อาหารหน้าตาสวยงาม รสชาติถูกปาก เครื่องดื่มแปลกตา เมล็ดกาแฟจากทุกมุมโลก บรรยากาศสดชื่นสบายที่ Fernpresso Cafe
ฤดูฝนมาทีไร ก็เรียกได้ว่าช่วงเวลาแห่งชีวิต ช่วงเวลาแห่งการเกิดใหม่มาถึง … น้ำคือสิ่งที่ก่อให้เกิดชีวิต น้ำทำให้ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม เจริญเติบโตได้อย่างดี รวมไปถึงพืชประเภทเฟิร์น ซึ่งเป็นพืชที่ชอบน้ำมาก ที่ใดมีเฟิร์นก็ย่อมแสดงว่าที่นั่นมีความสดชื่น มีความชุ่มฉ่ำ และแน่นอนว่าที่ร้าน Fernpresso Cafe แห่งนี้เขามีเฟิร์นเยอะมาก ปกคลุมเกือบทุกตารางเมตร ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่า ถ้าใครอยากหาร้านกาแฟบรรยากาศเย็นสบาย สดชื่น ต้องที่นี่แหละ
นอกจากความสดชื่น ความเขียวชอุ่มที่เป็น Signature ของคาเฟ่แห่งนี้แล้ว ที่นี่ก็ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องบอกเลยว่าร้านไหน ๆ ก็เลียนแบบได้ยากนั่นก็คือ ร้านนี้สามารถนั่งมองดูสนามบินและเครื่องบินขึ้นลงอย่างใกล้ชิดด้วย เพราะว่าอยู่ติดกับสนามบินเลย (แต่ก็ขอความร่วมมืองดถ่ายภาพทั้งสนามบินและเครื่องบินนะจ๊ะ)
ทางมาร้านแห่งนี้ก็สะดวกมาก ไม่ว่าอยู่บนถนนเส้นใดก็สามารถทะลุมาร้านได้ไม่ยาก ถ้ามาจากคันคลองชลประทาน ก็ให้เลี้ยวเข้าซอยวัดช่างทอง หรือถ้าจากถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ก็เลี้ยวเข้าซอยบ้านตำหนัก และถ้ามาจากถนนเชียงใหม่ – หางดง ก็เลี้ยวเข้าซอยหมู่บ้านแกรนด์วิลล์-บ้านป่าเป้าหมู่ที่ 10 และขับมาเรื่อย ๆ ตามป้ายบอกทางก็จะมาถึงร้านโดยไม่ยาก หรือถ้ามาไม่ถูก โทรสอบถามเส้นทางที่เบอร์ 063-2215224 ได้
อย่างที่น้าอ้วนบอกเลยว่าที่นี่เกือบทุกตารางเมตรเป็นสีเขียว และปกคลุมไปด้วยเฟิร์นต่าง ๆ มากมาย โต๊ะและที่นั่งของร้านนี้ก็จะมีหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะนั่งแบบธรรมดา โต๊ะนั่งพื้นแบบญี่ปุ่น หรือโซฟาใหญ่ ๆ นุ่ม ๆ สามารถนั่งเหยียด เอน หรือนอนได้ และสำหรับใครที่ชื่นชอบเครื่องบิน ก็สามารถขึ้นไปชั้น 2 เลือกมุมดี ๆ ที่จะสามารถมองเห็นเครื่องบินขึ้นลงได้อย่างชัดเจน แต่ก็อย่าลืมนะว่าขอความร่วมมือในการงดถ่ายรูปสนามบินและเครื่องบิน
สำหรับร้านนี้ต้องบอกว่าน้าอ้วนก็มาบ่อยนะ มาทีไรก็เจอแต่อะไรใหม่ ๆ ถือเป็นร้านที่ไม่เคยหยุดคิด ไม่เคยหยุดพัฒนา และที่สำคัญบอกเลยว่าใครที่ชื่นชอบในการดื่มกาแฟ ที่นี่ก็จะเป็นร้านหนึ่งที่มีเมล็ดกาแฟดี ๆ ให้ได้ลองชิม ได้ดื่มกัน
เมี่ยงคะน้าดอกไม้ในสวนหลังบ้าน (120 บาท) ความสวยงามของดอกไม้ต่าง ๆ ที่ปลูกไว้ในสวนหลังบ้าน ล้วนแต่เป็นดอกไม้ที่ปลอดสารพิษ ไม่ใช้สารเคมีใด ๆ คัดเลือกดอกสวย ๆ กลีบสวย ๆ เอามาบรรจงแต่งแต้มรวมไปถึงผลไม้ต่าง ๆ ที่เลือกสรรเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับเมี่ยงคะน้าจานนี้ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสชาติกลมกล่อม ที่ปรุงขึ้นมาจากความชอบของเจ้าของร้านนั่นเอง
ข้าวผัดปลาเค็มหมูสับทรงเครื่อง (120 บาท) ข้าวผัดสีดอกอัญชันแปลกตา เสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียงนานาชนิด ทั้งหอมแดงซอย พริกขี้หนูหั่นฝอย ผักชี มะนาว แตงกวาและผักอื่น ๆ ขึ้นชื่อว่าข้าวผัดปลาเค็ม ใครที่ไม่ชอบกลิ่นของปลาเค็มก็คงรู้สึกไม่น่าจะโอเคกับจานนี้ แต่บอกเลยว่าเรื่องกลิ่นนั้นหายห่วง ถ้าพูดกันเป็นภาษาชาวบ้านก็อาจจะเรียกได้ว่า กลิ่นผู้ดีมาก เพราะจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่ถ้าได้ตักเข้าปากชิมแล้วบอกเลยว่ารสชาติปลาเค็มกลมกล่อมมาก
ข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้ง (150 บาท) ข้าวสวยร้อน ๆ ที่โปะทับด้วยไข่ข้นสีเหลืองสวยงาม เสิร์ฟพร้อมกับต้มยำกุ้งน้ำข้น ที่รสชาติกลมกล่อมมาก เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดทุกอย่างลงตัวกำลังดี พร้อมทั้งกุ้งไซส์ขนาดพอดี ที่รสชาติของต้มยำกุ้งเข้าเนื้อดีมาก
ซุปผักโขม (140 บาท) ผักโขมที่ปั่นจนละเอียด เคี่ยวจนกลายเป็นซุปข้น ๆ ก่อนเสิร์ฟทางเชฟก็จะเอาแป้งพัฟมาคลุมให้ทั่วแล้วเอาไปอบจนพัฟสุก พร้อมเสิร์ฟเป็นซุปผักโขมข้น ๆ ที่ได้ทั้งความหอม มันและความกรอบของแป้งพัฟในคำเดียวกัน
บาร์บีคิว พ็อคช็อป (250 บาท) สเต๊กหมูที่เอาไปย่างไฟจนสุก ทาด้วยซอสบาร์บีคิวสูตรเด็ดของทางร้าน เนื้อนุ่มฉ่ำซอส เสิร์ฟพร้อมกับผักและผลไม้ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น ที่จริงแล้วทางร้านจะเลือกเสิร์ฟเป็นมันฝรั่งทอดก็ได้ แต่ที่เลือกผลไม้และผักนั้นเพราะความชอบของเจ้าของร้านเองและคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับลูกค้ามากกว่า
สำหรับขนมต่าง ๆ ที่นี่ก็มีเยอะแยะมากมาย เริ่มต้นจากเมนูเอาใจสายสุขภาพ และช่วงนี้อโวคาโดออกเยอะมาก เลยเอามาทำเป็น Avocado Pie (95 บาท) แป้งพายกรุบกรอบด้านล่าง ด้านบนมีเนื้ออโวคาโด้ที่ไม่ผสมน้ำตาลเลย ได้รสชาติของอโวคาโด้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับใครที่อยากได้ความหวานบ้าง ทางร้านก็เสิร์ฟพร้อมน้ำผึ้งหอมหวานมาให้ด้วย
Fernpresso Healthy Sandwich (120 บาท) อีกหนึ่งเมนูที่เอาใจสายสุขภาพ แซนวิชที่มีส่วนผสมของกรีกโยเกิร์ต และซอสสตอร์วเบอร์รี่โฮมเมด เสิร์ฟพร้อมกับผลไม้สดต่าง ๆ และกาโนล่าธัญพืช
Matcha On Snow (90 บาท) เอาใจสายญี่ปุ่นกันบ้าง กับไอศกรีมชาเขียวเสิร์ฟพร้อมกับถั่วแดง และเพิ่มความนุ่มละมุนของวิปครีม อิ่มอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ
และสำหรับใครที่อยากนั่งจิบน้ำชายามบ่าย แต่ถ้าใครเคยเห็นราคาของ Afternoon Tea set ในโรงแรมต่าง ๆ หละก็คงรู้สึกว่าหนาวกันเลยทีเดียวเพราะราคาค่อนข้างแรงเลย แต่ที่นี่ Afternoon Tea Set ราคาเพียง 290 บาท เท่านั้น เซ็ทน้ำชาที่เสิร์ฟกับขนมต่าง ๆ รวม ๆ กันแล้วเกือบ 10 อย่างที่มีทั้งคาวและหวาน นั่งจิบชาอร่อย ๆ กับขนมดี ๆ พร้อมรูปสวย ๆ ที่ถ่ายรูปไปอวดเพื่อน ๆ ได้อย่างสบายเลย
ของคาว ของหวานกันไปแล้ว มาดูในส่วนของเครื่องดื่มกันบ้าง อย่างที่น้าอ้วนเกริ่นไปตอนแรกว่าที่นี่จะเป็นสวรรค์ของคนรักกาแฟแห่งใหม่ เพราะทางร้านจะสรรหากาแฟดี ๆ ใหม่ ๆ หรือหายากมาไว้บริการสำหรับลูกค้าท่านใดที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ
Drip Special (120-300 บาท ขึ้นอยู่กับเมล็ดกาแฟ) สำหรับตัวที่น้าอ้วนได้ลองวันนี้เป็น Moonstone โดยคุณ Aek Suwanno ซึ่งเป็นกาแฟที่เมื่อเรา drip มาแล้วจะได้ aroma ของ Lychee, Rose, Candy like, Floral Creamy ซึ่งถือว่าเป็นกาแฟที่มีคนต้องการชิมมากที่สุดในขณะนี้
นอกจาก Moonstone แล้ว ที่นี่ก็ยังมีเมล็ดกาแฟเด็ด ๆ ที่หาดื่มได้ยากอีกหลาย ๆ ตัวเช่น Colombia San Jose Rum Barrel ซึ่งเป็นกาแฟที่มีกลิ่นของเหล้ารัม และวิสกี้
Nan Geisha โดยคุณวิชัย ที่จะได้กลิ่นของดอกมะลิ, ชาเอิร์ลเกรย์ และมะกรูด
หรือแม้แต่ Costa Rica Canet Musician Mozart กาแฟที่มีกลิ่นของความเป็น บลูเบอร์รี่, ลาเวนเดอร์, กุหลาบ, ลูกอม เป็นต้น
Americano Honey Jelly (115 บาท) เป็นกาแฟอเมริกาโน่ที่เอาไปปั่นจนละเอียด แต่ยังคงเข้มข้นของกาแฟ และได้ความหวานของน้ำผึ้ง เสิร์ฟพร้อมกับ Coffee Jelly ที่หนึบหนับ หยุ่น ๆ เพิ่มรสสัมผัสของกาแฟแก้วนี้ไม่ให้น่าเบื่อ
Rum Latte (150/180 บาท) กาแฟลาเต้สูตรเด็ดของทางร้าน ที่มีส่วนผสมลับที่ทำให้รสชาติและความเข้มข้นของกาแฟดียิ่งขึ้น
Rosy (150/180 บาท) Coffee Cocktail สูตรใหม่ ที่ได้ความหวานและความหอมของกุหลาบ เพิ่มความหวานอมเปรี้ยวของลิ้นจี่ ท็อปด้วย Espresso Shot และ Bubble smoke ด้วยควันกลิ่นกุหลาบ เพิ่มความตื่นตาตื่นใจให้กับแก้วนี้ได้ไม่น้อย
Tripple (220 บาท) เป็นเมนูที่ต้องบอกว่าสำหรับใครที่ “รักพี่เสียดายน้อง” อยากจะลองอะไรหลาย ๆ อย่าง ดังนั้นเมนูนี้น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี กับกาแฟในเกรดพรีเมียมที่เสิร์ฟมา 3 แบบ 3 สไตล์ ในคราวเดียวกัน
Premium Balance ที่มาในรูปแบบของ Piccolo Latte ที่เบล็นด์มาจาก Ethiopian, Indian, Sumatra, Thai จะได้ความรู้สึกที่หนักแน่น ได้กลิ่นของถั่ว, ช็อคโกแลตและเครื่องเทศอ่อน ๆ และมีกลิ่นของผลไม้เขตร้อนติดปลายลิ้น
Premium Strong ที่มาในรูปแบบของ Dirty ซึ่งจะเบล็นด์มาจาก Ethiopian, Indian, Sumatra, Thai แก้วนี้จะได้ความเป็นถั่ว, ช็อคโกแลต และเครื่องเทศ สกัดออกมาอย่างเข้มข้นลงตัว ตัดกับนมสูตรพิเศษที่หวานมัน
Premium Fresh ที่มาในรูปแบบของ Iced Americano เบล็นด์มาจาก Ethiopian, Colombia, Guatemala ทำให้ได้ความรู้สึกที่สดชื่น ฉ่ำ ได้กลิ่นของเชอร์รี่ น้ำผึ้ง และดอกไม้หอม
ไม่ว่าจะเป็นความชุ่มฉ่ำของบรรยากาศหลังยามฝนตก ที่ต้นเฟิร์นน้อยใหญ่คอยเก็บกักน้ำเอาไว้ แล้วค่อย ๆ ปล่อยความชื้นนั้นออกมาสร้างเป็นความเย็นสบายในทุกพื้นที่ที่ปุกคลุมอยู่ นั่งชิลล์ ๆ พร้อมเครื่องดื่มที่หลากหลาย หรือจะเป็นกาแฟแก้วโปรด กับเมล็ดกาแฟดี ๆ ที่ทางร้านตั้งใจคัดสรรและเสาะหามาจากทุกมุมโลก เพื่อให้คอกาแฟได้มาชิมกัน น้าอ้วนบอกเลยว่าฤดูฝนแบบนี้ สถานที่ชิลล์ ๆ แบบนี้ถ้าใครไม่มาก็รู้สึกพลาดแน่นอน
ชื่อร้าน : FERNPRESSO CAFE
ที่อยู่ : 224 ซอยช่างทอง 4 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.760961, 98.959206
ติดต่อ : 063-2215224 , https://www.facebook.com/Fernpresso-cafe-1041211955987617
เวลาเปิด-ปิด : จันทร์ – ศุกร์ 10:00 น. – 19:00 น., เสาร์และอาทิตย์ 08:00 น. – 19:00 น.
Wongnai Review : https://www.wongnai.com/restaurants/257098ap-fernpresso
COMMENT