อาหารทะเลสดๆ สั่งตรงจากแหล่งประมง เอามาบรรจงปรุงเป็นเมนูสุดยอดให้ลูกค้าได้ชิมที่ สบายซีฟู๊ด

By น้าอ้วน 9 years ago

วันนี้จะเรียกว่าเอาใจแฟนๆ ชาวสันกำแพง และสารภีก็ว่าได้ เพราะวันนี้น้าอ้วนจะพามารูัจักกับร้านอาหารซีฟู๊ดร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ในแถวย่านสันกำแพง และสารภี ร้านอาหารซีฟู๊ดสบายๆ บรรยากาศดีๆ อย่าง “สบายซีฟู๊ด” หรือชื่อเดิมก็คือ สวนอาหารนอกเมืองซีฟู๊ด ร้านอาหารซีฟู๊ดที่บอกเลยว่าสะดวกสบายมากทั้งเรื่องที่จอดรถ บรรยากาศ อาหารและเครื่องดื่ม ล้วนแต่เป็นไฮไลท์ของร้านนี้ทั้งนั้น หลายคนอาจจะผ่านไป ผ่านมาแต่ยังไม่เคยเข้า เพราะกลัวมันแพง … วันนี้น้าอ้วนขออาสาไปพิสูจน์มาให้แล้วว่าร้านนี้เขาเป็นยังไงบ้าง

Shop_closed

ชื่อร้าน : สบายซีฟู๊ด
ที่อยู่ : 17/5 หมู่ที่ 2 บ้านร้องดอนชัย ตำบลป่าบง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.750196, 99.054466
ติดต่อ : 053-218347 , 093-1691984
เวลาเปิด–ปิด : 11:00 – 24:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review :

สบายซีฟู๊ด ร้านอาหารทะเลที่หาได้ไม่ยาก สำหรับคนที่พักอาศัยอยู่ย่านสันกำแพง หรือสารภี ก็คงคุ้นเคยกันดีกับถนนเส้นสันกำแพงสายใหม่ เอาง่ายๆ ถ้ามาจากสี่แยกพรอมเมนาด้า มุ่งหน้าตรงไปทางสันกำแพงสายใหม่ ไปเรื่อยๆ จนเจอตลาดเจริญ เจริญอยู่ด้านซ้ายมือ พอผ่านตลาดจะเจอสี่แยกไฟแดง (สี่แยกสันกลาง) ให้ชิดขวาเพื่อทำการเลี้ยวขวานะจ๊ะ พอเลี้ยวขวาเสร็จแล้วขับมาต่ออีกประมาณ 100 เมตร ร้านสบายซีฟู๊ด จะอยู่ด้านขวามือนั่นเอง

หรือเอาใจแฟนๆ ที่อยู่สันทราย แม่ริม ดอยสะเก็ดที่อยากมาร้านแห่งนี้ น้าอ้วนแนะนำให้ใช้ถนนเส้นสี่แยกแม่กวง มุ่งหน้ามาทางสันกำแพงนะจ๊ะ ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านสี่แยกท่ารั้ว ขับมาอีกผ่านสี่แยกหลุยส์ ผ่านสี่แยกสันกลาง เตรียมชิดขวาเพื่อเลี้ยวรถในอีก 100 เมตรจ้า

สิ่งแรกที่จะเห็นสำหรับร้านนี้ก็คือเรื่องของลานจอดรถ ที่กว้างขวางมากมาย เพราะแค่ที่จอดรถก็ปาไปครึ่งหนึ่งของร้านแล้ว ๕๕๕๕ (เห็นว่ามีพื้นที่ว่า 3 ไร่) พอจอดรถได้แล้วเดินเข้ามาในส่วนของร้าน โดยหลักๆ แล้วที่นี่จะแบ่งแยกกันออกเป็น 3 โซนก็คือ โซนในร่ม ซึ่งจะมีอาคารที่มีหลังคาเขาแยกกันเป็น 2 หลัง ซึ่งจุคนได้หลายร้อยคน , โซนที่สองจะเป็นโซนที่หลายคนชอบมาก เพราะน้าอ้วนสังเกตุแล้วว่าพอใครมาปุ๊บจะต้องเลือกโซนในสวนกันกว่า 90% ซึ่งโซนนี้จะเป็นโซนที่อยู่ในสนามหญ้า มีบ่อน้ำพุเพิ่มความสดชื่น และมีเวทีที่จะมีนักร้องมาเล่นเพลงสไตล์เพื่อชีวิตขับกล่อมตั้งแต่ช่วง 19:00 น. เป็นต้นไป และโซนสุดท้ายใครไม่อยากนั่งฟังเพลงเพื่อชีวิต แต่อยากที่จะร้องเอง เขาก็มีห้องคาราโอเกะให้ใช้บริการด้วย จำนวน 3 ห้อง ซึ่งจุคนได้ประมาณ 20 คนต่อห้อง และห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ที่จุคนได้เป็นหลายร้อยคน ซึ่งอัตราค่าบริการของห้องคาราโอเกะจะตกอยู่ที่ 120 บาทต่อชั่วโมง หรือใครอยากจัดเต็มก็เหมาเลย 500 บาทต่อห้อง ร้องเพลงกันได้ตั้งแต่ 17:00 – 24:00 น. ตั้งแต่ร้านเปิดยันร้านปิดเลยทีเดียว

และที่สำคัญคุณพ่อ คุณแม่ท่านไหนที่มีลูกเล็กๆ วัยกำลังซนมาด้วย ที่นี่เขาก็มีพื้นที่เอาใจเด็กๆ ไว้ให้เล่นซนด้วยกับบ้านลมขนาดใหญ่ ที่เชื่อว่าคุณหนูๆ ถ้าได้เข้าไปเล่นแล้วจะต้องเพลิดเพลินอย่างแน่นอน

พูดถึงรายการอาหารที่นี่ก็เน้นอาหารทะเลนะจ๊ะ ทะเลตามสไตล์ไทยๆ แต่ถ้าใครที่พาชาวต่างประเทศมาด้วย เขาก็อาจจะมีเมนูที่น่าจะถูกปากชาวต่างประเทศให้บริการเช่นกัน วัตถุดิบบางตัวเขาจะขายกันตามน้ำหนัก เช่นกุ้ง ปู ปลา (บางชนิด) ก็จะขายตามน้ำหนักซึ่งจะระบุไว้ในเมนูเรียบร้อย โดยน้ำหนักโดยเฉลี่ยของเมนูแต่ละจานก็จะราวๆ 6-7 ขีดต่อจาน ใครสั่งอะไรก็ลองเอาราคาคูณเข้าไป จะได้ทราบว่าจานนี้จะต้องจ่ายประมาณเท่าไรนะจ๊ะ

ถ้าพร้อมแล้วเราก็มาลุยกันเลยกับพาเหรดอาหารทะเลสดๆ ที่สั่งตรงมาจากแหล่งประมงชั้นนำ ทำให้ได้วัตถุดิบที่สดและอร่อย เมนูแรกอันนี้ไม่ได้มาจากทะเล ๕๕๕๕ มาจากน้ำจืดบ้านเราเนี่ยแหละ ” ปลาช่อนหลงบึง ” (219 บาท) ปลาช่อนตัวโตเอามาบั้งเพื่อให้เวลาเอาไปทอด ปลาจะได้สุกเสมอกัน เมื่อทอดเสร็จก็ราดด้วยน้ำยำออกแนวอีสานๆ ทำให้น้าอ้วนได้อารมณ์แบบว่ากำลังกินปลาช่อนน้ำตก น้ำยำรสชาติเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ผสมผสานกันมา เวลาตักเนื้อปลาช่อนมาแล้วก็อย่าลืมน้ำยำด้วยนะจ๊ะ แกล้มด้วยผักสดที่เสิร์ฟมาเต็มจาน น้าอ้วนว่าอร่อยดีและมีประโยชน์สุดๆ

ทะเลย่างรวม (599 บาท) รักพี่ เสียดายน้อง กุ้งก็อยากกิน ปูก็อยากทาน หอยก็อยากแกะ ถ้าเป็นแบบนี้น้าอ้วนแนะนำเซ็ทนี้เลย สั่งครั้งเดียวได้ทานครบทุกสัตว์น้ำ ในเมนูนี้จะประกอบไปด้วยกุ้งเผา , หมึกเผา, ปูม้าเผา , ปลาลวก , หอยนางรมสดตัวใหญ่ , หอยแครงเผา , หอยเชลล์เผา และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์เผา บอกเลยว่าจานนี้อิ่มเอมเปรมปรีย์ทุกคนแน่นอน

ถ้าฟินกับหอยนางรมสดตัวใหญ่ในเซ็ททะเลย่างรวมไม่พอ (ถ้าใครสั่งมานะ ๕๕๕) แล้วอยากสั่งเพิ่มก็ได้ ที่นี่เขาก็มีหอยนางรมสดพร้อมเครื่องเคียง ในราคาตัวละ 70 บาทสำหรับตัวเล็กและ 90 บาทสำหรับตัวใหญ่ ในภาพเป็นไซส์เล็กนะจ๊ะ เพราะไซส์ใหญ่จะไม่มีตลอด (รบกวนสอบถามกับทางร้านโดยตรง) หอยนางรมจากสุราษฯ ไซส์ใหญ่ เนื้อด้านในแน่น อวบอิ่ม ขาวจั๊วน่าเจี๊ยะ เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียงไม่ว่าจะเป็นพริกขี้หนูซอย กระเทียมหั่น หอมแดงซอย มะนาว หอมแดงคั่ว น้ำพริกเผา กระถินและน้ำจิ้มรสแซ่บ …. บอกเลยว่ามันสดดีจริงๆ ถ้าใครสั่งรับรองได้คึกคักแน่นอน ๕๕๕๕

ปลากะพงซอสมะขาม (260 บาท) ปลากะพงตัวใหญ่เอาการ โดนแล่เนื้อออกมาแล้วเอามาทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟแบบให้ลูกค้าได้ตักทานแบบสะดวกและราดด้วยซอสที่ค่อนข้างแปลก ตอนแรกน้าอ้วนดูจากหน้าตาแล้วน่าจะเป็นซอสแนวน้ำยำ แต่พอได้ทานแล้วมันรู้สึกถึงกลิ่นของมะขามที่แอบซ่อนอยู่ จะว่าเป็นน้ำยำสามรสก็ไม่ใช่ จะเป็นซอสมะขามเลยก็ไม่เชิง เป็นเมนูที่เรียกความฉงนได้เป็นอย่างดี แต่บอกเลยว่าทานกับข้าวสวยร้อนๆ มันโอมาก

กุ้งทรงกลด (300 บาท) เมนูที่เรียกได้ว่าทีมน้าอ้วนได้รับเกียรติ Exclusive สุดๆ เพราะเป็นโต๊ะแรกที่เชฟเขาได้เสิร์ฟเมนูนี้มาให้ได้ลองชิม ตอนแรกก็แอบตื่นเต้นว่ามันจะออกมาหน้าตาเป็นยังไง สุดท้ายมันคือกุ้งผัดซอสเห็ดหอม เมนูที่เรียกว่าฟิวชั่นออกแนวอาหารจีนเล็กน้อย เนื้อกุ้งที่สดและแน่นกรอบ เอาไปผัดกับผักต่างๆ และพระเอกที่ขาดไม่ได้คือเห็ดหอม และซอสต่างๆ ที่ผัดออกมาแล้วรสชาติกลมกล่อม รสชาติไม่ได้เด่นไปในทางใด ทางหนึ่ง อารมณ์เหมือนกินอาหารจีนเลยแหละ เมนูนี้ใครสั่งมาลองทานอย่าลืมข้าวสวยร้อนๆ ด้วยนะจ๊ะ มันเข้ากันมาก

ปูดำผัดเผ็ด (ขายตามน้ำหนัก 95 บาทต่อขีด) ชื่อปูดำ แต่พอโดนไฟแล้วกลายเป็นปูแดงซะนี่ จานนี้จัดมาเต็มที่ 2 ตัวเหนาะๆ ปูดำไซส์ใหญ่ที่เอาไปผัดกับเครื่องแกงออกมาแนวผัดเผ็ด น้ำซอสเผ็ด หวาน มัน และหอมกลิ่นเครื่องแกงมากๆ น้าอ้วนชอบเม็ดพริกไทยสดที่แทรกเข้ามาด้วยทำให้ได้อารมณ์ของผัดเผ็ดอย่างแท้จริง ทั้งเนื้อปูในส่วนของก้ามปู หรือกรรเชียงปูมันก็รู้สึกถึงความสดและแน่นดีมากๆ สรุปจานนี้ถึงแม้จะกินยากและต้องเลอะมือไปหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่ากับการที่ต้องเสียสละมือจริงๆ

ปลาซาบะย่างซีอิ๊ว (160 บาท) ออกทะเลไปแถวญี่ปุ่นเพื่อไปจับปลาซาบะมาให้เราๆ ได้ทาน ปลาซาบะเนื้อแน่น น้าอ้วนเชื่อว่าหลายคนก็คงเคยได้ทานกันมาบ้างแล้ว ปกติเราจะเห็นเมนูปลาซาบะย่างซอสเทอริยากิ ปลาซาบะย่างเกลือ หรือย่างซีอิ๊วดำๆ แต่นี่คือปลาซาบะย่างซีอิ๊วเช่นกัน แต่ซีอิ๊วที่ราดมานั้นมันแตกต่างมาก เพราะรสชาติของซอสซีอิ๊วมันกลมกล่อม บอกไม่ถูกต้องถ้าอยากรู้คงต้องมาลองเอง (กินปลาแล้วดี มีประโยชน์นะจ๊ะ ห้ามลืมสั่งกันเด็ดขาดนะ)

ซี่โครงหมูบาร์บีคิว (250 บาท) ซี่โครงหมูที่ถ้าใครโชคดีจะได้เห็นการแสดงกายกรรมไฟลุก ๕๕๕๕ ซี่โครงหมูบาร์บีคิวกระทะนี้เสิร์ฟกันมาแบบร้อนๆ เนื้อติดซี่โครงที่ไม่ได้เรียกว่าเป็นซี่โครงอย่างร้านอื่นๆ เพราะถ้าเป็นร้านอื่นๆ นี่กระดูกซี่โครงนี่กินไปแล้วครึ่งชิ้น แต่ร้านนี้มีซี่โครงพอเป็นพิธี นอกนั้นเนื้อทั้งนั้นจ้าาาาา พร้อมทั้งกระดูกอ่อนกรุบกรอบ ที่แอบมีแทรกเข้ามาด้วย (เสร็จน้าอ้วน ๕๕๕) ความนุ่มของเนื้อซี่โครงที่นี่มันไม่ได้ร่อนเหมือนร้านอื่นๆ มันยังพอมีรสสัมผัสให้ได้เคี้ยวกันสนุกฟัน และซอสบาร์บีคิวที่ราดมาด้วยน้ำรสชาติก็โอเคเลยนะ เขาเสิร์ฟมาพร้อมกับเฟร้นช์ฟรายด์ งานนี้ซอสมะเขือเทศไม่ต้อง จิ้มกับซอสบาร์บีคิวนั่นเลย จะบอกว่าฟินกว่ากันเยอะ

นอกจากนั้นที่นี่เขาก็ยังมีเมนูเครื่องดื่มต่างๆ อีกมากมาย ทั้งแบบที่มีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น เหล้าปั่น ค็อกเทล และบุฟเฟ่ต์เครื่องดื่มสีทองมีฟองสีขาว หลากหลายสัตว์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นคชสาร คชสีห์ ฯลฯ ในช่วงเวลา 18:00 – 19:30 น. รายละเอียดสอบถามได้โดยตรงกับทางร้านเลยนะจ๊ะ

เปลี่ยนบรรยากาศออกมาชานเมือง สัมผัสกับร้านอาหารที่บรรยากาศโล่ง โปร่งสบาย และอารมณ์ทานข้าวกันในสวนหย่อมเล็กๆ มีดนตรีเพื่อชีวิตขับกล่อมบรรเลง อาหารทะเลสดๆ ที่สั่งตรงมาจากแหล่งประมงชื่อดังทั่วประเทศ จังหวัดไหนวัตถุดิบตัวใดมีชื่อเสียง ที่นี่เขาก็สั่งมาเพื่อเอามาบริการกับลูกค้าของ สบายซีฟู๊ด อาหารรสชาติดี ราคาประหยัด เจ้าตัวน้อยก็เพลินกับเครื่องเล่นที่ทำให้สนุกสนานและไม่เบื่อ คุณพ่อ คุณแม่ก็มีเวลานั่งทานอาหารได้อย่างเต็มที่และสบายใจ