ครัวลุงแซม @เวียงนิมมาน ร้านอาหารไทยสุดฟิวชั่น

ชื่อร้าน : ครัวลุงแซม @เวียงนิมมาน ร้านอาหารไทยสุดฟิวชั่น เชียงใหม่
ที่อยู่ : 24 ซอย 17 ถนนนิมมานเหมินทร์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.794518,98.968668 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ :   084-0417975
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 20:00 น. ทุกวัน

ร้านครัวลุงแซม เป็นร้านอาหารที่น้าอ้วนรู้จักมานานแล้วครับ เดิมทีร้านนี้ตั้งอยู่แถวๆ สันพระเนตร อ.สันทราย น้าอ้วนก็ติดตาม Page ร้านนี้มานานอยู่เหมือนกัน เห็นอาหารร้านนี้น่ากินหลายๆ อย่าง แต่เสียดายที่ไม่สามารถไปชิมได้เพราะร้านเขาปิดเร็ว บ่ายสามโมงก็ปิดแล้ว เลยพลาดโอกาสทู๊กที แต่เป็นโชคดีครับ ที่วันนี้เขาได้ขยายสาขาที่สองมาเปิดในเมืองแล้ว แถวนิมมานเหมินทร์นี่เอง แถมยังปิดดึกอีกด้วย 2 ทุ่มแหน่ะ เลยทำให้น้าอ้วนมีโอกาสได้แวะไปชิมความอร่อยของอาหารที่ครัวลุงแซม@เวียงนิมมาน แห่งนี้

ร้านเดิมที่แถวสันทราย เขาตั้งชื่อร้านว่าครัวลุงแซม เฉยๆครับ แต่สาขาที่สองที่มาอยู่นิมมานเหมินทร์แห่งนี้ เขาตั้งชื่อว่า ครัวลุงแซม@เวียงนิมมาน ตอนแรกน้าอ้วนเข้าใจว่า คำว่า “เวียงนิมมาน” ต้องการสื่อว่าอยู่ในเมืองและย่านนิมมานเหมินทร์ แต่ความจริงแล้วคำว่า เวียงนิมมาน เป็นชื่อของเกสเฮ้าส์ที่ร้านครัวลุงแซมตั้งอยู่ ดังนั้นก็เลยใช้ว่า ครัวลุงแซม@เวียงนิมมาน นี่เอง (เวียงนิมมานเกสเฮ้าส์ บริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว ดูรายละเอียดได้ที่ www.wiangnimman.com)

สำหรับทางมาที่ร้าน มาได้ 2 ทางครับ แล้วจุดที่สังเกตุได้ง่ายมากก็คือร้านนี้อยู่ซอยเดียวกับร้านไอศครีมชื่อดังอย่าง iBerry ครับ ทางมาร้านง่ายๆ ก็คือ

1. ถ้าหากมาจากทางถนนศิริมังคลาจารย์ ให้เข้าซอยสายน้ำผึ้ง (หน้าปากซอยจะมีร้านสุขเกษมตั้งอยู่) เข้าซอยมาเรื่อยๆ จะผ่านร้านไอศครีม iBerry นะครับ เลยมานิดเดียวร้านจะอยู่ขวามือ มีป้ายและโลโก้ของร้านชัดเจน

2. หรือใครที่เข้ามาทางถนนนิมมานเหมินทร์ ก็ให้เข้าซอย 17 นะครับ (ที่มีร้าน Neighborhood และร้าน Magenta ที่น้าอ้วนเคยรีวิวไปแล้วนั่นแหละครับ) พอถึงร้านอาหารคุณหมอ คูซีน ก็ให้เลี้ยวขวานะครับ แล้วก็เลี้ยวซ้ายอีกที ผ่านโรงเรียนบ้านภาษา NES ไป ไปอีกประมาณ 200 เมตร ร้านก็จะอยู่ซ้ายมือนั่นเอง

แผนที่ร้าน ครัวลุงแซม @เวียงนิมมาน ร้านอาหารไทยสุดฟิวชั่น เชียงใหม่

ครัวลุงแซม@เวียงนิมมาน เป็นร้านเล็ก ถึงเล็กมาก ๕๕๕ มีโต๊ะอยู่ประมาณ 4-5 ตัวครับ รับลูกค้าได้ประมาณเท่าที่ดูด้วยสายตาก็ราวๆ 20 คนครับ แต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัดอะไรนะครับ สำหรับที่จอดรถก็สามารถจอดข้างถนนได้เลย

น้าอ้วนชอบมากสำหรับเมนูที่ร้านนี้ เพราะเขาทำได้สวยเลยทีเดียว จะเป็นเมนูที่มีรูปภาพอาหารประกอบด้วย และการดีไซน์และการปริ้นเมนูออกมามันดูดีอ่ะ ทำให้เราสามารถรู้ได้เลยว่าอาหารเมนูนี้มีหน้าตายังไง แถมราคาน้าอ้วนว่าไม่แพงด้วยนะ อาหารจานเดียวเริ่มต้นที่ 40 บาทเอง ถ้าเป็นพวกปลาแซลมอน 139 บาทกันซะส่วนใหญ่เลย

มาถึงจุดฟินกันได้แล้ว ที่ร่ายยาวมาทั้งหมด สุดท้ายร้านนี้จะรุ่งหรือไม่รุ่ง ก็ต้องมาดูกันตรงนี้แหละครับ อาหารเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ร้านนั้นได้ไปต่อหรือไม่ (ไม่ต้องส่งคะแนนโหวต เพราะไม่ใช่เดอะสตาร์)

จานแรกที่วางมาเลยก็คือข้าวผัดครับ แต่ไม่ใช่ข้าวผัดธรรมดา เพราะมันคือ ….. ข้าวผัดปลาแซลมอน (หึหึ แลดูอลังการไฮโซมาก) จานนี้เสิร์ฟมา 1 อิ่ม (สำหรับหุ่นอย่างน้าอ้วน) แต่ถ้าสาวๆ ตัวเล็กๆ ก็คงได้หลายอิ่มอยู่ รสชาติข้าวผัดถือว่าอร่อยกลมกล่อมดีครับ แต่ที่ไฮโซก็คือปลาแซลมอนเนี่ยสิ อร่อยดีนะ ใครอยากทานอะไรง่ายๆ แบบว่าคิดไม่ออกว่าจะกินอะไร (พูดง่ายๆ ก็เมนูสิ้นคิดนั่นแหละ) แต่ที่นี่เป็นสิ้นคิดแบบไฮโซ ก็มาลองได้ครับ จานนี้ 69 บาทเท่านั้นเอง

ตามมาด้วยจานที่สองเสิร์ฟมาปุ๊บ ข้าวอะไรวะ ดำๆ (แอบคิดในใจข้าวหนุกงา 555) ชื่อเมนูอย่างเป็นทางการก็คือข้าวผัดโหระพาปลา(นิล)ทอด ข้าวสีดำๆ นั่นก็คือเป็นข้าวที่ผัดกับซอสโหระพาครับ กลิ่นนี่ได้เลยนะ รสชาติก็กลมกล่อมดีครับอร่อย และที่สำคัญปลาทอดที่เสิร์ฟคู่กับข้าวคือปลานิลที่นำไปชุบแป้งบางๆ แล้วทอด เนื้อข้างนอกจะกรอบนิดๆ แต่ข้างในนุ่มมาก (จริงๆ) แถมได้ชิ้นใหญ่มาก ถ้าอยากรู้ว่าชิ้นขนาดไหน ลองแบฝ่ามือออกมา (บวกไปอีก 10% สำหรับคนตัวเล็ก เพราะให้เอาไซส์ฝ่ามือน้าอ้วนเป็นมาตรฐาน หึหึ) นั่นแหละชิ้นขนาดนั้นแหละครับ // เคล็ดลับการทานเมนูนี้ให้อร่อยคือ ให้บีบมะนาวลงบนข้าว และบนปลาทอดครับ จะได้อรรถรสที่แท้จริง

เมนูที่สาม จานนี้เสิร์ฟมาแบบอลังการ และเป็นเมนูไฮไลท์ของทีร้านด้วย (Limited Stock ถ้าอยากกินต้องให้ไว ถ้าหมดอดกิน) ซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิว บอกได้คำเดียวว่าสมแล้วที่เป็นเมนูขึ้นชื่อของที่ร้าน เพราะเนื้อร่อนมาก ไม่จำเป็นต้องใช้มีดแงะเลยทีเดียว แค่ช้อนและส้อมสองอันก็ขูดเนื้อออกได้มาแล้ว (ก็ไม่ให้เนื้อร่อนได้ไง ก็เล่นอบกันตั้งเกือบ 3 ชั่วโมงแหน่ะ) พร้อมกับราดซอสบาร์บีคิวสูตรพิเศษของทางร้าน บอกเลยว่าอร่อย สนนราคา 149 บาท หึหึ

เมนูที่สี่ ตามมาติดๆ เมื่อกี้เรากินปลาแซลมอน ชิ้นเล็กๆ ในข้าวผัดไปละ รอบนี้มาสะใจกับปลาแซลมอนชิ้นโตๆ บ้างในเมนูปลาแซลมอนในซอสสามรส บ่องตงไม่เคยเห็นร้านไหนหั่นปลาแบบนี้มาก่อน เนื้อปลาชิ้นหนามากๆ ส่วนรสชาติเนื้อปลาข้างนอกจะสุกครับ แต่ข้างในยังนุ่มอยู่เลย (เคยไปกินสเต็กปลาแซลมอนร้านอื่นๆ เนื้อปลามันจะสุกเท่ากันหมดเลย) แต่ที่นี่ลักษณะจะว่ากรอบนอกนุ่มในก็ว่าได้ แถมราดซอสสามรสมาอีก แหล่มมาก อร่อยๆ

ปิดท้ายมีแต่ของแห้งทั้งนั้น ก็เลยต้องมีเมนูน้ำแกงให้ซดบ้าง ฟิวชั่นสุดๆ สำหรับเมนูนี้ที่ชื่อว่าต้มยำไข่เจียวน้ำข้น หึหึ น้ำต้มยำถือว่าอร่อยครับ รสเด็ดแต่ไม่จัดจ้านเท่าไร (ที่ทำรสกลางๆ เพราะถ้าคนที่เขาไม่ทานจัด เขาจะได้ทานได้ แต่ถ้าอยากได้แบบแซ่บๆ บอกได้เขาจัดให้) ในไข่เจียวเขามีหมูสับด้วยนะ แต่น้าอ้วนว่ายังไม่ฟิน เพราะอาจจะเป็นอาหารพื้นๆ ที่เรากินกันบ่อย (มากกกก) อย่างไข่เจียวแต่นำเสนอมาในรูปแบบที่แปลกใหม่เท่านั้นเอง แต่โดยรวมแล้วเมนูนี้ก็อร่อยดีครับ

หลายคนที่มาอ่านจนจบ อาจจะคิดว่าอีตาน้าอ้วนเชียร์ร้านนี้ออกนอกหน้าหรือเปล่า? มีอะไรเป็นพิเศษเหรอ บอกเลยว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ไม่ได้รู้จักกันเป็นพิเศษ เขาไม่ได้ต้อนรับ หรือเทคแคร์ หรือเสนออะไรให้เป็นพิเศษ แต่สิ่งที่พิเศษคือความอร่อยและความดูดีของอาหาร ร้านนี้น้าอ้วนว่าเขาเข้าใจที่จะนำเสนออาหารหลายๆ อย่างให้ออกมาดูดี น่ารับประทาน เขารู้จักประยุกต์ ปรับปรุงเมนูต่างๆ ให้ดูแปลกตาและน่าสนใจที่อยากจะลองทาน พร้อมทั้งราคาที่สมเหตุสมผล (หรือบางอันถูกเวอร์ด้วยซ้ำ) สำหรับรสชาติอาหารน้าอ้วนการันตีครับว่าที่นี่โดยรวมแล้วเขาอร่อยมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเชฟใหญ่ของที่นี่เขาเคยทำงานอยู่ที่สหรัฐอเมริกามาเป็น 10 ปี เก็บเกี่ยวรูปแบบ เก็บเกี่ยวแนวทางการทำอาหารตามแบบฉบับฝรั่ง แล้วนำมาฟิวชั่นกับอาหารไทยของเรา ให้มันออกมาดูดี และน่าสนใจมากขึ้น และจากที่ได้พูดคุยกันสิ่งหนึ่งที่พ่อครัวร้านนี้เน้นย้ำเสมอคือความเอาใจใส่ในทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ กรรมวิธีในการทำ หรือความรู้สึกของลูกค้า เขาเอาใจใส่เสมอ

ร่ายมาซะยาวสำหรับรีวิวนี้ หากใครว่าอีตาน้าอ้วนขี้โม้ โอเวอร์ในรีวิวนี้ ต้องลองไปพิสูจน์ ต้องลองไปชิมเอง แล้วเรามา discuss กันว่าร้านนี้เป็นจริงอย่างที่น้าอ้วนว่าหรือเปล่า โอเคไหม?

Share on Facebook

Tweet

Follow us