ชิมขนมหน้าตาและรสชาติระดับโลก แต่จ่ายในราคาคนไทย ร้านขนมที่ใครเห็นแล้วต้องร้องว้าว Saruda Finest Pastry นิมมาน
ส่วนตัวแล้วเวลาว่าง ๆ น้าอ้วนชอบดู Instagram หรือ Pinterest เกี่ยวกับอาหารและขนมสวย ๆ ที่เชฟชาวต่างประเทศเขามักจะทำ แล้วอัพโหลดขึ้นตามสื่อต่าง ๆ น้าอ้วนก็เห็นพวกขนมที่เขาประดิษฐ์ประดอยให้ดูหน้าตาอลังการ เว่อร์วัง และดูดีมาก็เยอะ แต่ก็ยังไม่เคยเห็นที่ไหนในเชียงใหม่จะทำแบบนี้บ้าง แต่สำหรับวันนี้น้าอ้วนเจอร้านขนมดี ๆ ที่ต้องบอกว่าขนมทุกตัวที่ทำออกมานั้นบรรจง ละเมียดละไม สร้างสรรค์ออกมาเหมือนงานศิลปะ และบอกเลยว่าดีกรีของเชฟที่นี่ไม่ธรรมดา วันนี้จะพามาดูร้านขนมที่ไม่ธรรมดา แต่ในราคาธรรมดามาก ที่ Saruda Finest Pastry
Saruda Finest Pastry ชื่อก็บอกแล้วว่า Finest คือต้องสุดยอดจริง ๆ ไม่งั้นไม่กล้าเอาชื่อนี้มาตั้งเป็นชื่อร้าน ร้านตั้งอยู่ในย่านสุดชิคที่สุดของเชียงใหม่ ณ เวลานี้ก็คือนิมมานเหมินท์ ร้านจะอยู่ซอย 3 เดินเข้ามาเรื่อย ๆ จนถึงกลางซอย ร้านจะอยู่ด้านขวามือ แต่ถ้ามาจากซอย 5,7 หละก็ ให้เลี้ยวซ้ายมาหน่อย ผ่านร้าน Tengoku ก็จะเจอร้านอยู่ด้านซ้ายมือเลย
บรรยากาศร้านสบาย ๆ ถ้ามากันกลุ่มใหญ่ บริเวณหน้าเค้านท์เตอร์จะมีโต๊ะกลางใหญ่มาก เหมาะสำหรับใครที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ 6-10 คนได้สบาย ๆ แต่ถ้ามากันกลุ่มเล็ก ๆ โต๊ะแบบ 3-4 คนก็พร้อมให้บริการด้วยเช่นกัน แต่ถ้าอยากชิลล์ นั่งกินขนมพร้อมมองผู้คนเดินไปมา โต๊ะหน้าร้านนี่แหละที่วันนั้นน้าอ้วนเล็งไว้ แต่… พลาดซะงั้น ๕๕๕๕๕
Orange Bliss (195 บาท) เมนูนี้ต้องบอกว่าถ้ามาถึงร้านปุ๊บ แล้วเห็นว่ามันวางอยู่ต้องรีบออเดอร์ทันที เพราะในแต่ละวันจำกัดเพียง 24 ลูกเท่านั้น เพราะอะไร? เพราะแต่ละลูก ใช้เวลาทำถึง 2 วันเชียวนะ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ Orange Bliss แต่ละลูกให้เสร็จ เพราะว่าด้านในจะเป็น Gel ส้มแมนดาริน แช่อิ่มแบบฝรั่งเศส รสชาติเปรี้ยวอมหวาน เปลือกด้านนอกเป็น White Chocolate ที่เคลือบและพ่น Glaze เพื่อให้ผิวเหมือนส้มจริง ๆ ถ้าสังเกตดูดี ๆ จะเห็นมีรอยบุบของเปลือกส้มด้วยนะ OMG อะไรจะเหมือนขนาดนั้น ฐานด้านล่างก็เป็น Crispy Rice แบบ Gluten Free ด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่แพ้แป้งรับรองหายห่วง
Mango Passion (185 บาท) เค้กรูปทรงรีผิวมันวาว สีสันมีการไล่เฉดกันแบบที่ว่าเห็นแล้วต้องอยากทำความรู้จัก (น้าอ้วนพยายามถ่ายมาไม่ให้มีแสงสะท้อนละ แต่ไม่ได้ เพราะมันวาวมาก) Moose Cheesecake ที่เนื้อเบา ๆ ต่างจากพวกชีสเค้กที่เราเคยกินกันตามปกติ ที่ห่อหุ้มไส้ข้างในที่ได้จากการเคี่ยวมะม่วง เสาวรส และส้มยูซุ จนได้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นเปลือกส้ม ฐานด้านล่างเป็นคุกกี้ผสมกับพาร์เมซานชีส เพื่อเพิ่มความกรุบกรอบ ด้านนอกสุดเคลือบด้วย White Chocolate และพ่น Glaze กว่า 3 รอบ จนได้ผิวที่มีสีสันไล่เฉดและมันวาวขนาดนี้
Violetta (175 บาท) เอาใจสำหรับใครที่ชอบความเป็นบลูเบอร์รี ข้างในจะเป็นไส้ Mascarpone Moose (ชีสแบบเดียวกับที่ทำทีรามิสุ) ด้านในจะเป็นไส้ Blueberry Compote ที่หุ้มด้วย White Chocolate และพ่น Glaze สีม่วงอ่อน ๆ ด้านล่างจะเป็น Fromate Cheesecake รสชาตินุ่มอร่อย
Apple Yuzu (175 บาท) กลิ่นหอมยั่วยวนของแอปเปิ้ลที่เคี่ยวกับส้มยูซึ ที่เห็นเป็นจุด ๆ ด้านบนนั่นไม่ใช่อะไรนะ แต่เป็นฝักวนิลาที่เขาขูด ๆ ขนได้เป็นเม็ดเล็ก ๆ ด้านล่างก็จะมีเฮเซลนัท เบค ครีม และเฮเซลนัทครีม เพิ่มความกรุบกรอบด้านล่างด้วย Sable Tart ซึ่งทางร้านทำเองด้วย
Mr. Autumn (195 บาท) เอาใจสำหรับใครที่ชื่นชอบช็อคโกแลตเป็นพิเศษ เริ่มต้นด้วยการใช้ 70% Chocolate Moose ที่นุ่มแต่แฝงความเข้มและขมเบา ๆ ที่แอบสอดไส้ด้วย Hazelnut Caramel ถ้าตักเข้าปากแล้วรู้สึกถึงความกรุบกรอบหละก็ นั่นแหละมาจาก Chocolate Biscuit ที่แอบแฝงอยู่ด้านใน สุดท้ายที่เห็นผิวเงา ๆ นั่นหละก็เขาเคลือบด้วย Chocolate Valrhona P125 ซึ่งถือเป็นช็อคโกแลตชั้นยอด ที่หาได้ยากว่าร้านไหนจะเอามาใช้ เพราะมันราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
มาพูดถึงเมนูคุกกี้กันบ้าง Cookie Peanut Butter (85 บาท) คุกกี้ที่ต้องบอกเลยว่าฉ่ำและรสชาติเข้มข้นมาก ทางร้านจะเอาถั่วลิสงมาทำ Peanut Butter เอง โดยสูตรในการทำคุกกี้ตัวนี้ทางเชฟศรุดา ได้ไปเรียนจากเชฟระดับโลกอย่าง Cédric Grolet ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเชฟขนมหวานอันดับ 1 ของโลก 2 ปีซ้อน
กินขนมกันแล้ว เราก็ต้องมีเครื่องดื่มไว้ดื่มหรือจิบแก้กระหายกันบ้าง น้าอ้วนแนะนำ Blooming Tea (170 บาท) ถ้ามากัน 2-3 คน บอกเลยว่าชากานี้เอาอยู่ ชาดอกไม้ที่ทุกคนเห็นแล้วต้องว้าว เพราะตอนที่เราหย่อนมันลงไปมันจะเป็นก้อนกลม ๆ แต่พอสักพักมันจะคลี่ตัวกลายเป็นช่อดอกไม้อยู่ในกาน้ำชา โดยหลัก ๆ จะประกอบไปด้วย ชาขาว ชาอู่หลง ชากุหลาบ และมะลิ โดยจะใช้เป็นยอดอ่อนใบชาเพื่อให้ได้กลิ่นและรสชาติที่ดีที่สุด โดยกานี้จะเสิร์ฟน้ำอยู่ 1 ลิตร แต่ถ้าหมดแล้วเติมได้นะจ๊ะ (ไม่มีชาร์จเพิ่ม) แต่น้าอ้วนแนะนำว่าชารสชาติจะดีที่สุด เมื่อใช้น้ำอยู่ที่ 1.5 ลิตร
จากที่ได้ชิมขนมทุกอย่างหมดเรียบร้อยแล้ว เราก็มาคุยถึงเกี่ยวกับตัวของเชฟเอง “เชฟศรุดา วิรัช” Owner Chef ผู้รังสรรค์เมนูต่าง ๆ นอกจากหน้าตาจะดีแล้ว รสชาติยังเรียกได้ว่าอร่อยสุด ๆ เชฟเองรักในการทำขนม และมีโอกาสฝึกฝนกับเชฟระดับประเทศ และระดับโลกมากมายหลายคน และที่สำคัญเชฟยึดถือเรื่องของการศึกษาไม่มีที่สิ้นสุด ได้ข่าวว่าในปีหน้าเชฟจะไปศึกษาวิธีทำขนมจากเชฟระดับโลกอีก 2-3 คนเป็นอย่างต่ำ เพื่อนำเทคนิคต่าง ๆ มารังสรรค์ขนมของที่นี่ให้เป็นที่ถูกใจของทุกคนมากยิ่งขึ้น
ร้าน : SARUDA FINEST PASTRY
ที่อยู่ : 12 นิมมานเหมินท์ ซอย 3 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.799019, 98.968525
ติดต่อ : 095-2245536 , https://www.facebook.com/SarudaPastry
เวลาเปิด-ปิด : 09.30 น. – 19.00 น. ทุกวัน
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/365335OC-saruda-finest-pastry
COMMENT