ตกแต่งสวนสวยสไตล์ในบ้าน ร้านอาหารร่มรื่นรู้สึกสุขสดชื่นเมื่อได้มาเยือน 49 Garden Cafe

วันเวลาผ่านไปเป็นปี หลังจากที่น้าอ้วนเคยแวะมารีวิวร้านอาหารร้านหนึ่งที่อยู่ถนนราชพฤกษ์ (ถนนเส้นที่จะไปพืชสวนโลก) นั่นก็คือร้าน 49 Garden Cafe นั่นเอง วันนี้น้าอ้วนทราบว่าทางร้านเขามีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งเรื่องของบรรยากาศที่ได้ตกแต่งหรือเพิ่มเติมอะไรมากขึ้น รวมไปถึงอาหารที่มีเมนูใหม่ๆ รสชาติเด็ดๆ มาให้ลิ้มลองกันใหม่ ดังนั้นน้าอ้วนก็จึงไม่รอช้า หาฤกษ์งาม ยามดีแวะเวียนไปที่นี่อีกครั้ง

ชื่อร้าน : 49 Garden Cafe
ที่อยู่ :  70/2 หมู่ที่ 7 ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.731351,98.941475
ติดต่อ : 088 267 7354 , https://www.facebook.com/49GardenCafe
เวลาเปิด–ปิด : 09:00 – 22:00 น.
Wongnai Review : http://www.wongnai.com/restaurants/150718Nb-49-garden-cafe

ถ้าอยากมานี่เลยร้านเขาตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ ถ้ามาจากในเมืองนะจ๊ะก็ตรงไปทางหางดง เลยสี่แยกแม่เหียะมานิดหนึ่ง ก็จะเจอสามแยกที่มีหมู่บ้านเวิร์ลด์คลับแลนด์อยู่ ให้เราเลี้ยวขวาเพื่อมุ่งหน้าตรงไปทางพืชสวนโลก แต่เผอิญว่าร้านนี้อยู่ด้านขวามือ คงต้องยูเทิร์นกลับรถมาสักเล็กน้อย จะเป็นร้านเล็กๆ ครับอยู่ก่อนถึงข้าวเม่า ข้าวฟ่าง (แต่ถ้าใครมาจากทางคันคลองชลประทานก็ไม่ต้องยูเทิร์นเลย ตรงมาโลด) ลานจอดรถอยู่ด้านหลัง แต่ถ้าใครอยากจะจอดชิดฟุตบาทก็ย่อมได้ ถนนเส้นนี้จอดได้ตลอดเวลาจ้า

บรรยากาศของร้านที่เปลี่ยนไปเท่าที่น้าอ้วนสังเกตุก็คงเป็นระเบียงหญ้าเทียมที่อยู่บริเวณด้านหน้าของร้าน และจะมีผนังน้ำตกอยู่บริเวณด้านข้างของร้าน และมีอ่างบัวเล็กๆ เพิ่มความสดชื่นให้กับทางร้าน อีกทั้งเหมือนเดิมที่นี่ยังคงคอนเซ็ป Garden ที่ไม่เพียงจะร่มรื่นเฉพาะร้านเท่านั้น เขายังมีร้านขายต้นไม้ ดอกไม้เล็กๆ ที่อยู่บริเวณข้างร้านอีกด้วย ที่นี่จะมีทั้งไม้ยืนต้นใหญ่ๆ และไม้กระถางให้เลือกช้อปกันหลากหลายพันธุ์ ราคาเริ่มต้นไม่แพงหลักสิบ ไปจนถึงหลักร้อย ซึ่งน้าอ้วนก็ได้ติดไม้ติดมือมาด้วยแหละ เอาไปแขวนไว้ที่บ้านเรียบร้อยสวยเชียว

หลักๆ เมนูอาหารที่นี่เขาจะเน้นแนวฟิวชั่นเป็นหลัก แต่บางเมนูก็จะชูวัตถุดิบหรือสัญชาติอย่างชัดเจน เช่นไทยหรือฝรั่งเป็นต้น ในวันนี้น้าอ้วนก็มีทั้งแบบที่เป็นฝรั่งไปเลยและแบบที่เป็นฟิวชั่นมาแนะนำกันอยู่ 7 เมนู บางตัวนี่บอกเลยว่าคนไทยๆ จะต้องชอบมากเพราะมันมีอะไรเด็ดๆ ซ่อนอยู่

การ์เด้นทะเลกรอบ (149 บาท) อาหารทะเลที่นำไปทอด ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หมึก หอย ฯลฯ แต่ไม่ได้ทอดให้กรอบทั้งหมด จะมีลักษณะเป็นกรอบนอกนุ่มใน หลังจากนั้นก็เอามาคลุกเคล้ากับเครื่องยำต่างๆ โดยจะเน้นเป็นพวกน้ำพริกเผาเป็นหลักเพื่อให้ได้สีแดงแสบสัน รสชาติออกมาแบบเปรี้ยว เผ็ด เค็ม และมีความหวานของน้ำพริกเผาแทรกเข้ามาด้วย จานนี้จะเรียกว่ารสจัดจ้านเหมือนสีสันของมันไหมก็ไม่เชิง ผู้ใหญ่ทานเพลิน เด็กโตก็ทานได้ ข้าวสวยร้อนๆ สักจานน้าอ้วนว่ามันคงเข้ากันดี

แซลมอนซอสการ์เด้น 49 (339 บาท) ปลาแซลมอนชิ้นโตที่เชฟตั้งใจเอาไปย่างให้ด้านนอกกรอบ แต่ด้านในยังคงความชุ่มฉ่ำของเนื้อปลาได้เป็นอย่างดี (ไม่ได้ถึงขนาด well done) ถ้าเป็นภาษาสเต็กก็คงเรียกว่าย่างแบบ Medium พร้อมราดมาด้วยซอสสูตรเด็ดของทางร้านเมื่อซอสผสมผสานกับเนื้อปลาแล้วรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เข้ากัน ต้องมาลองชิมถือเป็นเมนูเพื่อสุขภาพด้วยนะ กินปลาแล้วมีประโยชน์

สปาเก็ตตี้คาร์โบนาร่าไข่กุ้ง (169 บาท) เมนูที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ไปร้านอาหารฝรั่งหรืออาหารฟิวชั่นไหนๆ ก็จะต้องมีเมนูนี้พร้อมให้บริการแน่นอน จุดเด่นที่ทำให้ร้านนี้แตกต่างก็คงเป็นเรื่องของความเข้มข้นของครีมซอสที่ทางร้านใช้ เพราะมันจะข้น รสชาติมันและกลมกล่อม รวมไปถึงชีสที่นำไปคลุกเคล้าเมื่อเวลาที่ผัดอยู่ในกระทะ มันทำให้ครีมและชีสผสมผสานกันได้เป็นอย่างดี และไม่ลืมที่จะใส่กุ้งและเห็ดเข้าไปด้วย ก่อนเสิร์ฟจะท๊อปปิ้งด้วยไข่กุ้งสีสันสดใสเข้าไปสักนิด ถือเป็นเมนูที่ครบเครื่องเป็นอย่างดี

อกเป็ดฟองนม (199 บาท) เนื้ออกเป็ดชิ้นโตๆ นุ่มๆ แต่มีความเหนียวนิดๆ พอให้เคี้ยวสนุกฟัน ที่ราดด้วยซอสสูตรพิเศษ ที่เชฟรังสรรค์เมนูเอากาแฟมาเป็นวัตถุดิบในการทำซอส จึงทำให้ซอสที่ราดเนื้ออกเป็ดมานั้นมีรสชาติขมๆ และมีกลิ่นของกาแฟเล็กน้อย และมีรสชาติความหวานของน้ำผึ้งผสมอยู่ด้วย ตอนแรกที่น้าอ้วนชิมครั้งแรกก็งงว่าเฮ้ยทำไมมันขมๆ แต่พอได้คุยกันก็พบว่าเป็นรสชาติของกาแฟนั่นเอง และที่สำคัญเสิร์ฟมาพร้อมกับมันบดก้อนใหญ่มาก เชื่อเลยว่าจานนี้ถ้าใครกินแล้วไม่อิ่ม บอกเลยเอาหัวเป็นประกัน ๕๕๕๕๕

เส้นเย็นไข่ออนเซ็น (119 บาท) เส้นบะหมี่เหลืองเสิร์ฟมาแบบเย็นๆ ท๊อปปิ้งด้วยไข่ออนเซ็นที่พร้อมจะโดนเจาะแล้วให้ไข่แดงไหลเยิ้มออกมา ยังไม่พอแค่นั้นเขายังเสิร์ฟคู่กับหมูบดชีส ที่เป็นเนื้อหมูบดเอามาปั้นให้เป็นก้อนแล้วสอดไส้ด้วยชีส ชุบเกล็ดขนมปังแล้วทอดจนได้หมูบดชีสกรอบนอกเยิ้มข้างใน เวลาทานก็ให้ราดซอสโชยุไปบนเส้นบะหมี่เลย จะได้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนทานโซบะเย็นๆ อย่างไงอย่างนั้นเลย

แซลมอนโรลยำไทย (129 บาท) เนื้อปลาแซลมอนที่เอาไปพันกับแตงกวา และราดด้วยซอสต้มยำที่สีสันจัดจ้าน แต่รสชาติก็ไม่ได้จัดเว่อร์อะไรเหมือนสีสันของมัน จะออกแนวเปรี้ยวๆ เค็มๆ เผ็ดและหวานหน่อยๆ ซึ่งในซอสยำไทย (ตามชื่อที่ร้านเรียก) จะมีสมุนไพรไม่ว่าจะเป็นตะไคร้ มะนาว ใบมะกรูด มะเขือเทศ ล้วนแต่เป็นพืชสมุนไพรดีๆ ทั้งนั้น

ข้าวอบหม้อดินสไปซี่ซีฟู๊ด (149 บาท) เมนูที่เสิร์ฟมาด้วยภาชนะแปลกตา ด้านในก็จะบรรจุด้วยข้าวสวยร้อนๆ สีสันจัดจ้านแสบตา ๕๕๕๕ แต่ไม่ต้องกลัวว่ารสชาติจะจัดจ้านนะจ๊ะ แต่กลับตรงกันข้ามเป็นข้าวสวยที่เอาไปหุงด้วยกะทิ จนได้กลิ่นและรสชาติของกะทิชัดเจน แต่ไม่มีความเผ็ดแม้แต่น้อย เพราะว่าที่เห็นสีเข้มๆ นั่นเชฟเขาใช้น้ำพริกเผา แครอท มะเขือเทศ ซึ่งล้วนแต่เป็นวัตถุดิบสีเข้มๆ กันทั้งนั้นเอาไปผัด จนได้เป็นสีที่แสบสันดีจริงๆ พร้อมด้วยอาหารทะเลต่างๆ เช่นกุ้ง หมึก หอยแมลงภู่ก็เสิร์ฟมาเต็มชาม บอกเลยว่าถ้าทานหมดนี่รับประกันว่าอิ่มแปร้แน่นอน

นอกจากอาหารที่น้าอ้วนเอามาแนะนำวันนี้ เขาก็ยังมีอีกหลากหลายเมนูไว้ให้เลือกทาน น้าอ้วนชอบเมนูร้านนี้ดีเพราะจะเป็นเมนูที่มีรูปภาพประกอบด้วย เพราะบางเมนูเราอาจจะนึกหน้าตามันไม่ออกว่าจะเป็นยังไง ถ้ามีรูปมันก็เป็นการที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งใครอยากจะนั่งด้านนอก หรือด้านข้าง หรือด้านใน ทุกจุดของร้านนี้ก็จะร่มรื่นสมกับชื่อ 49 Garden Cafe จริงๆ แต่ก่อนกลับแนะนำว่าอย่าลืมลงไปดูต้นไม้นะจ๊ะ เผื่ออาจจะมีชอบต้นไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถซื้อกลับบ้านไปปลูกได้เลย

Share on Facebook

Tweet

Follow us