Posted On
อาหารระดับโรงแรม 5 ดาวเสิร์ฟในโรงแรมบูทิคสไตล์หรู ติดริมน้ำปิง แต่ราคาที่ทุกคนเอื้อมถึง The Vorra Bistro
รีวิวใหม่จากน้าอ้วน วันนี้น้าอ้วนมีโอกาสได้แวะเวียนไปเที่ยวโรงแรมที่สวยหรูของเชียงใหม่แห่งหนึ่ง บอกเลยว่าเป็นโรงแรมที่ใครได้เข้ามาแล้วจะต้องรู้สึกทึ่งในความสวยงามของการออกแบบและตกแต่ง และอีกทั้งโรงแรมนี้ยังได้รางวัลระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค อย่าง Asia Pacific Property Award 2015-2016 , Southeast Asia Property Award 2014 และในระดับประเทศอย่าง Thailand Property Award 2014 ก็ได้รับรางวัลมาแล้ว จะเห็นได้ว่าที่นี่รางวัลการันตีเพียบ ถ้าอยากว่าเป็นโรงแรมไหน ต้องรีบติดตามมาด่วนจ้า
โรงแรมที่น้าอ้วนพูดถึงก็คือ The Chiang Mai Riverside โรงแรมที่ตั้งอยู่ริมน้ำปิง ฝั่งป่าแดด เส้นทางมาโรงแรมก็ง่ายมาก เริ่มสะพานข้ามน้ำปิงตำรวจภูธรภาค 5 ให้ขับเลียบน้ำปิงมาทางป่าแดดนะจ๊ะ จากสะพานฯ ก็ขับมาประมาณ 2.5 กิโลเมตร มองด้านซ้ายมือก็จะเห็นโรงแรมและลานจอดรถกว้างๆ ตั้งอยู่
ถ้าใครขับรถผ่านแล้วหันมามองตัวโรงแรม ก็อาจจะเห็นว่าไม่เห็นมีอะไรโดดเด่นเลย รู้สึกเฉยๆ มากเป็นเพียงตึกสูงๆ ตั้งอยู่เท่านั้น แต่ถ้าได้จอดรถ แล้วเดินเข้ามาบริเวณโรงแรมจะต้องเปลี่ยนใจทันที เพราะว่าความสวยงามเขาแอบซ่อนไว้ข้างใน ซึ่งด้านในโรงแรมจะเป็นยังไง เดี๋ยวช่วงท้ายน้าอ้วนจะพาไปเยี่ยมชมให้ทั่วโรงแรมนะจ๊ะ แต่ตอนนี้เรามาแวะหาอะไรกินกันก่อน ที่ห้องอาหารประจำโรงแรม ที่ชื่อว่า The Vorra Bistro นั่นเอง
ที่ The Vorra Bistro นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนก็คือบริเวณด้านนอกที่เป็นลักษณะ Open Air วันที่น้าอ้วนไปเป็นวันที่ฝนตกในช่วงเช้า และหยุดตกในช่วงบ่าย จึงทำให้อากาศบริเวณด้านนอกเย็นสบาย และมีลมพัดเย็น แต่ถ้าใครอยากได้ห้องแอร์เย็นๆ ก็เชิญบริเวณด้านในได้ ห้องแอร์เย็นสบาย สไตล์การตกแต่งเน้นโทนสีขาวเป็นหลัก สะอาดตาและดูหรูหรา
ต้องพูดถึงคอนเซ็ปของอาหารที่นี่ก่อน เพราะได้พูดคุยกับทางเจ้าของโรงแรมมาแล้ว ก็รู้สึกว่าน่าสนใจดี ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นห้องอาหารของโรงแรม แต่ทางเจ้าของก็ไม่อยากให้ลูกค้าคิดว่ามันเป็นอาหารที่แพง หรือต้องหรูหรา (เพราะโรงแรมนี้เท่าที่น้าอ้วนดูด้วยสายตา ก็ระดับ 5 ดาวเลยแหละ) ที่นี่จะไม่เน้นแต่งจานให้ดูอลังการเว่อร์วัง แต่ให้มีกลิ่นอายของความเป็น Homemade และสิ่งที่เน้นคือคุณภาพและความสด สะอาดของวัตถุดิบ เชฟที่นี่ก็ผ่านงานจากโรงแรมระดับ 5 ดาวทั้งหมด (เห็นว่ามีเชฟถึง 6 คนด้วยกัน) ดังนั้นรสชาติบอกเลยว่าใช้ได้แน่นอน
Rimping Rocket Salad (190 บาท) สลัดผักสด ที่เอาผักสดนานาชนิดจากโครงการหลวงและแน่นอนผักร้อคเก็ตที่มีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัวมาผสมด้วยกัน ด้วยความสดและกรอบของผักจึงทำให้เวลากินได้รับความสดชื่น เมนูสลัดนอกจากความสดของผักแล้วอีกอย่างที่จะขาดไม่ได้คือน้ำสลัด น้ำสลัดสูตรเฉพาะของเจ้าของที่เอาบัลซามิกไปเคี่ยวผสมกับผลไม้อบแห้ง เช่น องุ่น สตรอเบอรี่ อินทผาลัม ทิ้งไว้ 1 คืน ทำให้ได้น้ำสลัดที่มีกลิ่นหอมของบัลซามิก และรสชาติเปรี้ยวอมหวานที่ได้จากผลไม้อบแห้ง รวมถึงความหนืด และโรยทับด้วยวอลนัท กับพาเมซานชีส บอกเลยว่าถึงแม้จะแลดูเป็นเมนูสลัดธรรมดาๆ แต่รสชาติต้องยกนิ้วให้จริงๆ
Famous Champignon Dip (190 บาท) เมนูเรียกน้ำย่อย สั่งมากินตอนที่เมนูหลักจะมาก็โอเคนะ ขนมปังอบกรอบที่เสิร์ฟกันมาเป็นแผ่นเล็กๆ เสิร์ฟคู่กับดิปที่ทำจากเห็ดแชมปิญองสับ แล้วราดเพิ่มด้วยน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล หอมมากมาก (ใส่น้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล ด้วยราคานี้ได้ น้าอ้วนว่าสุดยอด) รสชาติกลมกล่อม เนื้อเห็ดเต็มๆ เวลากินก็เอาดิปเห็ดแชมปิญองท๊อปปิ้งบนแผ่นขนมปังกิน เรียกได้ว่าเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่ชิ้นเดียวคงไม่พอ
Sophisticated Wrap (220 บาท) อย่าเพิ่งกลัวว่าจะเป็นเมนูที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรตามชื่อเมนู แต่ในความเป็นจริงแล้วเมนูนี้แสนจะง่ายมาก แต่ที่ตั้งชื่อว่า Sophisticated อาจจะเป็นเพราะเครื่องเคียงที่เสิร์ฟมามันเยอะมาก ๕๕๕๕ ผักนานาชนิด เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพ นอกจากผักแล้วเซ็ทนี้ก็จะมีแป้งปอเปี๊ยะแบบเวียตนาม (เหมือนแป้งปอเปี๊ยะที่กินกับแหนมเนือง) เสิร์ฟพร้อมหมูบดทรงเครื่อง รสชาติกลมกล่อม และน้ำจิ้มสามรสที่แซ่บเอาใจคนชอบจัดจ้าน เวลากินก็เอาแป้งปอเปี๊ยะไปแช่น้ำให้นิ่ม ใส่ผักตามที่ต้องการ ใส่หมูบด และราดด้วยน้ำจิ้มลงไป ห่อให้เป็นชิ้นพอคำ แล้วเอาเข้าปากทันที ….. รสชาติเป็นยังไงอธิบายไม่ถูก ต้องมาลองชิมเอง แล้วจะติดใจ
Larb Salmon (230 บาท) เมนูนี้คงเป็นอะไรที่คนไทยคุ้นเคย ๕๕๕ ใครชอบรสจัดจ้านอันนี้ต้องขอบอกด้วยความชอบส่วนตัวเลยว่าต้องสั่ง ปลาแซลมอลที่เอาไปย่างจนสุกกำลังดี คลุกเคล้ากับเครื่องยำสไตล์ลาบแบบอีสาน จะจนได้เป็นเมนูที่แซ่บจัดจ้าน และอร่อยด้วยรสชาติของเนื้อปลาที่สดใหม่ จะกินเป็นกับข้าวหรือกับแกล้มก็อร่อยนะจ๊ะ
Tom Yum Goong (250 บาท) ต้มยำกุ้ง เมนูสุดฮิตสำหรับฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองไทย ใครมาก็ต้องสั่ง แต่คนไทยก็สั่งได้นะจ๊ะ เพราะเชื่อว่าเป็นเมนูสุดโปรดของใครหลายๆ คน กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ๆ แหวกว่ายอยู่ในน้ำซุปต้มยำกุ้งที่เข้มข้น จัดจ้าน (เบาๆ) แต่ถ้าใครอยากได้จัดจ้านขึ้นไปอีกแจ้งทางห้องครัวเป็นพิเศษได้เลย
Rolled Green Chicken Curry Fried Rice (190 บาท) แปลเป็นไทยได้ว่าข้าวผัดแกงเขียวหวานม้วน เมนูสไตล์ไทยแต่ตกแต่งหน้าตาเป็นแนวญี่ปุ่น ข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่เครื่องแกงเข้มข้น จนได้เป็นข้าวผัดที่รสชาติกลมกล่อม ห่อด้วยสาหร่ายญี่ปุ่นทำเป็นแบบ Sushi Roll เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงหลากหลายมาก แครอท ถั่วฝักยาว กุ้งแห้ง ไข่เค็ม พริกแห้งทอด และราดซ้ำด้วยน้ำแกงเขียวหวานเพิ่มอีกรอบเพื่อความเข้มข้นสุดยอด
Pestoloppi (250 บาท) เมนูชื่อแปลก ถามเจ้าของร้านบอกว่ามาจากซอสเพสโต้ บวกกับท็อปปิ้งเป็นสแกลลอปหรือหอยเชลล์นั่นเอง ก็เลยตั้งชื่อเก๋ๆว่า Pestoloppi จานนี้ใช้เส้นเพนเน่ที่ลวกสุกตามสไตล์ Al Dente (คือลวกไม่สุกเกินแบบไทย แต่จะมีความแข็งและเหนียวอยู่ตามสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ) เอามาผัดกับซอสเพสโต้ (ที่นี่ใช้ซอสโหระพาปั่นกับถั่ววอลนัท) ที่ทำสดๆบอกเลยว่ากลิ่นและรสชาติเข้มข้นมาก และไฮไลท์ที่ใครหลายๆ คนคงถูกใจคือหอยเชลล์ตัวใหญ่ๆ เสิร์ฟกันมาเลย 2 ฝา อิ่มเอมกับเมนูทั้งรสชาติของเส้นเพนเน่ที่เข้มข้นและหอยเชลล์ตัวใหญ่ๆ สดและแน่นมาก
Khan Tok (ขันโตก 490 บาท) แขกบ้านแขกเมืองมา ก็ต้องต้อนรับด้วยอาหารพื้นบ้านเมืองเหนือ ขันโตกเซ็ทนี้ถือว่าเป็นตัวแทนของอาหารเหนือได้อย่างครบถ้วน น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แคบหมู หมูยอทอด แหนมทอด ลาบหมู แกงฮังเล และข้าวเหนียวห่อใบตอง พร้อมกับผักสดออร์แกนิค รสชาติตามแบบฉบับออริจินอลเมืองเหนือจริงๆ
ปิดท้ายเมนูของหวานยอดฮิตในช่วงฤดูนี้ Khao Niew Mamuang (ข้าวเหนียวมะม่วง 190 บาท) ข้าวเหนียวมูนที่เอาไปหุงกับกะทิ จนได้ข้าวเหนียวที่ไม่เหนียวเกินไปและหอมหวานกลิ่นกะทิ เสิร์ฟพร้อมกับมะม่วงน้ำดอกไม้ที่สุกงอม หวานหอมกำลังดี หั่นเป็นชิ้นพอคำ และอย่าลืมราดน้ำกะทิที่หอมกลิ่นควันเทียน ถือเป็นเมนูปิดท้ายความอร่อยที่ลงตัวเป็นอย่างดี
เห็นรีวิวร้านอาหารกับเรียบร้อยแล้วใช่ไหมจ๊ะ อิ่มข้าวกันแล้วน้าอ้วนจะพามาท่องทั่วโรงแรมนะจ๊ะ ต้องบอกก่อนว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นระดับ Luxury Boutique Hotel ดังนั้นความอลังการเว่อร์วัง และความสวยงามที่นี่พร้อมมาก อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และที่สำคัญห้องพักทุกห้องของที่นี่ เป็นสไตล์ Suite (คือแบ่งห้องนอนออกจากห้องนั่งเล่น) เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นเนี้ยบมาก และมีห้องครัวจริงๆที่ใช้ผลิตภัณฑ์ระดับโลกอย่าง Franke ด้วย เรียกได้ว่าครบองค์ประกอบจริงๆ
ห้องพักที่น้าอ้วนจะพามาชมวันนี้คือห้อง VORRA-THITA (ห้องพักที่นี่จะขึ้นต้นชื่อด้วยคำว่า Vorra หรือ วร- ทุกห้อง) เป็นห้องพักแบบ Suite ที่มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และห้องพักผ่อน และครัวเล็กๆ จะสวยงามแค่ไหนลองมาดูกันดีกว่า
ปอลอ โทรทัศน์ (Smart TV) ห้องนี้มีทั้งหมด 3 เครื่อง (ห้องนอน ห้องละ 1 เครื่องและห้องนั่งเล่นอีก 1 เครื่อง ซึ่งเชื่อมต่อกับ Apple TV ด้วย) เตียงนอนใช้ของ Omazz (นุ่มมาก ราคาหลายหมื่นเลย) , เจลอาบน้ำและแชมพู ใช้ของ Molton Brown จาก London หอมมากกกก ถ้าใครชอบผลิตภัณฑ์ตัวไหนก็ซื้อกลับบ้านได้นะจ๊ะ (ได้ราคาดีกว่าซื้อจากห้างหรูเยอะเพราะทางโรงแรมเป็นตัวแทนโดยตรงจ๊ะ)
และสำหรับแขกที่เข้าพักทุกท่านเขาจะมีบริการอาหารเช้าให้ด้วยนะจ๊ะ เลือกจากเซ็ทเมนูที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ได้เลย บอกพนักงานว่าให้เสิร์ฟกี่โมง แล้วพนักงานจะมาจัดโต๊ะให้เลย มาพักที่นี่แล้วรู้สึกเป็นราชาเลยทันที ๕๕๕๕ ถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ หรือมีแขกบ้านแขกเมืองที่ต้องการจะพักโรงแรมสไตล์นี้ น้าอ้วนแนะนำนี่เลย The Chiang Mai Riverside แห่งนี้ ราคาเมื่อเทียบกับคุณภาพแล้วบอกได้เลยว่าถูกมากๆ ใครมาแล้วประทับใจทั้งนั้น ได้ยินว่าเดือนก่อน พี่ซอนย่า คูลลิ่งพาลูกมาพักด้วย (จองโรงแรมมาเองเลย) รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้เลยนะจ๊ะ www.thechiangmai.com
ติดต่อร้าน The Vorra Bistro (The Chiang Mai Riverside)
ชื่อร้าน : The Vorra Bistro
ที่อยู่ : 111 หมู่ที่ 7 ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.7472605,98.9853912 (แผนที่จาก Google Maps)
ติดต่อ : 093-1361551 , 053-447211 ต่อ 503 , http://www.thevorra.com , https://www.facebook.com/Thevorrabistro
เวลาเปิด–ปิด : 07:00 – 22:00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/236912wv-the-vorra-bistro
RELATED POSTS
-
ดิบดี Sushi Cafe ร้านอาหารญี่ปุ่น เจเจมาร์เก็ต เชียงใหม่
-
ตำแซบ พันนัว : Modern Delicious LAOS Cuisine
-
สัมผัสความเป็นราเมงพรีเมียมในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ น้ำซุปหอมเข้มข้นและกลมกล่อมท้าให้ลองที่ Yuu Dai Ramen
-
Wo Wo Tou (โวโวโถว) อาหารจีนฟิวชั่น รสชาติถูกปากคนไทย
-
จิบไวน์บรรยากาศเก๋ๆ บนชั้นดาดฟ้ากับ S Wine Bar & Bistro
-
อยากแซ่บนัวในแบบอีสาน หรือจะอิ่มเช้าๆ กำลังดีแบบเวียดนาม มาที่เดียวครบที่ร้าน ต้นตำ ลำแซ่บ สันทราย
-
เฮง เฮง ชาบูกระทะร้อน ร้านอร่อยของชาวหางดง
COMMENT