กินชาตินี้ ชาถึงชาติหน้า “หม่าล่า สี่แยก” ปิ้งย่างรสเด็ดเผ็ดจัดจ้านเวอร์!!!

วันนี้น้าอ้วนแวะไปรีวิวร้านหม่าล่า ร้านหนึ่งที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานที่เชียงใหม่บ้านเรา ร้านนี้สโลแกนเด็ดๆ “กินชาตินี้ ชาถึงชาติหน้า” ๕๕๕๕ กิติศัพท์ของหม่าล่าทุกคนคงรู้ดีกว่าเป็นอาหารที่เรียกว่าถ้าใครไม่ชอบกินเผ็ดอาจจะต้องรู้สึกแย่แน่นๆ แต่ถ้าเป็นคนกินเผ็ดจัดจ้านอย่างน้าอ้วนนี่หละก็ ถึงไหนถึงกัน และวันนี้ร้านหม่าล่าน้องใหม่ที่อยากแนะนำให้รู้จักชื่อเก๋ๆ ว่า “หม่าล่า สี่แยก” 

ชื่อร้าน : หม่าล่า 4 แยก
ที่อยู่ : ตรงข้าม 7-Eleven สาขาศรีปิงเมือง ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.7707795,98.9847688
ติดต่อ : 087-5656656 , https://www.facebook.com/malaa4len
เวลาเปิด–ปิด : 18:00 – 23:30 น.​ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/192122lH-หม่าล่า4แยก

หม่าล่าสี่แยก ตั้งอยู่บนถนนศรีปิงเมือง น้าอ้วนว่าชื่อถนนนี้หลายคนคงอาจจะไม่คุ้นหูสักเท่าไร เพราะเป็นถนนเส้นเล็กๆ ที่ไม่ค่อยมีใครสัญจรผ่านสักเท่าไร แต่ก็มีคนละแวกนั้นใช้เป็นประจำนะจ๊ะ เอาง่ายๆ ถ้าใครอยากมาร้านหม่าล่าสี่แยก ก็ใช้ถนนมหิดล จากสี่แยกสนามบิน ให้ตรงมาทางสี่แยกหนองหอย ขับมาประมาณ 200 เมตร จะเห็นป้ายทางเช้านทีคอร์ท และโรงแรมนิ่มซีเส็ง (สังเกตุเป็นป้ายสีแดงขาว) ขับเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอสามแยกให้เลี้ยวขวา แล้วขับไปตามทาง ตรงมาเรื่อยๆ จะเจอสี่แยก ซึ่งร้านหม่าล่าสี่แยกนี้จะอยู่ตรงด้านขวาของสี่แยกนี่เอง

สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ก็สามารถเลี้ยวขวาและไปจอดที่บริเวณด้านหน้าร้าน หรือถ้าใครเอารถยนต์มาก็สามารถจอดรถในบริเวณซอยแถวนั้นได้เลย แต่ขอความกรุณาจอดชิดๆ หน่อยนะจ๊ะ

บรรยากาศร้านก็เป็นร้านเล็กๆ สไตล์บ้านๆ แต่มีหลังคาและเก้าอี้มั่นคงแข็งแรง ใครเกรงว่าช่วงนี้ฝนจะตก ไม่ต้องกลัวจ้าเพราะที่นี่เขาทำร้านดีแต่สไตล์ไม่ได้เลิศหรูอะไรเท่านั้นเอง แต่น้าอ้วนเชื่อว่าหม่าล่าปิ้งย่างแบบนี้ต้องเป็นร้านสไตล์นี้แหละ ถึงจะเข้ากัน

สำหรับลูกค้าที่มาแล้วก็เชิญที่หน้าเค้าน์เตอร์ได้เลย สามารถไปเลือกหยิบเลยว่าต้องการอะไรบ้าง เมนูที่นี่ทุกอย่างไม้ละ 10 บาท ยกเว้นจำพวกที่พันเบคอนอันนี้จะเป็น 20 บาทต่อไม้นะจ๊ะ โดยเมนูหลักๆ ที่ให้เลือกก็จะมี เนื้อหมู เนื้อวัว หมูสามชั้น เนื้อวัวติดมัน ไก่ ตับไก่ หัวใจไก่ ไส้หมู เห็ดออรินจิ เห็ดนางฟ้า กระเจี๊ยบ หัวหอมใหญ่ ต้นหอมยักษ์ เห็ดเข็มทองพันเบคอน และหน่อไม้ฝรั่งพันเบคอน เป็นต้น ทุกอย่างที่อยากได้ก็หยิบใส่จานแล้วรอย่าง พอย่างเสร็จพนักงานก็จะมาเสิร์ฟที่โต๊ะ แต่ว่าถ้าร้านว่างไม่มีออเดอร์ก็รอแป๊บเดียวประมาณ 5 นาที แต่ถ้าวันไหนลูกค้าเต็มก็รอกันนิดหนึ่ง ประมาณ​ 10-15 นาทีนะจ๊ะ ใจร่มๆ ของอร่อยอาจจะต้องรอกันนิดหนึ่ง

ประวัติความเป็นมาของร้านนี้เรียกได้ว่าอาจจะเป็นการจับพลัดจับผลูก็เป็นได้ เพราะว่าคุณโตโต้และคุณตงตง สองพี่น้องชาวไต้หวัน ที่มาอาศัยอยู่เมืองไทยกว่า 10 ปี พูดไทยได้ชัดแป๊ะเลยทีเดียว พูดจีนก็ไฟแล๊บ ทั้งสองเป็นคนชอบกินหม่าล่าเป็นชีวิตจิตใจ เรียกได้ว่ามีหม่าล่าที่ไหนต้องไปเสาะหาไปชิมจนได้ ไม่ว่าจะเป็นทั่วเชียงใหม่ เชียงราย หรือแม้แต่เมืองจีนก็ไปชิมมาแล้ว จนแฟนของคุณโตโต้ประชดว่า “ถ้าชอบกินขนาดนี้ทำไมไม่เปิดร้านซะเองเลยหละ” และประจวบเหมาะที่แฟนไปทำสัญญาเช่าพื้นที่เปิดร้านไว้แล้ว โดยเซอร์ไพรส์ทั้งคู่ ๕๕๕๕ นี่แหละจึงเป็นที่มาของร้านหม่าล่าสี่แยก

คำ่ว่า “หม่าล่า” แปลว่าเผ็ดชา ไม่ได้เป็นชื่อเครื่องเทศหรือเครื่องปรุงนะจ๊ะ แต่ว่าคนไทยนิยมเรียกอาหารประเภทนี้ว่า หม่าล่า นั่นเอง ที่จริงแล้วเครื่องเทศหลักที่ใช้ทำหม่าล่าก็คือ “กวาเจียว” ซึ่งเป็นเครื่องเทศที่ลักษณะคล้ายมะแขว่นบ้านเรา มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ มีรสเผ็ดและชา โดยทางร้านจะนำเข้าจากเมืองจีนโดยตรง และเอามาผสมกับเครื่องเทศอีกกว่า 10 ชนิดจึงได้เป็นซอสหม่าล่าสูตรเด็ดของทางร้าน

ระดับความเผ็ดของที่นี่สามารถสั่งได้นะจ๊ะ เผ็ดน้อย เผ็ดธรรมดา หรือเผ็ดมาก น้าอ้วนแนะนำว่าถ้าใครยังไม่เคยกินหม่าล่ามาก่อน แนะนำเผ็ดธรรมดา เอามาชิมก่อน แต่ถ้าอยากเพิ่มดีกรีความเผ็ดสั่งเพิ่มได้ว่าเอาเผ็ดขั้นมาก แต่บอกก่อนเลยว่าระดับที่เผ็ดมากคนชอบทานรสจัดอย่างน้าอ้วนยังยอมรับเลยว่ามันแซ่บจริงๆ

Share on Facebook

Tweet

Follow us