจะตกแต่งตามสไตล์เรโทรนิดๆ มีโต๊ะอยู่ประมาณ ​5 โต๊ะได้ หรือใครอยากนั่งชิลอยู่ด้านนอกก็จะมีโต๊ะให้บริการด้วย

รายการอาหารที่นี่จะเน้นไปทางอาหารไทยและอาหารอีสานเป็นหลัก ซึ่งแต่ละเมนูนั้นทางร้านได้คิดค้นสูตรขึ้นมาเอง และตั้งชื่อกันซะแบบว่ากิ๊บเก๋ ตามสไตล์อารมณ์ครีเอทของศิลปิน สำหรับราคาน้าอ้วนมองว่าราคานี้ไม่แพงนะ เพราะดูจากลูกค้าหลายๆ คนที่มาทานส่วนมากจะเป็นวัยนักศึกษา หรือวัยคนทำงาน ซึ่งสามารถที่จะจ่ายในราคานี้ได้

สำหรับอาหารที่น้าอ้วนจะหยิบยกมารีวิวให้ดูกันวันนี้ก็มีอยู่ 5 เมนูนะครับ แต่ละเมนูก็ถือว่าเป็นเมนูเด็ดที่จะต้องแนะนำกันเลยทีเดียว และเป็นสูตรเด็ดที่ทางร้านคิดค้นข้นมานั่นเอง โดยเมนูแรกเป็นเมนูที่น้าอ้วนว่าหลายคนต้องชอบทาน โดยส่วนตัวน้าอ้วนก็ชอบทานนะอย่าง แกงส้มชะอมกุ้งสดเนี่ย แต่!! ถ้ามาที่นี่ถ้าเป็นแค่แกงส้มธรรมดาก็คงไม่แปลกอะไร ที่นี่เขาต้องแตกต่าง จึงเป็นที่มาของ “ไม่ใช่แกงส้ม (ชะอมไข่)” รูปแบบการนำเสนอของอาหารเมนูนี้ เขาจะทำน้ำแกงส้มให้เป็นลักษณะของซอสข้นๆ (โดยรสชาติของแกงส้มยังคงเต็มที่) ส่วนชะอมชุบไข่ทอดก็หั้นกันมาแบบสามเหลี่ยม เวลาทานก็ให้เราเอาน้ำซอสมาราดบนตัวชะอมชุบไข่ แล้วทาน รสชาติจะคล้ายกับเรากินแกงส้มแบบทั่วไป แต่จะไม่ได้ซดน้ำแกงนะ เป็นซอสรสชาติเข้มข้น ทานแล้วรู้สึกว่าแปลกใหม่ดี

ไขตุ๋นรออยู่ตรงนี้ ไข่ตุ๋นสูตรพิเศษจะไม่ได้เป็นไข่ตุ๋นเนื้อเนียนแบบไข่ตุ๋นญี่ปุ่นนะครับ จะมีความสากแบบไทยเข้าไปด้วย รสชาติจะออกแนวกลมกล่อม มีรสชาติมากกว่าสไตล์ญี่ปุ่น ด้านบนก็ท๊อปปิ้งด้วยกุ้งตัวโต และด้านในก็จะมีหมูสับและไข่นกกระทาเพื่อเพิ่มความอร่อยในตัวด้วย

ผัดเนื้อเหงื่อตก แค่ชื่อก็สามารถบอกตัวตนของอาหารนี้ได้เป็นอย่างดี แล้วพอมาเห็นหน้าตาแล้วก็ยิ่งตอกย้ำความจัดจ้านของเมนูนี้ได้เป็นอย่างดี ผัดเนื้อเหงื่อตกเป็นการเอาเนื้อมาผัดกับเครื่องแกงที่รสชาติจัดจ้านรสชาตินี่บอกเลยว่าเผ็ดนำ ตามด้วยเค็ม และหอมกลิ่นของเครื่องพริกแกงที่เขานำไปผัด งานนี้ขอบอกว่าถ้าทานเปล่าๆ อาจจะต้องเหงื่อตกกันตามชื่อเมนู ให้แนะนำทานกับข้าวสวยจะช่วยลดดีกรีความเผ็ดร้อนได้นะจ๊ะ

แกงเผ็ดเนื้อย่างใบชะพลู อีกหนึ่งเมนูที่บอกเลยว่าห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด ใครที่ชอบทานอาหารไทยแนวนี้ หรือใครที่ชอบแนวแกงคั่วต้องชื่นชอบแน่นอน แกงเผ็ดเนื้อย่างใบชะพลู รสชาติเข้มข้น หวาน หอม มันกะทิได้เป็นอย่างดี เนื้อย่างที่อยู่ด้านในก็ย่างสุกกำลังดี งานนี้ข้าวสวย 1 จานคงเอาไม่อยู่คงต้องเบิ้ลแล้วแหละ

ส้มตำปูอัดวาซาบิ อาหารไทยแนวฟิวชั่นที่ขอบอกว่ารสชาติจัดจ้าน แต่ไม่ได้จัดจ้านตามแบบไทยนะ งานนี้ทานปุ๊บวาซาบิขึ้นจมูกแน่นอน เป็นเมนูส้มตำที่น้าอ้วนบอกเลยว่าไม่เคยทานที่ไหนเลย แทนที่เราจะได้รสชาติความเผ็ดของพริกขี้หนูสวน แต่งานนี้เผ็ดขึ้นจมูกด้วยฤทธิ์ของวาซาบิ และรสชาติส้มตำอาจจะไม่จัดจ้านเท่าไร ถ้าใครอยากลองของแปลกก็อย่าลืมสั่งมาชิมดูนะจ๊ะ

นอกจากที่นี่จะมีอาหารให้บริการแล้วเขาก็ยังเป็นร้านกาแฟให้บริการด้วย เมนูเด่นด้วยกาแฟ Signature คงหนีไม่พ้น กาแฟรออยู่ตรงนี้ จะเป็นกาแฟที่เสิร์ฟมาด้วย นมสดแก้วใหญ่ พร้อมกับเอสเปรสโซ่ช๊อต ด้วยคอนเซ็ปที่ว่า แต่ละคนย่อมทานกาแฟรสชาติต่างกัน แต่ละคนก็จะชอบความเข้นข้นของกาแฟที่ต่างกัน ดังนั้นใครชอบเข้มก็เทใส่ให้หมด ใครชอบกาแฟอ่อนๆ ก็เทน้อยๆ งานนี้คุณสร้างสรรค์เมนูกาแฟได้ด้วยตนเอง และสมูทตี้อย่าง Blueberry Smoothie รสชาติหวานกำลังดี ได้กลิ่นของบลูเบอรี่อย่างชัดเจน เป็นเมนูที่ช่วยดับร้อนได้เป็นอย่างดีนะจ๊ะ

ร้านอาหารไทยและอาหารอีสานแนวฟิวชั่น ที่มีเอกลักษณ์และรสชาติอาหารในรูปแบบของตัวเอง ด้วยความเข้นข้นของอาหารแต่ละเมนู น้าอ้วนบอกเลยว่าใครที่ชอบอาหารไทย ถ้ามาร้านนี้แล้วจะน้องไม่ผิดหวัง รวมไปถึงรูปแบบการนำเสนอหน้าตาของอาหารยังเป็นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกว่า ร้านนี้มีอะไรให้น่าค้นหาอีกมากมาย ถึงแม้จะเห็นว่าเป็นร้านเล็กๆ แบบนี้ “ร้านรออยู่ตรงนี้” ร้านอาหารไทยที่น้าอ้วนอยากแนะนำอีกร้านหนึ่งจ้าาาาาา

ปอลอ ถ้าเจ้าของร้านว่าง ไม่ติดลูกค้าอะไร ลองขอให้เขาเล่นเพลงให้ฟังสิ อิอิ

Share on Facebook

Tweet

Follow us