Posted On
Le Bistrot Italian Restaurant โรงแรมสุริวงศ์ ไนท์บาร์ซ่า
ชื่อร้าน : Le Bistrot ห้องอาหารอิตาเลี่ยน โรงแรมสุริวงศ์ ไนท์บาร์ซ่า เชียงใหม่
ที่อยู่ : โรงแรมสุริวงศ์ ถนนช้างคลาน ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด GPS : 18.783914,99.000074 (แผนที่จาก Google Map)
ติดต่อ : 053 270051-7 , http://www.suriwongsehotels.com/
เวลาเปิด-ปิด : 11:00 – 24:00 น.
วันนี้น้าอ้วนได้รับเกียรติจากทางโรงแรมสุริวงศ์ เชียงใหม่ ย่านไนท์บาร์ซ่าให้ไปรีวิวห้องอาหาร ที่เป็นหนึ่งในห้องอาหารหลักของโรงแรมนะครับ ห้องอาหารนี้จะเป็นอาหารอิตาเลียน ชื่อว่าห้องอาหาร Le Bristrot ซึ่งอยู่บริเวณชั้นล่างของโรงแรมนั่นเอง โรงแรมสุริวงศ์นี้ เป็นโรงแรมเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองเชียงใหม่ของเรามานานมาก น้าอ้วนว่าน่าจะราวๆ 20 ปีได้ เพราะน้าอ้วนจำได้ว่าตอนเป็นวัยรุ่นใหม่ก็เห็นโรงแรมนี้แล้ว และโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกที่หนึ่งของเชียงใหม่ด้วน นั่นก็คือไนท์บาร์ซ่า ลองตามน้าอ้วนมาดูครับ ว่าอาหารอิตาเลียนของโรงแรมนี้ จะอร่อยแค่ไหน
อย่างที่บอกครับว่าโรงแรมสุริวงศ์ ตั้งอยู่ย่านไนท์บาร์ซ่า ซึ่งเป็นย่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ น้าอ้วนเชื่อว่าส่วนน้อยที่จะไม่รู้จักไนท์บาร์ซ่า และโรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Mc Donalds สาขาไนท์บาร์ซ่านั่นเอง สังเกตุง่ายๆ จะมีร้านกาแฟ Star Bucks ตั้งอยู่นั่นเอง
ในส่วนของบรรยากาศ จุดเด่นหนึ่งที่ห้องอาหารที่นี่ได้เปรียบคือ เขาจะมีลานเทอเรซโล่งๆ อยู่หน้าห้องอาหารที่เป็นห้องแอร์ ซึ่งบริเวณจุดนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมานั่งดื่มกาแฟ ดื่มเบียร์ นั่งพักผ่อนพูดคุยกัน และชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การดำเนินชีวิตของชาวไนท์บาร์ซ่า ซึ่งด้านนอกจะเป็นโอเพ่นแอร์ครับ ถ้าเป็นช่วงนี้อากาศจะค่อนข้างร้อนนิดหนึ่ง แต่เขาก็มีระบบละอองน้ำเพื่อลดอุณหภูมิลง
ส่วนใครไม่ชอบอากาศร้อนก็เข้ามานั่งด้านในได้ครับ มีแอร์เย็นฉ่ำสบาย แต่อาจจะดูการตกแต่งไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไร เพราะตอนนี้ทางโรงแรมกำลังอยู่ในช่วงของการปรับโฉมรูปแบบใหม่อยู่ เชื่อเลยว่าอีกไม่นาน เราก็จะได้เห็นห้องอาหาร Le Bristrot โฉมใหม่อลังการกว่าเดิมแน่นอน (น้าอ้วนแอบไปเห็นรูปสเก็ตมาแล้ว บอกได้เลยว่าสวยมากครับ)
หากหลายคนคิดว่าอาหารโรงแรมจะต้องแพง น้าอ้วนว่าลองมาดูเมนูด้านล่างก่อนนะครับ คุณอาจจะเปลี่ยนใจบ้างก็ได้ แต่ถ้าเอาไปเที่ยบกับร้านอาหารอิตาเลียนทั่วไป น้าอ้วนยอมรับว่าอาจจะแพงกว่า แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเป็นระดับโรงแรม ถ้าเทียบในระดับโรงแรมเดียวกัน น้าอ้วนว่าอาหารที่นี่ราคาก็ไม่สูงนะครับ อีกทั้งเป็นราคาที่สุทธิแล้วด้วย ไม่จำเป็นต้อง ++ แล้ว
สำหรับรสชาติของอาหาร น้าอ้วนขอเริ่มทีละอย่างเรียงคิวลำดับการทานเลยนะครับ ตั้งแต่พวกอาหารเรียกน้ำย่อย แล้วก็อาหารจานหลัก โดยธรรมเนียมหลายๆ ที่ก็จะเริ่มจากขนมปังกันก่อน ที่นี่จะเป็นขนมปังกระเทียมครับ มาเป็นก้อนเลย (ที่อื่นเขาจะหั่นกันมาเป็นชิ้นๆ) แต่ที่นี่ เสิร์ฟเป็นก้อน Hahaha รสชาติน้าอ้วนว่ายังธรรมดานะครับ ไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ก็โอเค
ตามมาด้วยซีซ่า สลัด (Caesar Salad) เป็นอาหารที่คุ้นเคยมากครับ เพราะไปที่ไหนต้องได้ทานตลอด Hahaha สำหรับรสชาติของจานนี้น้าอ้วนถือว่ากลางๆ ยังไม่โดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ เพราะจากที่ได้ไปลองชิมของหลายๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นทั้งอาหารอิตาเลียนข้างนอก หรือในโรงแรม รสชาติก็จะคล้ายๆ กัน
เรียกน้ำย่อยกันเรียบร้อยแล้ว พอน้ำย่อยสงบลง เรามาต่อกันด้วยจานหลักกัน มาทานอาหารอิตาเลียนถ้าพลาดเมนูพาสต้าไป ก็คงเรียกว่ามาไม่ถึงร้านอิตาเลียนก็ว่าได้ นี่ครับเปิดโรงด้วยจานนี้เลย Fettuccine Meat Ball เป็นพาสต้าที่ผัดกับซอสมะเขือเทศใส่เนื้อบดเป็นก้อน (จะเรียกว่าลูกชิ้นมันก็ไม่เชิงแบบนั้น) รสชาติถือว่าโอเค ใช้ได้เลยครับ โดยเฉพาะเจ้าตัว Meat Ball รสชาติเนื้อเต็มปาก เต็มคำ ทานคู่กับเส้นพาสต้าที่ทำได้พอดี จานนี้น้าอ้วนให้ผ่านเลย
และปิดท้ายอาหารคาวมื้อนี้ด้วยความอลังการของสเต็ก ด้วย Steak Pork Chop เป็นสเต็กหมูชิ้นโตมากครับ เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำเกรวี่สูตรพิเศษของทางร้าน แล้วก็จะมีผักย่างด้วยน้าอ้วนชอบมาก ผักย่างเนี่ย เวลาทานก็ราดน้ำเกรวี่ลงไป หั่นเนื้อเข้าปาก เนื้อหมูนุ่มดีครับแล้วก็น้ำเกรวี่อร่อย จานนี้ให้ผ่านฉลุยไปเลย
และปิดท้ายด้วยเครื่องดื่ม วันนี้เครื่องดื่มจะเป็นลิ้นจี่หมดเลยครับ เริ่มจากน้ำลิ้นจี่ ลิ้นจี่ไดคิวรี่ และลิ้นจี่คอลลีน ซึ่งแบบแรกจะเป็นน้ำลิ้นจี่หวานๆ เปรี้ยวๆ หอมๆ สดชื่นครับ แต่อีกสองแก้วจะเป็นค็อกเทล มีรสชาติของแอลกอฮอลนิดๆ ถือว่าอร่อยดีนะครับ หวาน สดชื่น ขมนิดๆ ตามประสาของค็อกเทล ดื่มง่าย ชิลดี
ปิดท้ายจริงๆ ด้วยไอศครีมครับ ที่นี่เขามีไอศครีมยี่ดังชื่อ Movenpick ซึ่งเป็นไอศครีมที่ชาวต่างชาติจะรู้จักดี วันนี้น้าอ้วนได้ชิมรส Passion Fruit & Mango ซึ่งมีรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ของเสารสและมะม่วงผสมกัน และอีกรสชาติหนึ่งคือ Maple Walnut ซึ่งเป็นรสชาติของ Walnut แท้ๆ รสชาติของทั้งสองบอกได้เลยว่าพรีเมียมมาก และตัวไอศครีมจะมีเนื้อของ Walnut และ Mango ผสมอยู่ด้วยทำให้ทานแล้วอร่อยมากครับ
Le Bristrot ถือเป็นร้านอาหารอิตาเลียนคุณภาพอีกร้านหนึ่ง ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยได้รู้จัก หรือไม่เคยได้มาลองสัมผัส จุดเด่นของที่นี่คือเขาจะอยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอันดับต้นๆ ของเชียงใหม่ น้าอ้วนว่าบางครั้งการที่ชาวเชียงใหม่อาจจะยังไม่เคยมาเยี่ยมห้องอาหารแห่งนี้ ก็เพราะคิดว่าอาจจะเป็นแหล่งของชาวต่างชาติ เพราะถ้าเราสังเกตุดูจากลานโล่งหน้าร้าน (Terrace) จะเห็นแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหลัก คนไทยเลยไม่คิดที่จะแวะ แต่หากได้ดูรีวิวนี้ อยากทานอาหารอิตาเลียนอร่อยๆ ลองแวะมาสักครั้้งครับแล้วจะติดใจ
RELATED POSTS
-
อัพเกรดความอร่อยขึ้นอีกขั้น กับปิ้งย่างรสชาติพรีเมียมในราคาไม่เกินเอื้อม The Grill @ CNX
-
ร้านอาหารญี่ปุ่นใจกลางแหล่งท่องเที่ยว ผสานกับความอร่อยจากวัตถุดิบชั้นดี ลงตัวได้ที่ AIKU Japanese Bar & Restaurant
-
Cafe’ Have A Hug | Gallery-Fields-Fusion แม่โจ้
-
Hidden Gem แห่งใหม่ทั้งรสชาติอร่อย บริการดี แถมราคาสบายกระเป๋าที่ Sarah House Cafe
-
จะไทย จะเทศ ก็มีทุกประเภท อิ่มเอมกันเต็มที่ ร้านราดหน้าฮ่องกงบ้านถวาย @นิมมานซอย 7
-
ร้านลับ ร้านชั้นสูง อิ่มอร่อยหลากหลายเมนู บรรยากาศชิลล์ใจกลางนิมมาน ในราคาเพียงหลักสิบที่ Cainito Homemade Restaurant
-
Chill Out ในคำ่คืนสุดพิเศษ ดื่มด่ำค็อคเทลสูตรเด็ด ที่ D-Square
COMMENT